วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

วันนี้เสนอตอน "กูไม่ให้ชาร์จโว้ย"



เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยเฮียจะละอ่อนในวงการโรงแรมอยู่ เพิ่งเข้ามาใหม่ ๆ ยังไม่มีโมเดลลิ่งเป็นของตัวเอง เรื่องมีอยู่ว่ารอบดึกวันหนึ่งสมัยเฮียยังเป็น G.S.A เฮียรับ booking มาอันนึงเป็นการต่อรอบมาจากรอบบ่าย หน้าตาตอนมันส่งรอบนี่ฟินส์มาก แม่งเลิกงานปุ๊บสามีจอดรถรอหน้า Lobby เตรียมไปต่อกันที่ร้าน Decem หัวหินต่อ (ไม่ต้องรู้นะเฮียอยู่โรงแรมไหนในหัวหินมันไม่ใช่ Point) ทีนี้ตอนรับมาก็เคลียร์กันเรียบร้อยว่าแขกมากัน 2 คนนะจ่ายเงินมาแล้วจะมาเช็คอินท์ประมาณห้าทุ่มครึ่งก็โอเครับมา สักพักเวลาประมาณ สี่ทุ่มครึ่งมีรถเข้ามาจอดหน้า Lobby ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแขกแน่ ๆ ว่าแล้ว Bell ก็ไปเอากระเป๋าขึ้นมา แว้บแรกที่เห็นนั้นเป็นชายหนุ่มรูปงามสูงชะลูดตูดปอดยอดทหารม้าชักปืนช้าแก้ผ้าไว กับหญิงสาวแรกแย้มนางหนึ่งเดินมานี่ลุ้นแทบตายว่าเสื้อไอ้ผู้ชายมันจะปริป่ะวะยืดอกซะอย่างกับแผ่นยิปซั่ม

มาถึงเฮียก็ขอเอกสาร ขอบัตรเครดิต แล้วก็แนะนำสิ่งอำนวยความสะดวกตามปกติทีนี้โรงแรมเฮียเนี่ยมันมีข้อเสียคือตอนนั้นมัน Under Construction ลานจอดรถด้านหลังมันสามารถเดินโดยไม่ผ่าน lobby ได้เลยแต่จะมี รปภ. เฝ้าเพื่อ Scan ว่าเป็นแขกโรงแรม แต่เค้าจะไม่รู้ว่าเช็คอินท์มากันกี่คนหรือรายละเอียดอะไรยังไง ซึ่งทางเดินมันเป็นแบบอ้อมหลังไม่ผ่าน Lobby ซึ่งสองคนนี้มันให้อีกคนที่มาด้วยรอรออยู่ที่ที่รถกอล์ฟที่ Bell ขับไปรับคนขับที่ลานจอดรถแล้วมารออีก 2 คนเช็คอินท์เพื่อเข้าห้อง คือ Bell ก็คงไม่คิดว่าจะมีแขกแบบนี้ก็คงกะว่าสองคนนั้นคงขึ้นไปเช็คอินท์ให้เสร็จก่อน และเช็คอินท์ในจำนวน 3 คน แล้วตอนไปห้องค่อยไปด้วยกัน แต่จริง ๆ แล้วแขกกลุ่มนี้แม่งไม่ใช่ไงคือกะว่าตีเนียนๆ เข้าไปเลยวัดใจว่าจับได้ก็จับจับไม่ได้ก็รอด จนกระทั่งเฮียเช็คอินท์เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ส่งแขกขึ้นรถกอล์ฟ แล้วจังหวะที่เดินมาส่งก็แจ๊คพอตที่สุดของแจ้เพราะเจอแขกอีกคนที่นั่งรถเนียนจะนอนฟรีอยู่พอดี ไอ้ครั้นมันจะอ้างว่ามาส่งเพื่อน 2 คนนี้แล้วจะกลับก็ไม่ได้เพราะสภาพแม่งนั่งกอดกระเป๋าเดินทางอยู่อย่างนั้นพร้อมสัมภารกและอาหารการกินแบบเต็มตีนเตี่ย มึงไม่นอนนี่ก็ไม่รู้จะนอนที่ไหนแล้วล่ะชั่วโมงนั้นเฮียก็เอ่ยขึ้นเลยว่า "ขอโทษนะครับ มีพักเพิ่มทั้งหมดเป็นสามคนเหรอครับเพราะเอกสารที่จองมาเป็น 2 คนพร้อมอาหารเช้านะครับ" ทีนี้อิสองคนนั้นรีบบอกเลย "อ๋อ เปล่าครับเค้ามาส่งเฉย ๆ เดี๋ยวก็จะกลับแล้วเค้ามีบ้านที่นี่ (แต่กระเป๋าสัมภารกมึงนี่จัดเต็มจนกูนึกว่ามึงจะเอาขึ้นสายพานลำเลียงเข้าเครื่อง Scan เลยมั้ย) ด้วยความที่เคยเจอเคสแบบนี้แล้วก็เลยแจ้งไปว่า "อย่างนั้นไม่เป็นไรครับ แต่รบกวนขอทราบเวลาที่จะกลับด้วยนะครับเพราะถ้าค้างคืน overnight ผมต้องขอชาร์จค่า Extra Person 1,500 บาทพร้อมอาหารเช้าครับ"

พอได้ยินคำว่า Charge เท่านั้นแหละครับทีนี้มาเต็มเลยครับมีของหนักมาก่อนเลย "เฮ้ยอะไรวะ บอกว่าไม่พักคุณไม่เชื่อผมเหรอ (เออ กูไม่เชื่อ) ผมบอกไม่ได้หรอกเค้ากลับเมื่อไหร่ ทำไมผมจ่ายค่าห้องแล้วผมจะให้ใครมาห้องผมก็ได้นี่มันเป็นสิทธิของผม (กูก็ไม่ได้ว่าอะไรถ้าจะมาหามาเล่นเฉย ๆ ไม่ได้มานอนมาพักจริง ๆ จัง ๆ แบบนี้และที่มึงจ่ายมาเนี่ยจ่ายแค่ 2 คน) โรงแรมคุณบริการแย่มากเลย (อ้าว ผิดซะงั้นโรงแรมกู) ผมจะไปโพสต์ลงพันดริฟท์ (อีกแล้วครับท่าน)" พูดไปก็ทำเป็นกระแทกกระเป๋ากระแขกของไป สาธุขวดเบียร์แม่งแตกทีเถอะว้า คือจะออกแนวกลบเกลื่อน แต่เฮียก็ไม่ได้ว่าอะไรก็ได้แต่เงียบและอธิบายว่า "ไม่ใช่อย่างนั้นครับแต่มันเป็นนโยบายปกติของโรงแรมครับในเรื่องของ Extra Person" แต่ดูเหมือนพวกเขาจะไม่เข้าใจภาษาไทยวันละคำที่เฮียอธิบายยังโมโหโทโสสุด ๆ
สุดท้ายเฮียก็ส่งทั้งสามสู่ห้อง เชื่อมั้ยครับตั้งแต่เพลานั้นยัน 6 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้นไอ้คนที่บอกว่าจะกลับบ้านไม่เคยโผล่ศรีษะออกมาให้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียวซึ่งก็กะไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ เฮียเลยจัดการชาร์จเข้าระบบเลยครับตามราคา 1,500 บาทแล้วส่ง Message ไปแจ้งที่ห้องครับ จากนั้นก็ต่อรอบให้รอบเช้าไว้พร้อมเขียนรายละเอียดใน Log Book ให้ FOM ทราบ

ปล.คือการพักเกินเนี่ย อยากให้แขกเข้าใจนะครับว่าโรงแรมต้องมีต้นทุนการดำเนินการเพิ่มเพราะแม่บ้านต้อง Set พวก Bathroom Amenities แชมพู สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน และผ้าชัดตัว เช็ดหน้า เช็ดมือ น้ำเปล่า ชากาแฟ เพิ่มเป็น 3 ชุด ทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายหมดนะครับถ้าจะบอกว่า "ทำไมแค่นี้ทำให้แขกไม่ได้ งั้นขอถามกลับถ้าคุณเป็นเจ้าของโรงแรมคุณจะยอมมั้ยครับถ้าให้ห้องหนึ่งต้องมีห้องที่สองที่สามตามมาแน่ อีกอย่างแขกทั่วไปเค้าก็จะรู้กันนะครับเรื่อง Extra Person เนี่ยเค้าจะยอมรับโดยปกติ พนักงานอย่างเราก็ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำอะไรบางทีมากันเป็นครอบครัวพ่อแม่ ลูก 2 คน เราก็ให้พักฟรีหรือคิดค่า Extra Person แค่คนเดียว หรือลดครึ่งราคา ก็มีมาเยอะแล้วนะครับแต่ถ้าจะไม่จ่ายเลยนี่คงไม่ใช่และ"




วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ตอน "คนไทยหรือเปล่า" (แต่กุว่าไม่น่าใช่)


ช่วงหัวค่ำวันหนึ่งขณะที่เฮียกำลังรวบรวมเรื่องราวที่แขก complain เพื่อเขียน Duty Manager Log Book อยู่เพียงลำพักในคอก G.S.A นี่ถ้ามีใครบ้าจี้ถือหญ้ามาให้กูนี่ใช่เลย ทันใดนั้นมีไอ้หนุ่มคนหนึ่งเดินมาพร้อมกับ Pretty สาว ที่เฮียรู้ว่าเป็น Pretty เนี่ยเพราะ She มาเต็มมาก เสื้อผ้าหน้าผม กากเพชรเกล็ดแก้วแววใส แม้อยู่ในความมืดมน ติดรอบดวงตาวิ้งๆๆ กันเลยทีเดียว ชุดที่มานี่ก็แบบจัดเต็มที่ขี้เต็มถังกันเลยทีเดียวเอาตรง ๆ นะตอนนี้เฮียหวั่นไหวเลยอ่ะ เดินมาถึงนี่ได้กลิ่นน้ำหอม Davidoff Cool Water Women กันเลยทีเดียว
เดินมาถึงไอ้หนุ่มเซียนตึ๊งก็เริ่มบทสนทนาเลยครับ "เช็คอินท์หน่อยครับ จองไว้ชื่อ ... ครับ" เฮียก็เริ่มต้นตามปกติที่แขกสามัญทั่วโลกเค้าทำกันอ่ะนะครับ "ขอบัตรประชาชนทั้งสองท่านด้วยนะครับ"....เพียงแค่เสี้ยวชั่วเพลาเคี้ยวหมากแหลกที่ประโยคนี้สิ้นสุดลง สายตาของไอ้หนุ่มคนนี้จ้องขเม็งเกลียวมาที่เฮียแบบประมาณที่ว่า "นี่กูไปฆ่าหมาบ้านมันตายมาหรือเปล่าวะทำไมมันดูไม่พอใจขนาดนั้นวะเนีย" แล้วเค้าก็เริ่มพฤติกรรมที่เรียกในหมู่ผู้ชายว่า "แอ๊คหญิงครับ" เขาเริ่มตบเคาน์เตอร์เลยครับ "พอดีผมไม่ได้เอาบัตรประชาชนมาน่ะครับ แต่ผมเคยมาพักที่นี่คุณก็ใช้ข้อมูลเก่าผมก็ได้นี่ไม่เห็นต้องเอาไปใหม่เลย แต่นี่ถ้าเอาบัตรผมไปถ่ายเอกสารแล้วเกิดมีใครเอาไปทำอะไรคุณจะรับผิดชอบมั้ย" เฮียก็ยังให้โอกาสอีกดอกนะ "งั้นขอใบขับขี่ก็ได้ครับ มันต้องมีเอกสารลงทะเบียนนะครับ" รู้มั้ยครับคำตอบที่ได้คือ "ใบขับขี่ผมก็ไม่ได้เอามา คุณจะให้ผมเช็คอินท์มั้ย" หึหึหึ มาเลยครับไอ้พวกรู้ดีทุกอย่างยกเว้นเรื่องที่แขกดี ๆ เค้ารู้กัน เฮียก็อดทนอธิบายนะในขณะที่มือก็หาข้อมูลที่เขาบอกว่าเคยมาพักไปด้วยในระบบ EPITOME (สมัยรู้จักระบบนี้ใหม่ ๆ อย่าว่ากันนะ เพื่อนร่วมงานแม่งเคยแอบกัดเรียว่าระบบ "อีปิ๊โต") แล้วปากก็อธิบายไปว่า "เราทำตามกฏการเข้าพักครับตามพรบ.โรงแรม (อ้างกฏหมายเลยกูดูดิยางอายมันจะมีมั้ย) การเข้าพักทุกครั้งต้องลงทะเบียนผู้เข้าพักนะครับ คือจริง ๆ ก็อยากบอกว่าถ้าบัตรมึงพักครั้งเดียวลงทะเบียนได้ตลอดชีวิตนี่แขกดี ๆ คนอื่นเค้าคงไม่ต้องเอาบัตรประชาชน พาสปอร์ตให้กูทุกครั้งที่พักหรอกแล้วเกิดเสือกบัตรมึงไม่อัพเดทแล้วหนีคดีอะไรมานี่โรงแรมกูไม่ซวยให้ที่พักโจรเหรอ อันนี้แค่คิดนะ
หาอยู่ประมาณ 10 นาทีเฮียก็เงยหน้าบอกเค้าด้วยท่าทางสุภาพว่า "ไม่มีชื่อนี้ในระบบเลยครับหาย้อนหลังไป 365 วันก็ไม่เจอครับ" แต่เหมือนนั่นจะทำให้พฤติกรรมการ แอ๊คอาร์ตเพิ่มขึ้นอีก "คุณไปเรียกผู้จัดการมาคุยกับผมไป ผมบอกว่าบัตรประชาชนผมไม่ได้เอามาคุณจะให้ผมพักมัั้ยหรือจะไล่ไปที่อื่น" อ้าวสาดดด กูผิดใช่มั้ยนี่วันนี้มันวันอะไรของกูวะเจออีกแล้ว "ที่สุดของแจ้" คือก็อยากตอบแบบดิบ ๆ ไปเหมือนกันแหละว่า "มึงขับรถข้ามจังหวัดเนี่ยมึงไม่พกเอกสารสำคัญที่เรียกว่าบัตรประชาชนหรือไงวะแล้วใบขับขี่ไม่พกเนี่ยมึงมั่นใจใช่มั้ยที่พูด เกิดมึงลงไปสแคลชไหล่ทางหุบเหวหรือลงไปวัดความเรียบพื้นยางมะตอยแล้วคนมาช่วย มึงไม่มีอะไรเลยนี่เค้าจะรู้มั้ยว่ามึงเป็นใครอยู่ที่ไหน อันนี้ก็แค่คิดนะแล้วบทสนทนาก็เริ่มต่อ "ผมนี่แหละครับผู้จัดการรักษาการอยู่ตอนนี้" แล้วจัดหนักไปอีกดอกว่า "ถ้าไม่มีเอกสารลงทะเบียนก็ไม่สามารถให้ Check in ได้นะครับเพราะมันผิดกฏหมายและกฏการเข้าพักครับ" หลังจากได้ยินและได้เห็นว่า "ไอ้นี่มันเอาจริงเว้ยท่าทางก็เปลี่ยนไป เขาหันไปหาน้องนางหน้าหวานคนนั้นแล้วเอ่ยประโยคที่กินใจยิ่งนักแบบไม่กลัวหน้าแตกว่า ...ตัวเองเอาบัตรประชาชนมาให้เค้าหน่อย" ยังเท่านั้นยังไม่พอครับด้วยความโรคจิตมันก็ยังแสดงความเหนือกว่านิด ๆ มันหยิบบัตรประชาชนออกมาแล้วก็โยนครับ ย้ำนะครับว่า โยนเข้ามาในเคาน์เตอร์แล้วบอกว่า "อ่ะ นี่บัตร ยุ่งยากฉิบหาย (ย้ำว่าฉิบหายนะครับ)" เฮียก็ด้วยใจรักงานบริการนะเราก็ต้องทนก้มหยิบบัตรมาแล้วไปถ่ายเอกสารเสร็จแล้วก็คืนไปพร้อมกัดกลับว่า "รบกวนเซนต์สำเนาถูกต้องด้วยนะครับเพื่อความสบายใจ จะได้ไม่กังวลว่าใครเอาบัตรไปใช้" กูไม่เข้าใจว่านี่อพยพมาจากเทือกเขาอัลไตหรือเปล่าเนี่ยมึงหวงอะไรกับบัตรประชาชนนักวะ แถมบอกไม่ได้เอามาพอกูบี้หนัก ๆ หยิบ เอ้ย โยนให้หน้าตาเฉย
เฮ้อ คนเรามันไม่ใช่เรื่องยากนะที่จะทำแต่มันยากที่จะทำให้พวกนี้เข้าใจ อีกอย่างฝากไว้เลยนะพวก GM หรือผู้บริหารที่พนักงานทำถูกกฏขอบัตรแล้วไปว่าเขาว่าไปขอทำไมนี่แขก VIP หรือ บลา บลา บลา ก็เข้าใจว่าอยากทรีทแขกพวกนี้ให้เป็นพิเศษมัน Flexible ได้ก็จริงแต่ถ้าจำไม่ผิดถ้าเจ้าหน้าที่มาตรวจใบ Reg. Card แล้วช่องว่างเติมไม่ครบเช่นชื่อขาดนามสกุลขาดเนี่ยหรือหนักเข้าไม่มีเลยเนี่ยเท่าที่ผมทำได้ช่องที่ขาดช่องละ 800 นะครับ ค่าปรับเนี่่ยมันไม่คุ้มเอาเวลาไปคิดดีกว่าว่าทำยังไงให้แขกให้เอกสารลงทะเบียน



วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ตอน บัตรเทวดา


วันนี้เฮียจะมาเล่าถึงประสบการณ์เจอแขกงี่เง่ากับบัตรเทวดาที่เราเรียกขานกันในหมู่โรงแรมว่าบัตร Member Card เรื่องที่จะเล่านี้เกิดขึ้นกับโรงแรมที่เฮียทำงานอยู่ บัตรนี้ไม่อยากเอ่ยชื่อว่าเครือไหนนะแต่คร่าว ๆ ว่าใช้เป็นส่วนลดค่าห้องได้ 50% จากราคา Rack Rate เวลาทานอาหารมา 3 จ่าย 2 ถ้ามา 4 ลดอีก 10 % มา 6 ลดอีก 20% อันนี้ความซวยตกกับห้องอาหารนะเฮียไม่เกี่ยว ไม่ขอเอ่ยชื่อว่าบัตรนี้มาจากไหนรู้แค่ว่า Made In France และเกิดที่เมือง Boston ณ U.S.A แถมมีถิ่นกำเหนิดมาจาก Switzerland พร้อมกับเริ่มดำเนินการครัั้งแรกที่ Abu Dabhi เดาเอาละกันห้ามเอ่ยชื่อบัตรนะเว้ยเดี๋ยวโดนฟ้อง เพราะเรื่องนานมาแล้วนานขนาดที่ Benefit ที่พิมพ์มาข้างต้นเนี่ยแม่งไม่รู้ถูกหรือยังมีอยู่หรือเปล่า
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าบัตร Member เนี่ยแขกผู้มีอุปการะคุณของพวกเราเนี่ยเขาจะสมัครเพราะต้องการอะไรที่มันเป็น Privilege และ Special Offer หรือหนักกว่านั้นมันแสดงถึงความเป็น Loyalty กับแบรนด์ของเรามาก ซึ่งโดยทั่วไปพนักงานทุกแผนกโดยเฉพาะ FO, F&B และ SPA ต้อง Focus เป็นพิเศษ แต่มันก็จะมีแขกประเภททะลุยอดหญ้าคามาซึ่งไม่เข้าใจว่าคำว่า Member Card นั้นมันใช้ได้เฉพาะ "แขกที่มีชื่อระบุอยู่หน้าบัตรเท่านั้น" เพราะถ้าบัตรเดียวใช้ได้โดยไม่ต้องระบุชื่อคาดว่าต่อไปมันคงเวียนกันใช้ทั้งประเทศ Sale เค้าจะเก็บ Record แขกคนนี้ก็จะไม่ได้อะไรเลย (แต่ปัจจุบัจไม่รู้ว่าใช้ได้เฉพาะผู้มีชื่ออยู่บนบัตรได้อย่างเดียวอยู่หรือเปลี่ยนแปลงแล้วนะ เพราะเฮียไม่ได้อยู่ในแวดวง เชนโรงแรมแล้ว)
เริ่มเรื่องกันที่วันหนึ่งขณะเฮียกำลังทำงานอยู่กับน้อง G.S.A อยู่สองคนทันใดนัั้นก็มีเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งประมาณ 4 คนมาเช็คอินท์เดินมาแบบฮอร์โมนว้าวุ่นกันเลยทีเดียว เฮียก็รับเช็คอินท์ปกติแต่ที่สำคัญปัญหามันอยู่ที่น้องเค้าบอกชื่อที่จองมาเนี่ยมันเป็นชื่ออีกคนนึงแต่ตัวที่มาเช็คอินท์มันเป็นกลุ่มน้องเค้า...เฮียก็ถามกลับไปว่า "ที่จองมาไม่ใช่ชื่อนี้นะครับ" คำตอบที่ได้มาพร้อมหน้าตากวนตีนคือ "ก็แม่ผมจองมาแล้วไง ผมเป็นลูกแก ผมเป็น Member โรงแรมพี่นะ" เฮียก็อธิบายไปว่า "น้องครับปกติแล้วถ้าจองมาเนี่ยอย่างน้อย ๆ ถ้าคนจองไม่ได้พักก็ต้องมาเช็คอินท์ให้น้องก่อนนะครับหรือน้องต้องมีบัตรประชาชนเค้ามาลงทะเบียนพร้อมเอกสารยินยอมนะครับ เพราะถ้าเกิดน้องแอบอ้างชื่อเค้ามาพักเนี่ยแล้วเกิดอะไรขึ้นหรือเค้าไปฟ้องว่าใช้ชื่อเค้าโดยไม่ตรวจสอบมันผิดกฏหมายนะครับ" จบประโยคนี้เท่านั้นแหละครับมันยื่นสำเนาบัตรประชาชนของแม่มันให้ผมทันที "นี่ไงพี่ สำเนาบัตรของแม่ผม พี่จะคุยกับแม่ผมมััยเดี๋ยวผมต่อสายให้" อ่ะได้ มาเจอกันมึงผมรับโทรศัพท์มา สักพักมีผู้หญิงรับ "สวัสดีครับจากโรงแรม...นะครับ พอดีผมเห็นจองมาในชื่อคุณผู้หญิงแต่คุณผู้หญิงไม่ได้มาเช็คอินท์ด้วย จริง ๆ ให้คนอื่นพักได้ครับแต่ต้องรบกวนมาเช็คอินท์ให้ก่อนนะครับ" พูดจบเท่านั้นแหละมาเลยจัดเต็มอารมณ์ล้วน ๆ โซดา โค้กไม่ต้อง "ทำไมจะไม่ได้ ก็ชั้นเป็น Member เนี่ย ชั้นให้สำเนาบัตรลูกชั้นไปแล้วมันก็น่าจะพอแล้วนี่ ทำไมยุ่งยากจังจะเอาอะไรกันอีก" ผมรวบรวมสติแล้วตอบกลับไปว่า "แต่ผมต้องรบกวนขอบัตร Member ด้วยนะครับเพราะราคาที่ได้เป็นราคา Member เพราะน้องไม่ได้พกบัตรมาด้วย ถ้าไม่มีบัตร Member เนี่ยผมขอคิดราคา Walk In นะครับ จบปุ๊บดอกสองมาทันที "บัตรอยู่ที่ชั้นเนี่ย ชั้นอยู่กรุงเทพจะต้องให้นั่งรถไปให้มั้ย นี่คุยกับตัวชั้นแล้วจะเอาอะไรอีกเรื่องมากจริง ๆ โรงแรมนี้ ชั้นบอกให้เลยนะชั้นก็ไม่อยากจะไปพักนักหรอกที่เนี่ย (แต่กูเห็นจองมาล่วงหน้าเป็นเดือน) จะเอายังไงชั้นไม่ขับรถจากกรุงเทพไปให้เธอหรอกนะ ยังไงวันนี้ลูกชั้นต้องได้นอนที่นั่นถ้าไม่ได้ชั้นจะแจ้งความ
เออ เอาดิวะ สรุปว่ากูเหมือนไปฆ่าใครตายอีกแล้วเนี่ยแจ้งความข้อหาอะไรวะเนี่ย แต่ก็หาทางออกให้เจ้แกจนได้ครับด้วยเห็นว่าเป็น Member แล้วก็อยู่แค่คืนเดียวเลยบอกแกว่า "ผมรบกวนพี่ช่วยส่งสำเนาบัตร Member หน้าหลัง เซ็นต์รับรองสำเนามาให้ผมหน่อยนะครับแล้วผมจะเช็คอินท์น้องเค้าให้" เจ้แกเหมือนใจเย็นลงแล้วตอบมาว่า "ได้ เดี๋ยวพี่ให้คนส่งไปให้ตอนนี้แหละ" ผมก็ Thank you แกอย่างสุดซึ้งจริง ๆ ยิ่งกว่าซึ้ง ๆ ทุกสิ่ง ซึ้งที่แฟลตปลาทอง จองเพียงแค่ 5000 ..พอ ๆ เดี๋ยวรู้อายุ
แล้วผมก็แก้ลำน้อง ๆ พวกนี้โดยบอกว่า "เดี๋ยวน้องนั่งรอก่อนนะครับ พี่รอแม่น้องส่งสำเนาบัตร Member มาให้นะแล้วเดี๋ยวพี่เช็คอินท์ให้" เหมือนจะอารมณ์ค้างแบบเล่นบอลแล้วโดนเสียบข้างหลังแต่กรรมการไม่ให้ฟาลว์ มันหิ้วกระเป๋าเดินไปเก้าอี้หน้าล็อบบี้แล้วก็ โครมมมม โยนกระเป๋าลงบนเก้าอี้ให้เสียงดังเหมือนตั้งใจให้รู้ว่ากูไม่พอใจ เออ เอากะมึงเจริญ Pond เถอะ หลังจากนั้น 5 นาทีแม่เค้าก็ส่งสำเนาบัตร Member มาให้ครับเช็คชื่อเช็ควันหมดอายุแล้วโอเคไม่มีปัญหาก็ยอมให้เช็คอินท์ไปไม่ว่ากัน


วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ตอน คนจองไม่ได้พัก คนพักไม่ได้

วันนี้เสนอเรื่องเป็นอุทาหรณ์
 ร่วมสนุกชิงของรางวัล

เรื่องนี้เกิดขึ้นเนื่องจากเพื่อนที่เป็น GM ด้วยกันเคยโทรมาเตือนภัยให้ พอดีว่าโรงแรมมันถูกหวยเจอแขกปฏิเสธการจ่ายผ่านบัตรเครดิตก็เลยจะมาเล่าเป็นอุทาหรณ์เนื่องจากเคสนี้พนักงานมันผิดจริง ๆ ตอนรับเช็คอินท์ คาดว่าน่าจะยุ่งด้วยล่ะ เรื่องมีอยู่ว่า
มีแขกคู่หนึ่งจองผ่านเว็บไซต์พี่ด้ามา จ่ายเงินมาเสร็จเรียบร้อยมาถึงก็เช็คอินท์ แต่ตอนมาเช็คอินท์ตอนให้พาสปอร์ตลงทะเบียนอะไรก็ปกติทุกอย่างแต่ตอนขอ Deposit พนักงานมันเอะใจว่าทำไมบัตรเครดิตไม่ตรงกับคนพักแถมชื่อที่จองมานั้นมันก็ไม่ตรงกัน แขกคู่นั้นอธิบายว่าเพื่อนมันจองให้เพื่อมันจะไม่มาพักแต่ว่าเดี๋ยวกำลังจะเข้ามาซึ่งพนักงานตอนนั้นคาดว่าจะมือใหม่และคงจะยุ่งด้วยล่ะก็เลยเห็นว่า Booking เก็บเงินไปแล้วกับพี่ด้าและเขาก็มี CFM Booking มาแสดงเรียบร้อยและส่วน Extra Charge เนี่ยก็ให้เป็นเงินสดไว้แขกอยู่แค่ 2 คืนไม่น่ามีปัญหาอะไรเลยปล่อยให้ Check In พร้อมกับ Key ชื่อเพื่อนของไอ้สองคนนี้เข้าไปในระบบด้วยเพื่อให้รู้ว่าใครจองมา แล้วมันก็อยู่กันไปสบาย ๆ หนุกหนานจนถึงวันเช็คเอาท์ ตอนเคลียร์บิลก็ปกติไม่มีอะไรค่าใช้จ่ายทุกอย่าง Cover หมด จนกระทั่งเวลาผ่านไป 1 เดือน ธนาคารแจ้งกับทางโรงแรมมาเรื่องการทำรายการผ่านบัตรเครดิตหมายเลขดังกล่าวไม่ได้เนื่องจากเจ้าของแจ้งว่าบัตรโดนขโมยและถูกทำรายการในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายโรงแรม ทีนี้เพื่อนผมมันเลยสั่งให้ FOM มันสืบครับแล้วก็โทรไปถามพี่ด้าปรากฏว่าพี่ด้าก็โดนเหมือนกันครับคือลูกค้าปฏิเสธการจ่ายกัน และก็ได้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าชื่อคนที่ถูกแอบอ้างและหมายเลขบัตรเครดิตใบนี้ถูกทำรายการไปแล้วเกือบ 10 ครั้งโดยจะเป็นการจองและจ่ายในนามคนๆ นี้บางทีไปพักไกลถึงฮ่องกง สิงค์โปรเลยก็มี
เคสนี้ก็เดือดร้อนกันไปครับมันช่วยไม่ได้จริง ๆ ถ้าจะพลาดก็พลาดตรงที่ปล่อยให้คนที่ไม่ใช่เจ้าของ booking เช็คอินท์นี่แหละครับ บางครั้งการทำงานโรงแรมก็สอนให้เราหูตาไวและมีไหวพริบมาก พวกใน Passport มาจากประเทศแถบร้อนๆ แต่ตัวขาวจั๊วนี่ก็ต้องระวังว่าปลอมมั้ย หรือบางทีถือบัตร VISA แต่เลขหน้าบัตรดันขึ้นต้นด้วย 5XXXX XXXX XXXX XXXX อันนี้ก็เอะใจไว้ก่อนเลยว่าปลอมแน่นอนเพราะมีแต่บัตร Master Card เท่านั้นที่ขึ้นต้นด้วย 5 เพราะ VISA มันจะ 4 ฝาก ๆ ไว้ละกันนะเป็น Cast Study รอบคอบ ๆ กันนะจะได้ไม่ช๊อต ใครมีทริกอะไรแนะนำก็ comment กันไว้ให้น้อง ๆ ได้เก็บเป็นบทเรียนนะ ปล.แล้วอย่าลืมร่วมสนุกกับเว็บ http://www.hoteljob.in.th/award/ Partner ของเรานะ

บทความแนะนำ