วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2563





ตอน ถ้าเบ่งผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย ผ่าม!!!
มันจะมีหลายๆ ครั้งที่พนักงานโรงแรมอย่างเราเจอแขกประเภท “ผู้บางขวาง” เอ้ย!! “กว้างขวาง” รู้จักทุกคนรู้จักทุกสิ่ง Everything จิงเกิลเบลและจบท้ายด้วย “ขอส่วนลดและราคาพิเศษ” ที่เจอกันมากหน่อยก็ “รู้จักเจ้าของโรงแรม” แต่ก็ไม่เข้าใจถ้าเอาจริงๆ ถ้ารู้จักเห็นเพื่อนทำธุรกิจนี่ควรจะอุดหนุนนะไม่ควรขอฟรีขอส่วนลดอะไรงี้เพราะถ้าเค้าอยากลดเดี๋ยวเค้าลดให้เองแหละอันนี้ก็เป็นแนวความคิดนึงที่บ้านเราควรเปลี่ยนนะ
เรื่องของเฮีย “Foot ความ” ก่อนว่าตอนนั้นโรงแรมที่เฮียทำอยู่ Owner ค่อนข้างที่จะกว้างขวางมากซึ่งแกก็จะบอกไวว่า “ถ้าใครมาบอกว่ารู้จักแกแล้วขอส่วนลดขอพักฟรีให้โทรหาเลขาแกแล้วแจ้งก่อนว่ารู้จักจริงไหม?” เพราะตอนนั้นมันมีข่าวนึงในคอลัมน์เล็กๆ เฮียอ่านเจอไม่แน่ใจว่าใครเคยได้ยินบ้างไหมถ้าจำกันได้เป็นเคสของมิจฉาชีพคนหนึ่งอ้างตัวว่าเป็นคนใหญ่คนโตระดับประเทศบอกว่าเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าของเลยไปเบ่งจะเอาห้องพักที่โรงแรมของนักธุรกิจดังคนหนึ่งที่ปรานบุรีทีนี้ห้องพักเต็มแต่พี่แกไม่ยอมโวยวายบอก “ห้องเต็มก็จะเอาเพราะรู้จักเจ้าของ” ทีนี้ GM ก็เลยต่อสายหา Owner เพราะกลัวจะเป็นเรื่องใหญ่เนื่องจากคุณตันก็เลยโทรกลับไปหาเพื่อนแกตัวจริงที่มิจฉาชีพแอบอ้างเพื่อนแกปลายสายตอบมาว่า “ผมอยู่กรุงเทพผมไม่ได้ไปปรานบุรี” ซึ่งเอาจริงๆ คนระดับนี้ถ้าเค้าจะไปเค้าไม่ไปอ้างกับพนักงานหรอกเค้าสายตรงถึงกันอยู่แล้วพอได้ความว่าอย่างนั้น GM กำลังจะมาจัดปรากฏว่าหมอนี่ไปซะและข่าวนี้นานพอสมควรแต่เฮียเคยอ่านเจอในหนังสือพิมพ์
มาที่ Owner เฮียต่อพอพนักงานได้ Brief แบบนั้นก็เตรียมตัวปฏิบัติตามคำสั่ง Owner อย่างเคร่งครัดมาถึงวันเกิดเรื่องเป็นช่วงค่ำๆ วันหนึ่งมีแขกจากแดนสยาม Walk In เข้ามาเฮียก็กล่าวต้อนรับและให้น้องเอา Welcome Drink มาให้ “สวัสดีครับยินดีต้อนรับครับมีอะไรให้รับใช้ครับ?” แขกก็ตอบมาว่า “ห้องพักที่นี่ราคาเท่าไหร่น้อง” เฮียก็แจ้งรายละเอียดไป “ห้อง 2 Bedroom คืนละ 25,000 บาท – 3 Bedroom คืนละ 35,000 บาทครับ ไม่ทราบว่าพักกี่ท่านครับ?” แขกก็ตอบกลับมาแบบตกใจเล่นใหญ่รัชดาลัยเธียร์เตอร์เลย “โหหหหน้อง ทำไมมันแพงจัง” เฮียก็ งง ไปพักนึงเพราะก็ขายราคานี้มาตั้งแต่เปิดโรงแรมแล้วเราก็ชัดเจนในตัวตนของเราเฮียก็เลยตอบกลับแบบสุดภาพ “ห้องพักเราเป็น Pool Villa นะครับและทุกห้องเป็น Private หมดครับ” แขกก็ตอบกลับมาว่า “เดี๋ยวนะน้องพี่เป็นเพื่อน Owner น้องดูราคาให้พี่หน่อยซิ” เอาแล้วววววว มาแล้ววววว อ่ะไม่เป็นไรเค้าอาจจะรู้จักกันจริงก็ได้แต่สิ่งที่เหมือนคราวเคราะห์ของแขกคนนี้คือตอนที่แกบอกว่ารู้จัก Owner เจ้าของโรงแรมเฮียที่ In House อยู่วันนั้นกำลังเดินออกมาจากห้องพักไปขึ้นรถออกไปข้างนอกและที่ตลกคือแขกคนนี้ก็หันไปมองหน้า Owner แล้วก็ไม่ได้มีอาการว่ารู้จักกันไม่ได้เข้าไปทักทายพูดคุยอะไรปล่อยให้แกเดินผ่านไปกับสายลม
เฮียก็เลยจบปัญหาแบบรวดเร็วเลยว่า “ขอโทษนะครับคุณผู้ชายรู้จัก Owner ของเราใช่ไหมครับ? งั้นผมขออนุญาตติดต่อท่านก่อนนะครับเพราะท่านสั่งไว้ว่าถ้ามีคนรู้จักท่านมาขอราคาพิเศษให้แจ้งท่านก่อน” แขกก็เริ่มนิ่งแล้วก็ตอบกลับมา “นี่คุณหาว่าผมโกหกเหรอแบบนี้ไม่ดีเลยนะ” เฮียก็ตอบกลับ “ไม่ใช่อย่างนั้นครับคุณผู้ชายพอดี Owner ท่านอยู่ด้านล่างกำลังรอรถอยู่พอดีเลยครับเมื่อกี้ท่านเดินผ่านไปท่านอาจจะไม่เห็นคุณผู้ชายครับเดี๋ยวผมไปแจ้งท่านให้นะครับว่ามีเพื่อนมาพัก” เสร็จปุ๊บแขกก็ตกใจมากกกกก (ซึ่งก็ควรแหละมาเบ่งไม่ถูกที่ถูกเวลาซะงั้น) ก็รีบปางห้ามญาติเลย “ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวผมเดินไปคุยกับเขาเอง” แล้วก็รีบเดินลงไปที่หน้าโรงแรมก่อนผ่าน Owner แล้วขึ้นรถขับออกไปเลยโดยมิได้ทักทายใดๆ ทั้งสิ้น
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า... รักจะเป็น FTG ก่อนเบ่งต้องดูให้ดีๆ นะ

บทความแนะนำ