วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2561

ตอน ลืม Key 

ปัญหาแขกลืม Key Card มันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาเพราะในบางครั้งแขกออกจากห้องไปข้างนอกหรือไปสระว่ายน้ำแล้วทำ Key Card หาย ทีนี้เวลาที่เค้ามาแจ้งว่า “ลืม Key Card” ด้วยหน้าที่และมาตรฐานด้านความปลอดภัยของแขกผู้เข้าพักพนักงานอย่างเราๆ ก็มีหน้าที่ๆ จะต้องสอบถามแขกก่อนออก Key Card ใหม่ก่อนว่า “ชื่ออะไร? อยู่ห้องไหน? ในบางครั้งก็ต้องหยิบ Passport มาทำการเช็คข้อมูล เช่น เทียบหน้าตากับรูปใน Passport (ซึ่งมันไม่เคยจะเหมือนกันอยู่แล้วแหละ) หรือไม่ก็เช็ควันเดือนปีเกิด เมืองที่เกิด ฯลฯ” เพื่อยืนยันว่าเค้าเป็นเจ้าของห้องพักนี้จริงๆ ไม่ใช่ว่าเค้ามาขอแล้วก็ให้ไปเลย เนื่องจากโรงแรมมีแขกร้อยพ่อพันธุ์แม่เราไม่สามารถจะรู้ได้เลยว่าแขกคนไหนมีคนคอยปองร้ายหรือคิดไม่ดีอยู่หรือเปล่าเลยมาแอบอ้างเอา Key Card เพื่อเข้าไปทำอันตรายแขก แต่จริงๆ ส่วนมากจะเป็นกรณีมาทำเนียนขอ Key Card แล้วเข้าไปขโมยของแขกในห้องมากกว่าโดยอาศัยความไม่รอบคอบของพนักงาน เคสนี้เคยเกิดมาแล้วในพัทยาและพื้นที่ใกล้เคียงโดยจะมีแขกชาวต่างชาติเข้ามาติดต่อพนักงานว่าลืม Key Card แล้วพอพนักงานเผลอออก Key Card ใหม่ให้ก็เอาขึ้นไปขโมยของซึ่งมีการตระเวณทำไปหลายโรงแรมจนต้องส่งหนังสือเวียนกันในภาคตะวันออกเดี๋ยววันหลังจะเล่าให้ฟัง มาที่เคสนี้ต่อวันนั้นมีแขกมาติดต่อเฮียแล้วแจ้งว่า “ชั้นลืมกุญแจห้อง ขอกุญแจใหม่หน่อย” คือแกลงไปสระว่ายน้ำแล้วทีนี้ดันทำ Key Card หายซึ่งปกติเวลา C/I ถ้ามาสองคนเราก็จะให้ไป 2 ใบอยู่แล้วปรากฏว่าภรรยาแกเอา Key Card อีกใบเสียบไว้บนห้องเพราะบอกว่า “อยากให้แอร์เย็นตลอดเวลาที่เข้ามา”

เฮ่อๆ ท่าทางเจ้แกจะไม่ได้สาย Save the planet แต่มันก็เป็นสิทธิของเค้าอ่ะนะที่จะทำเรื่องแบบนี้มันบังคับให้ไปช่วยกันป้องกันปัญหา “รักษ์โลกร้อนไม่ได้” เฮียก็ถามกลับไปว่า “ขอทราบห้องพักยูหน่อยครับ” แขกตอบกลับมาเล่นเอาเฮียนี่ไปไม่เป็นเลยแกบอกว่า “ชั้นจำไม่ได้” แล้วก็ต่อท้ายมาด้วย “น่าจะ 301 นะ” เฮ่อๆๆ แบบนี้ถ้ามีคำว่า “น่าจะ” อันดับแรกเลยคือ “ไม่ให้ครับ” เพราะมีประเภทจำมั่วแล้วพนักงานดันทำกุญแจให้ขึ้นห้องไป สุดท้ายเปิดไปเจอแขกอีกคนอยู่ในห้อง งานงอกงามกันเลยทีนี้โดนด่าซะเละเลย ทีนี้เฮียก็ขอชื่อเค้ามาแขกก็ให้ชื่อมาแล้วเฮียก็ค้นหาในระบบแล้วก็มีชื่อแกปรากฏขึ้นมานี่แหละ ทีนี้ด้วยความปลอดภัยอย่างที่บอกว่าเราไม่รู้ว่าใครที่คิดร้ายกับแขกจะมาอ้างอิงหรือเปล่าเพราะมันก็เป็นไปได้ที่การบอกชื่อแขกเพื่อหลอกถามพนักงานให้รู้ว่าแขกอยู่ห้องไหน เฮียก็เลยถามกลับไปว่า “ยูพอจะจำได้มั้ยว่ายูพักอยู่ชั้นไหน” แขกก็ตอบกลับมาว่า “ชั้นพักอยู่ชั้น 3” แต่หน้านี่เริ่มหงุดหงิดและประมาณว่าเฮียเรื่องเยอะเพราะพี่แกเข้าใจว่าพอมาถึงบอกห้องแบบลืมๆ กับบอกชื่อตัวเองแล้ว พี่แกต้องได้กุญแจทันทีโดยไม่คิดเลยว่าถ้าแกเป็นอะไรมาโรงแรมนี่รับเละเลยแม้แกจะอยู่ชุดลำลองที่ใส่มาจากสระน้ำก็ตามแต่ถ้าลองคนมันปองร้ายมันอาจทำทีมาเป็นแขกก็ได้ สักพักแกหันมาถามเฮียว่า “ยูจำแขกไม่ได้เหรอว่าใครอยู่ห้องไหน จำชั้นไม่ได้หรือไง” แหม่พ่อคุณเอ้ย โรงแรมมีแขกเป็นร้อยจะให้พนักงานจำได้ทุกคนว่าใครอยู่ห้องไหน เฮียก็ดูในระบบปรากฏว่าแกอยู่ห้อง 310 ไม่ใช่ 301 ซึ่งถ้าให้กุญแจไปตั้งแต่แรกนี่รับรองได้เลยว่าเจ๊คพอตแตกแน่นอนแต่เพื่อความปลอดภัยเฮียก็เอา Guest Profile แขกขึ้นมาดูหน้าตาใน Passport อีกรอบก็ปรากฏว่าดูคับคล้ายคับคลากันอยู่ว่าแล้วก็ถามวันเกิดแกไปอีกรอบ “ขอชั้นทราบวันเกิดยู่หน่อยได้ไหม?” คราวนีมาเต็มเลยอารมณ์ขึ้นทันทีตะโกนโวยวายเลยว่า “Bad Service, ทำไมจำแขกไม่ได้ ชั้นพักอยู่ห้องนี้แล้วทำไมจะเอากุญแจไม่ได้ ยุ่งยาก วุ่นวาย”

เฮียก็ยืนรับศีลรับพรอยู่แบบนั้นแหละครับพอแกพูดจบก็เลยถามแกอีกทีว่า “ขอทราบวันเดือนปีเกิดยูด้วยนะ เป็นขั้นตอนสุดท้ายของมาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับกรณีที่แขกลืมกุญแจของเรา แล้วชั้นจะให้ Key Card ใบใหม่กับยูนะ” พี่แกตบ Counter แล้วก็บอกวันเกิดมาซึ่งก็ตรงกับใน Passport พอดีจากนั้นเฮียก็ทำ Key Card ให้ในขณะที่ส่ง Key Card ให้แกสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อแกดึง Key Card ไปด้วยอารมณ์โมโหมากหน้าแดงก่ำแล้วก็สบถใส่มาว่า “Bad Staff” แล้วก็เดินจากไปทิ้งไว้ให้เหลือเพียงความทรงจำ ทั้งๆ ที่เราทำเพื่อความปลอดภัยของเขานะนี่


บทความแนะนำ