วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ใจเย็นก่อนนิดนึง




บางครั้งเฮียก็อยากให้แขกใจเย็น ๆ บ้างนะตอนที่เช็คอินท์เสร็จแล้ว และ G.S.A หรือ G.R.O กำลังอธิบายว่าอะไรในโรงแรมอยู่ตรงไหน เปิด-ปิด กี่โมงหรือในห้องน้ำชา กาแฟ ฟรีมั้ย น้ำดื่มให้วันละกี่ขวด เพราะทุกครั้งที่แขกไม่อยากฟังออกแนวรำคาญเบื่อ เหตุการณ์ต่อไปนี้ก็จะเกิดขึ้นพร้อมประโยคเหล่านี้
1. "เอากุญแจมา ชั้นเคยมาแล้วชั้นรู้" พอขึ้นห้องไปได้ไม่ถึงนาที โทรกลับมาที่หน้า Front ถามกลับด้วยคำถามที่เราพยามจะบอกตั้งแต่แรกว่า "น้อง ของกินในตู้เย็นนี่ ฟรีมั้ย" เยี่ยวครับพี่ เอ้ย เยี่ยมครับพี่ ไหนบอกเคยมาแล้วไงครับผมก็จะบอกพี่อยู่ว่าน้ำเปล่าฟรี มินิบาร์เสียเงิน แต่พี่รีบไปไหมครับ
2. กำลังจะอ้าปากอธิบายพี่แกก็จะพูดสวนมา "I'm Ok, I know , I know" แล้วก็ขึ้นห้องไป จากนั้นไม่ถึงนาทีเหมือนกรณีแรกก็จะโทรลงมาถามว่า "Two bottle on the desk is free?" อ้าว ไหนพี่บอกว่า I Know ไง ใจเย็น ๆ ฟังผมก๋อนตั้งแต่แรกก็ได้
3. กำลังจะ Escort เดินไปส่งที่ห้องแต่พี่แกโชวพาว์ "ไม่เป็นไรน้อง พี่ไปเอง พี่ไปได้" หายไป 5 นาทีเดินกลับมา "น้อง ห้องพี่ไปทางไหน" แล้วก็ด่าโรงแรมว่า "ดีไซน์โรงแรมน้องหาห้องยากมากเลยเนี่ย กลบเกลื่อนกันไป" จริงๆ หาไม่ยากเลยครับพี่ ป้ายบอกทางอันเท่าฝาบ้านตั้งแต่หน้าล็อบบี้ยันวิลล่า ผมจะเดินไปส่งพี่ก็รำคาญผม สรุปโรงแรมผมผิดใช่มั้ยพี่
4. บอกเวลาทานอาหารเช้าแล้วแต่ไม่ฟังพุ่งขึ้นห้องอย่าเดียว วันรุ่งขึ้นไปกินที่ห้องอาหารซึ่งเวลา ABF 06.30- 10.00 AM. พอไปถึงตอน 10.30 AM อาจจะด้วยจำเวลาผิด อาหารเก็บหมดแล้ว ห้องอาหารปิด เดินมาด่าหน้าล็อบบี้ แล้วก็ซัดประโยคนีมาว่า "คุณไม่ได้แจ้งผม" ทั้ง ๆ ที่ตอนแจ้งพี่ก็ไม่ฟังผมยืนยันว่าแจ้งแล้ว ก็เถียงว่ายังไม่ได้แจ้ง วันหลังตอนอธิบายผมต้องอัด Clip ไว้มั้ยพี่ ตกลงนี่ผมทำงานโรงแรมหรืองานสอบสวนวะเนี่ย


วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เรื่องของแขก Walk Away



วันนี้เฮียจะมาเหลาประสบการณ์ที่เจ็บปวดสุด ๆ ในชีวิตการทำงานโรงแรมกันเลยทีเดียว
เริ่มต้นจากอธิบายความหมาก่อนนะ
คำว่า Sleep Out ในภาษาโรงแรมหมายถึง แขกมีธุระต้องไปค้างอ้างแรมที่อื่นสักคืนสองคืนแล้วจะกลับมา ซึ่งบางครั้งแขกก็จะลงมาบอกพนักงานเอง เช่น แขกมาพักพัทยา 7 คืน แต่อยากไปค้างเกาะล้านสัก 1 คืน แล้วจะกลับมาอยู่ต่อ แบบนี้บางครั้งเค้าก็จะมาบอกว่า "ชั้นจะ Sleep out ไปเกาะล้าน 1 คืนนะ" แบบนี้พนักงานก็มีข้อมูล แล้วก็จะเช็ค Deposit ค่าใช้จ่ายค่ามีอะไรที่มีแนวโน้มว่าแขกจะหนีบิลมั้ย Deposit มัน Cover ตลอด Period ที่แขกอยู่มั้ย
คำว่า Walk Away คือไปแล้ว ไปลับ ไม่กลับมาเลยพูดง่าย ๆ ว่าหนีบิลนั่นแหละ แบบนี้ก็ต้องตามกันไปว่าอยู่ที่ไหนจะตามเก็บเงินยังไงถ้ากรณีที่แขกไม่ได้จ่าย Deposit ไว้ตั้งแต่แรกหรือ Deposit ที่ให้ไว้ไม่ Cover ค่าใช้จ่าย
Front กับ แม่บ้านเค้าจะ Co กันเรื่องนี้ โดยเวลาที่แม่บ้านขึ้นปทำห้องแขก In house แล้วเห็นของใช้ในห้องแขกพวกเสื้อผ้า เครื่องสำอาง เครื่องใช้ต่าง ๆ น้อยผิดปกติ แม่บ้านก็จะแจ้ง Front มาเพื่อให้เช็คว่าแขกออกไปไหนมั้ยถ้าไปก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่ได้แจ้งไว้ก็ต้อง Keep and Eye ไว้เลยว่าอาจมีแนวโน้ม Walk Away ได้ (แต่บางครั้งก็ไม่เสมอไปนะ) แต่ก็มีบางครั้งที่ตั้งใจทิ้งไว้เต็มห้องทั้งเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ กระเป๋า แล้วก็ไปเลยแบบกะว่าบริจาคให้พนักงาน อันนี้ถ้าไม่มีค่าใช้จ่ายก็ OK สบายไปถ้ามีก็ชีวิตใครชีวิตมันนะ
มาที่เคสเฮีย ขณะดำรงค์ตำแหน่ง Duty Manager วันนั้นเฮียเข้ารอบบ่ายทำงานตั้งแต่เข้ารอบมาได้จนประมาณ 4 โมงเย็น มี Super แม่บ้านโทรขึ้นมาหา "เฮีย แขกห้อง 124 แจ้งออกไปไหนหรือเปล่าเฮีย ในห้องมีชุดแขกอยู่สองชุดกับรองเท้าแตะคู่เดียวเองเฮีย" แว้บแรกที่ได้ยินโอ้แม่เจ้าใจหายแว้บไปอยู่ตาตุ่ม เพราะห้องนี้มันอยู่มานานมากประมาณ 2 อาทิตย์แล้วมี C/O ในวันพรุ่งนี้ ทีนี้ผมก็บอกแม่บ้านไปว่า "เดี๋ยวเฮียขึ้นไปดู" จากนั้นก็มาดู Deposit ในระบบว่ามัน Cover มั้ยมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่เฮียก็ได้ใจความว่าค่าห้องจ่ายหมดเรียบร้อยแล้วและไม่มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เหลือแต่ค่าใช้จ่ายที่เป็นค่า Extend Stay ของคืนวันนี้อีก 1 คืนซึ่งใน Note เขียนไว้ว่าแขกจะมาจ่ายประมาณสาย ๆ แต่นี่บ่ายสี่โมงเย็นแล้วยังไม่มาแต่ในระบบมีหมายเลขบัตรเครดิตอยู่ หลังจากนั้นเฮียก็ขึ้นไปดูบนห้องกับแม่บ้านปรากฏว่า ไม่มีอะไรเลยนอกจากกางเกงฟุตบอลกับเสื้อยืดและรองเท้าแตะคู่เดียว คือคิดเป็นอื่นเลยไม่ได้ว่า "เอาแล้วกูโดนแน่ ๆ " ว่าแล้วก็รีบลงมาแล้วก็จัดการทำ Card Ver- สำหรับค่าห้องคืนนี้ไว่ก่อนใจก็ลุ้นว่าตอนทำวงเงินมันจะผ่านมั้ย สรุปว่าโชคดีที่มันผ่าน จากนั้นเฮียก็ส่ง Message ขึ้นห้องแขกแจ้งการทำรายการดังกล่าวเอาไว้ก่อนเพื่อป้องกันในกรณีที่แขกไม่กลับมา แล้วก็มานั่งลุ้นว่าจะมามั้ยเนี่ย ผ่านไปจนกระทั่งเที่ยงคืนก่อนเฮียจะออกรอบแขกก็ยังไม่มา เฮียก๋ต่อรอบไว้กับ Night Manager ให้ดูแขกห้องนี้ไว้เพราะมีเคสนี้เกิดขึ้น แล้วเวลาก็ผ่านไปจนกระทั่งเฮียมาเข้ารอบบ่ายตอนบ่าย 2 โมงของอีกวัน มาถึงก็อ่าน Log book ว่ามี Action อะไรบ้าง ก็สรุปได้ว่าแขกกลับมาตอนหกโมงเช้า และบอกว่าไปนอนเกาะล้านมาคืนนึงแต่ไม่ได้บอกทางโรงแรมไว้ซึงทาง Night Manager ก็ได้แจ้งการทำรายการ Card Ver- ให้แขกรับทราบซึ่งโชคดีที่แขกเข้าใจและ C/O ออกไปตอนเที่ยงอย่างเรียบร้อย
คิดกลับกันถ้าเจอแขกงี่เง่ารับรองได้ว่าจะโดนแน่ ๆ ว่า "ทำไมเธอมา Ver- Card ชั้นโดยไม่ได้รับอนุญาติ กลัวชั้นไม่จ่ายเหรอ บลา บลา บลา แต่ถ้าเราวัดใจไม่ Ver- Card ไว้แล้วเกิดโดน Walk Away ค่าห้องคืนละ 4,500 บาทนี่กูไม่มีปัญญาจ่ายแน่ ๆ ก็เป็นเรื่องที่ลำบากใจอีกอย่างนึง และก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ Front กับ Housekeeping ต้องทำหน้าที่เป็นนักสืบหรือผู้วิเคราะห์หลักฐานแบบว่าจบแล้วไปอยู่กับคุณหมดพรติ๊บได้เลยอ่ะ บอกแล้วงานโรงแรมได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด




วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

วันนี้มาเสนอตอน "สวยไม่มาก แต่ท่ายากหนูเยอะ"




ช่วงนี้เฮียหายไปนาน เพราะกำลังจะเปลี่ยนสายงานอาจยุ่ง ๆ แต่รักทุกคน
เริ่มต้นมา ณ บ่ายวันหนึ่งที่บรรยากาศดีดนตรี (Lobby) เพราะ (ฟังมาเป็นปีและแม่งก็เปิดวนไปวนมาเพลงเดิมจนจะร้องได้และเนี่ย) มีโอป้านางหนึ่ง Import มาจากแดนวิสกี้ เดินตรงเข้ามาเช็คอินท์สารภาพจากใจแจ้ว่าตอนแรกที่เฮียเห็นเนี่ยนึกว่าเป็น "มิสอีนี่เยอะเว่อร์ (มิสสะรี่ชอปเป้อ)" เพราะนางสำรวจตั้งแต่ปากทางเข้าโรงแรม ลานจอดรถ ล็อบบี้ เคาน์เตอร์เช็คอินท์ ลิฟท์ โซฟาหน้าล้อบบี้ สายตานางเหมือนคุณครูที่ตรวจนักเรียนผิดระเบียบก็ไม่ปาน มาถึงก็ตรงดิ่งควัก booking ที่จองมาจากเว็บพี่ด้าให้น้อง G.S.A ทันที น้อง ๆ พนักงานก็ต้อนรับขับสู้กันสุดฤทธิ์ทั้งผ้าเย็น เวรกรรมดริ๊งค์ พูดจาทักทายด้วยสัญชาติญาณที่เต็มเปี่ยมไปด้วยใจรักงานบริการ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือท่าทีที่นิ่งและเงียบเฉยเมยปานว่า "อย่ามายุ่งกับกรู กรูอยากอยู่คนเดียวเงียบ ๆ" อ่ะ ไม่ว่ากันเพราะเราก็ทำตามหน้าทีอยู่แล้วจากนั้น G.S.A ด้วยความที่ตอนนั้นไม่ยุ่งมากก็ Escort นางขึ้นไปส่งที่ห้องแล้วก็ลงมา
ประมาณ 20 นาทีผ่านไปมีสายจากห้องนางโทรตรงแบบไม่บอกผ่านลงมาหน้าล็อบบี้ว่า "Can I see the Manager?" จังหวะนั้นเอง เฮียเป็นคนรับสายจึงรู้ได้ทันทีว่า "หมีงานเข้า หมีงานเข้า หมีงานเข้า แน่ ๆ กรู" Yes, I'am" เฮียก็ประกาศตัวเสียงดังฟังชัดแล้วนางก็บอกว่า "I will go down to see you" นั่น สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์คงกลัวไม่ได้ข้อมูลที่ชัดเจนป้าแกอยากจัดเต็มแบบเห็นชัด Full HD TV 360องศาฟาเรนไฮต์กันเลยทีเดียว จริง ๆ อยากอำนวยความสะดวกป้าโดยการ complain ผ่าน Skype หรือ Line VDO call ก็ได้แต่ดูจากอาการแล้วคงยากแท้หยั่งถึง แล้วสักพักแกก็ลงมาพร้อมกับกระดาษ A4 ประมาณ 3 แผ่น
แกเรียกเฮียไปดูและอธิบาย (จริง ๆ ก็ด่าแหละ) ว่า "ทำไมล็อบบี้ยูไม่เหมือนในรูปเลย ห้องชั้นก็ไม่เหมือน, สระว่ายน้ำเมื่อกี้ชั้นเดินไปก็ดูแคบ ห้องพักที่ชั้นได้มันดูแคบกว่าในรูปอีก ทำไมในรูปมันดูกว้าง (ทั้ง ๆ ที่ในเว็บก็บอกขนาดไปแล้วเรียบร้อย), ทำไมสระน้ำยูในเว็บมันดูกว้างกว่าของจริง (ซึ่งในเว็บก็บอกไซส์เรียบร้อยแล้วเหมือนกัน) และสุดท้าย "ทำไมพนักงาน (คนที่อยู่ในเว็บ) ไม่มา welcome ชั้น เค้าไม่ได้ทำงานที่นี่หรือไง เธอเอาคนที่ไม่ใช่พนักงานมาโปรโมทโรงแรมเธอเหรอ" อึ้งส์ครับ อึ้งแดกส์อยากร้องเพลงพี่ อ้น ศรีพรรณอีกรอบ "พูดไม่ออก ไม่ได้โกรธ ฉันคงส่งยิ้มให้เท่านั้น แต่มีคำเป็นล้านคำอยู่ข้างใน" พอจับประเด็นเด็ก 8 สี ได้แล้วเฮียก็เริ่มอธิบายว่า
รูปที่ใช้ในการโฆษณานี่มันคือการทำ Photo Shooting ซึ่งเราก็ระบุไว้แล้วว่าใช้เพื่อการโฆษณา ส่วนขนาดเราก็บอกเรียบร้อยแล้วว่าเท่าไหร่ แล้วพนักงานเนี่ยเค้าเข้ารอบอื่นอยากเจอเดี๋ยวจัดให้ไม่มีปัญหา แต่ก็อย่างว่าเหมือนป้าแกจะมีปัญหาและก็ยังไม่ยอมรับความจริง พร้อมยืนยันว่าโรงแรมเนี่ยเป็นพี่ใหม่ เจริญปุระ (หรือพี่ติ๊นาไม่รู้) ว่า "ผิดไปแล้ว มึงผิดไปแล้ว แต่ก็ยังยืนยันว่าฉันไม่ได้ตั้งใจ" คือยังไงก็มั่นใจว่าแกถูกโรงแรมอ่ะผิดและจะเอาห้องแบบรูปให้ได้ อ่ะเพื่อความสบายใจเฮียเลย offer ให้ (คือยังไงไม่ว่าเราจะถูกหรือไม่จำไว้ตลอดชีพในงานบริการว่า ถ้าแขกบอกว่าผิดมึงต้องผิดเสมอ T__T ) ย้ายห้องมั้ย แล้วก็พาไปดูห้องใหม่คราวนี้เข้าไปดูนิ่ง ๆ แล้วก็บอกว่า "Ok ชั้นย้ายก็ได้แต่จะขออยู่ก่อนนะสองคืนถ้าชั้นไม่พอใจชั้นอาจจะย้ายไปห้องอื่นนะ" โอ้ว์พระเจ้า "ที่สุดของแจ้" อีกแล้ว เฮียก็บอกนะว่า "มันย้ายไม่ได้หรอกเพราะห้องเต็มมันติดวันหยุด" แต่เจ้แกก็ยืนยันว่าถ้าไม่พอใจต้องย้ายให้แกแต่วันนี้ขอย้ายก่อน อ่ะ ก็ว่ากันไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนแล้วก็ลง Log Book ไว้เตือนสติ Manager รอบต่อ ๆ ไป


วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ช่วงเรื่องเล่าจากทางบ้าน...รายการใหม่ "Club Stupid Guest" กับเฮีย



ช่วงเรื่องเล่าจากทางบ้าน...รายการใหม่ "Club Stupid Guest" กับเฮีย
วันนี้น้องเค้ามีปัญหาคือมีแขกตอนแรกมาพักยังไม่มีปัญหาอะไรเลยทุกอย่างโอเคหมด แต่พอถึงเวลาเช็คเอาท์เงินที่จ่ายเสือกไม่พอ ทีนี้ล่ะมาเลย ปัญหาสารพัดร้อยแปด น้ำไม่ไหล ไฟดับ กระสับกระส่าย ควายจะออกลูก จมูกดั้งไม่โด่ง เพื่อที่ต้องการคำว่า "ไม่เป็นไรค่ะให้พักฟรีก็ได้" เพราะไม่มีตังค์จ่ายเลยหาไม้ตายให้ตัวเอง (แต่ถ้าทำอย่างงี้ที่อื่นอาจไม่ใช้ไม้ก็ได้นะที่ตาย) แถมสรรคุณตัวเองที่อ้างว่าหน้าที่การงานใหญ่โตเนี่ยเทียบกับกิริยามารยาทแล้วไม่น่าไปกันได้เลย จากที่เคยเจอคนดี ๆ ใหญ่ ๆ มีหน้ามีตาจริง ๆ เค้าก็พักกันปกติมีปัญหาบ้างก็แก้ไขขออภัยกันไปไม่ถึงขนาดอยากได้ฟรีขนาดนั้น
ใครเจอแบบนี้เฮียแนะนำนะครับ กรณีที่แขก complain น้ำไม่ไหล ไฟดับ ต้องมีการลง Record ไว้ ทำเป็น Report Log Book วันต่อวันเลยยิ่งดีเพื่อเวลามีปัญหาแบบนี้ (ซึ่งจริงๆ แขกดี ๆ เค้าไม่ทำกัน) จะได้เอาสมุดมายันเลยว่ามีปัญหาแล้วไม่แจ้งกูจะไปตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์ได้ยังไงวะ เพราะทุกห้องเค้าต้องเช็คสภาพก่อนแขกเข้าอยู่แล้วว่าดีมั้ยโอเคมั้ย เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ถ้าห้องไม่ดีแล้วจะทนอยู่จนเช็คเอาท์ ปกติเค้าจะรีบแจ้งมีปัญหาก็จะได้ย้ายห้องอัพเกรดให้อะไรก็ว่ากันไป แต่ที่แก้ปัญหาได้ดีที่สุดคือก่อนพักเก็บไปเลย Deposit น่ะเอาให้ Cover ปกติตอนเฮียทำอยู่ที่ Luxury Resort แขกจ่าย Deposit ค่าห้องพร้อม Extra Charge Deposit คืนละพันนะ แต่ก็ต้องยึดคำว่า Flexible ด้วยเพราะบางทีแขกอยู่เดือนนึงจะไป Extra เค้าวันละพันเดือนนึง 3 หมื่นอันนี้ก็เกินไป ก็ฝากน้อง ๆ หนูๆ ไว้นะเป็นวิทยาทานเตรียมตัวกันไปนะ...น้องนี่ยังใจดีนะจะ Host Launch
----------------------------------------------------------------------------------
เนื้อหา
ฮือออพี่ขามีเรื่องโหดร้ายวันสงกรานต์มาเล่าให้ฟัง จะไปปรึกษาพี่อ้อยพี่ฉอดแกก็คงไม่เข้าใจ คือลูกค้ามาพักแล้วไม่ได้จ่ายเงินตอนเช็คอินค่ะ เนื่องจากลูกค้าขอไปกดก่อนแล้วก็หายเงียบไปจนวันเช็คเอาท์ สาระพัดสิ่งจะคอมเพรนเลยค่ะต่างๆนา บอกว่าห้องไม่สะอาด ส้วมไม่ได้กด แม่ยายไม่ได้ร้องคาราโอเกะเพราะร้านอาหารปิดเร็ว อุณภูมิในห้องไม่สม่ำเสมอลูกพี่ท่านจะไม่สบาย ปิดท้ายด้วย"ผมอยากรู้ว่าโรงแรมจะรับผิดชอบยังไง".....หนูก็เสนอไปขอรับรองอาหารกลางวัน ก็ไม่เอา ให้ว๊อยเชอ ก็ไม่เอา ลดราคาก็ไม่พอใจ อยากจ่ายแค่นี้ นั่งด่านั่งบ่นอยู่ชัวโมงกว่าไม่จบไม่สิ้น เค้าบอกเค้าเป็นด๊อกเตอร์ เป็นหมอฟัน เป็นอาจารย์มหาลัย พ่อตาแม่ยายเค้าเจ้ายศเจ้าอย่างต่างๆนาๆ ไม่จบซักทีพี่แกพูดอยู่ฝ่ายเดียว หนูอยากรู้ว่าเวลาเจอสถานะการแบบนี้ควรทำยังไงดีคะ คือมันยืดเยื้อไม่จบสิ้นเงินก็ไม่ยอมจ่ายซักที จากหนูน้อบน้อมกับเค้าทีแรกจนหนูต้องพูดตรงๆว่าหนูไม่อยากมานั่งเถียงกับคุณแล้ว ก็มาเรียกจิกหนูว่า"อีนี่ไม่ต้องพูดเลย"T^T สุดท้ายหนูจบเรื่องด้วยการเรียกตำรวจค่ะ ไม่เคยทำขนาดนี้กับลูกค้ามาก่อนแต่จุดนั้นก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ยังไงชื่อเสียงก็เสียอยู่แล้วละลูกค้ามาเลเวลนี้ ของก็เสียไปแล้วกินเต็มที่ขี้เต็มส้วมไปแล้ว โดนด่าก็โดนซะไม่เหลืออะไรละ สุดท้ายยังไงก็ต้องได้เงินแหระวะ!! พี่มีวิธีอื่นแนะนำด้วยน๊ะคะ;) ขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ
ปล,น้องเค้าอยากได้ไอเดียจากพวกเราด้วยนะว่าจะทำยังไง เอ้า !!!! ช่วยกัน Brain Storm กันหน่อยครับช่วยเหลือเพื่อนๆ อุตสาหกรรมเดียวกัน ช่วย ๆ กันไปนะทุกคน คนที่ไม่เจอก็เก็บไว้เป็น Case Study นะแจ๊ะ





วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2558

กลอนสำหรับสงกรานต์



เล่นสงกรานต์เป็นยังไงไม่เคยรู้
จะกี่ปีไม่เคยอยู่ได้เล่นหนา
อาร์ซีเอ รัชดา ไม่เคยมา
จะข้าวสาร ข้าวหอมมาไม่เคยมี
ที่ทำได้ก็ต้องอยู่หน้าล็อบบี้
ปรนนิบัติพัดวีดูแขกหนา
รับเช็คอินท์เช็คเอาท์เพลินอุรา
รับคำด่าห้องไม่ทันมันจริงๆ
ไหนจะแขกขอเช็คเอาท์ช้าหลายห้อง
ไอ้ที่จองอยากได้ห้องเร็วๆ หนา
เหล่าแม่บ้านวิ่งกันมันส์อุรา
มีสองมือสองขาน่าเห็นใจ
ตอน Breakfast ก็เสิร์ฟกันแสนสนุก
บ้างกินเสร็จแล้วไม่ลุกหนีไปไหน
ที่มาใหม่ไม่มีที่นั่งน่าเห็นใจ
พนักงานรับพรไปสบายจิง
มาที่ช่างก็สุดแสนอนาถจิต
แขกขึ้นไปแอร์ไม่ติดหงุดหงิดหนอ
โทรมาด่า Reception แถมหน้างอ
โอ้แขกหนอพอขึ้นไปลืมเสียบคีย์
แต่ยังไงก็กัดฟันอดทนรอ
สี่ทุ่มหนอพอเลิกงานพร้อมเต็มที่
กะจะไปเล่นรอบดึกให้ทันที
อนิจจาไปถึงที่ไม่มีใครเลย





บทความแนะนำ