วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2562

คำขวัญงานโรงแรม

คำขวัญงานโรงแรม
อยากโดนแขกด่าให้เป็น G.S.A.
อยากเจอพนักงานเกเรให้เป็น HR
ถ้าอยากเป็นนางฟ้าให้เป็น G.R.O.
อยากได้ทิปเป็นโหลให้ไปเป็น Bell
ก่อนที่จะเป็น Sale ให้เป็น Reservation...
แต่ถ้าคิดว่ามั่นก็เป็น PR..
อยากเจอดาราให้เป็น Marketing
ถนัดเรื่องซ่อมจริงๆ ให้ไปเป็นช่าง
ใครชอบทำอาหารมั่งยังมีแผนกครัว
ถ้าถนัดนวดไทยนวดตัวให้ไปเป็น SPA
เสิร์ฟเช้า สาย บ่ายบุฟเฟ่ต์มาให้เป็น F&B
ชอบปูเตียงทำความสะอาดดีๆ ก็มี HK
อยากปราบแขกเกเรให้เป็น Secure
อยากพักผ่อนแบบชิลด์ให้อยู่นิ่งๆ
ถ้าคิดว่าแน่จริงก็ให้เป็น GM ไปเลย..จบ


วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ตอน คนใจอ่อน

ตอน คนใจอ่อน
เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนใจอ่อนที่อยู่ดีๆ ก็มามีเรื่องให้พนักงานโรงแรมได้ปวดหัวแต่สุดท้ายก็ต้องช่วยเหลือกันไปเพราะเขาเป็นแขกของเราเรื่องมันเริ่มขึ้นเมื่อเฮียได้รับแจ้งจากน้อง Bell Boy ที่ลงมาจากการขึ้นไปส่งกระเป๋าแขกว่า “เฮียครับแขกห้อง ....” เค้าต้องการให้ผู้จัดการขึ้นไปบนห้องหน่อยครับ” เฮียก็ถามมันกลับว่า “เขกมีอะไรหรือเปล่า?” มันก็บอกมาว่า “ไม่รู้เฮียผมเห็นเค้ากำลังเถียงอะไรกันอยู่กับผู้หญิงไม่รู้ครับ” พอรับเรื่องมาเสร็จเฮียก็จัดการเปิดดูประวัติแขกใน PMS ก่อนเลยว่าเป็นใครมาจากไหนพอเปิดมาก็ปรากฏว่าเป็นแขกมาจากแดนกังหันลมแต่ในระบบบอกว่า C/I คนเดียวนั่น แส-ดง ว่าแขกต้องพาน้อง Join มาด้วยอย่างแน่นอนเฮียก็ให้น้อง Bell Boy มันไปไล่ดูในรายงานบันทึกการฝากบัตรประชาชนของน้อง Join ว่าห้องนี้มีเอาน้อง Join ขึ้นไปไหมก็ปรากฏว่าแขกพาขึ้นไปจริงๆ พอได้ความแล้วเฮียก็ขึ้นไปที่ห้องแขกพร้อมกับ Security 1 คน
ไปถึงยังไม่ทันได้เคาะประตูแขกก็เปิดประตูทิ้งไว้แล้วกำลังเล่นใหญ่กับน้อง Join เลยเสียงดังชึ้นเรื่อยๆ เฮียก็เลยบอกแขกว่า “สวัสดีครับชั้นเป็นผู้จัดการรบกวนยูใจเย็นๆ ก่อนนะเพราะตอนนี้เสียงดังมากเดี๋ยวแขกท่านอื่นจะได้รับความไม่สะดวก” แขกก็เบาเสียงลงแล้วก็ตรงดิ่งมาหาเฮียเลยบอกว่า “ชั้นให้เงินเค้าไปแล้วทำไมเค้าจะต้องมาเอาเงินจากชั้นอีกชั้นไม่เข้าใจ” เฮียก็หันไปถามน้องมันว่า “น้องแขกเค้าบอกว่าน้องจะเอาเงินเค้าเพิ่มเหรอครับ” น้องมันก็ตอบมาว่า “ก็ตอนแรกตกลงกันมาแล้วว่าจ่ายก่อนครึ่งนึงแล้วอึกครึ่งมาจ่ายที่โรงแรมไงพี่หนูก็เลยมา” เฮียก็หันไปอธิบายกับแขกว่า “ขอโทษนะเค้าบอกชั้นว่าตอนแรกตกลงกันยูจะจ่ายให้เค้าครึ่งนึงก่อนแล้วอีกครึ่งมาจ่ายที่นี่” แขกก็รีบตอบมาเลยว่า “NOOOOO” ลากเสียงยาวเลย “ชั้นบอกเค้าว่าชั้นให้ได้เท่านี้นะแล้วเค้าก็บอกว่าโอเคชี้นก็เลยพามาแล้วชั้นก็ต้องเสียเงินให้ยูอีกนี่ชั้นจ่ายไปมากเกินแล้วนะ” เฮียก็หันไปบอกกับน้องซึ่งก็ไม่รู้ว่ากูจะทำแบบนี้ทำไมวะเนี่ยตอนต่อราคาก็ไม่ได้ไปอยู่ด้วยซะหน่อยว่า “น้องครับเค้าบอกว่าเค้าตกลงกับน้องมาแค่นี้นะครับเค้าจะให้แค่นี้นะน้อง” น้องมันก็โมโหแล้วก็หันไปด่าแขกเลยว่า “ชั้นจะไปแจ้งความยูโกงชั้น” เป็นภาษาอังกฤษที่ฟังดูก็เข้าใจเลยว่าจะไปแจ้งตำรวจแขกก็โมโหก็สวนมาเลยว่า “ยูไปเลยชั้นไม่จ่าย” แล้วก็หันมาบอกเฮียว่า “เอาเค้าออกไปจากห้องชั้นเดี๋ยวนี้เลย” อ้าวเฮ้ย!! โยนงานมาอีกแล้วเราก็ด้วยความเป็นพนักงานที่ดีก็ต้องทำตามหน้าที่เฮียก็หันไปบอกกับน้องว่า “น้องครับพี่เข้าใจน้องนะแต่แขกจะจ่ายแค่นี้และต้องการให้น้องออกจากห้องในฐานะแขกพี่ก็ต้องดูแลเค้าน้องลงไปกับพี่ดีกว่านะส่วนน้องจะไปแจ้งตำรวจยังไงก็แล้วแต่น้องนะ”
อยู่ดีๆ น้องมันก็ทรุดนั่งลงกับพื้นเลยแล้วก็ร้องให้ปานจะขาดใจคือร้องหนักมากจนแขกตกใจแล้วก็หันมาถามเฮียว่า “เค้าเป็นอะไร” เฮียก็เลยตอบแขกไปว่า “เค้าคงเสียใจน่ะที่ไม่ได้เงินแต่เดี๋ยวชั้นจะพาเค้าลงไปเอง” แล้วเฮียก็เดินไปหิ้วปีกน้องมันขึ้นมาแล้วบอกว่า “น้องลงไปกับพี่นะยังไงพี่ก็ให้น้องอยู่ในนี้ไม่ได้แล้ว” น้องมันก็ร้องให้ตอนแรกเหมือนจะไม่ไปแต่ก็ยอมลงไปโดยดีแล้วอยู่ๆ เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นแขกก็พูดขึ้นมาว่า “เดี๋ยวก่อน” เฮียก็ให้ รปภ. พาน้องออกไปยืนนอกห้องก่อนเพราะจับพลัดจับผลูยังไงถ้าเค้ามีปัญหากันน้องเค้าก็จะได้ไม่ต้องดื้ออยู่ในห้องให้เหนื่อยพาออกไปอีกแขกก็พูดมาว่า “ยูเอาเงินที่ชั้นจ่ายยูให้เค้าไปเพิ่มได้มั้ยเค้าน่าสงสารนะ” อ้าวเฮ้ย!! ทำไมโยนมาให้ รร. ซะงั้นวะเนี่ยเฮียก็ตอบไปว่า “ไม่ได้หรอกเพราะเงินนี่มันคนละส่วนกันกับส่วนที่ยูตกลงกับเค้า” แขกก็สวนมาว่า “แต่ชั้นจ่ายค่าห้องยูมาแล้วนะแล้วชั้นพาคนอื่นเข้ามาทำไมชั้นต้องจ่ายอีกล่ะมันไม่แฟร์นะเค้าทำงานให้ชั้นจริงๆ เค้าต้องได้เงินนี้นะไม่ใช่โรงแรม” อ้าว เริ่มออกทะเลไปซะและแขกกูเฮียก็เลยต้องพาเข้าฝั่งมาก่อน “ตอนที่ยูจองมาเป็น Single Rate ใช่ไหม” แขกก็ตอบมาว่า “ใช่” แล้วถ้ายูจะพักสองคนยูก็ต้องจ่ายเพิ่มถูกไหมเพราะมันจะไม่ใช่ Single มันจะเป็น Double ซึ่งถ้าจะจ่ายเพิ่มสำหรับห้องพักห้องนี้ราคาอยู่ที่ 1800 บาท Net ยูอยากให้ชั้นชาร์จราคา Double Rae แล้วเอาเงิน 1000 บาทนี้คืนให้เขาไปไหม? ชั้นจะได้ทำชาร์จใหม่นะ” แขกก็เงียบแล้วก็ถามเฮียมาว่า “แล้วยูไม่สงสารเค้าเหรอเค้าได้เงินแค่นี้เอง” เฮียก็เลยถามกลับว่า “จริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างยูกับเค้านะไม่เกี่ยวกับเราเลยเพราะเราดูแลยูในฐานะแขกไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆ กับการให้หรือไม่ให้ค่าตอบแทนเค้าเลยนะแล้วยูจะให้เราจัดการได้ยังไง” พูดจบก็เหมือนจะได้สติแล้วก็เหมือนแกจะเป็นคนขี้สงสารและก็เดินหยิบเงินมาให้น้อง Join เพิ่มอีกเสร็จแล้วก็ปิดประตูห้องไปเลยแบบไม่พอใจเฮียอย่างมากซึ่งก็ไม่รู้ว่า “กูผิดอัลไลวะเนี่ย”


วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ตอน กะทันหัน

ตอน กะทันหัน
เรื่องนี้เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญจริงๆ ของแขกที่ดันมาเจอกันโดยมิได้นัดหมายแล้วต้องการได้ห้องแบบติดกัน “Foot ความ” ก่อนว่าเวลาที่เรา Assign ห้องพักให้แขกเนี่ยเราก็จะดูก่อนว่าแขกมาด้วยกันไหมถ้าประเภทจองมาด้วยกันหรือจองหลายๆ ห้องเราก็จะจัดห้องที่อยู่ติดกันให้เพราะเราเข้าใจว่าแขกอยากอยู่ใกล้กัน

เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนเฮียกำลังรับ C/I แขกอยู่คนหนึ่งซึ่งเค้าจองมาห้องเดียวไม่ได้มาร่วมกับใครในขณะที่เฮียกำลังเตรียม C/I แขกและได้เอกสารมาครบแล้วจู่ๆ แขกก็รับโทรศัพท์แล้วก็สนทนาเป็นภาษาอังกฤษแปลเป็นไทยได้ประมาณว่า “แขกคุยกับเพื่อนว่าอยู่ที่ไหนแล้วเพื่อนก็คงตอบมาว่าอยู่ที่ไหนสักที่นี่แหละแขกก็เลยชวนให้เพื่อนมาพักที่นี่แล้วก็จบการสนทนา” พอจบการสนทนาแล้วแขกก็หันมาถามเฮียว่า “ยูมีห้องพักว่างไหม” เฮียก็ตอบไปว่า “มีครับ” แขกก็ถามมาว่า “เพื่อนชั้นจะมาพักด้วยยูช่วยหาห้องพักที่อยู่ใกล้ๆ กันให้หน่อยได้ไหม” คือตอนนี้เฮียรู้แล้วว่ามีปัญหาเพราะเวลานั้นเป็นช่วง Long Weekend แขกเยอะมากมายมหาศาลปานแจกฟรีห้องมันก็ค่อนข้างแน่นเฮียก็พยายามหาในระบบแต่ไม่มีแล้วก็แจ้งแขกไปว่า “ขอโทษนะครับห้อง Room Type เดียวกันกับยูไม่มีห้องติดกันว่างเลย” แขกก็ถามกลับมาว่า “ไม่มีเลยเหรอ” เฮียก็หาอีกทีแล้วบังเอิญว่าไปเจอห้องพักอยู่คู่นึงที่อยู่ติดกันแต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ “มันเป็นห้องที่อยู่อีก Category นึง” ซึ่งราคาแพงกว่าแต่ด้วยความที่เราทำงานบริการอย่าไปคิดแทนแขกว่า “แพงแขกไม่เอาหรอก” หน้าที่ของเราคือต้องบอกทุกอย่างเพื่อป้องกันประโยคที่ว่า “ทำไมไม่บอกชั้น”

เฮียก็แจ้งแขกไปว่า “มีห้องพักอยู่ติดกันอยู่คู่นึงแต่เป็น Room type อีก room type นึงนะครับราคาห้องพักอยู่ที่ 3,500 บาท + ABF ถ้ายูต้องการสามารถชำระเพิ่มได้อีก 700 บาทต่อคืนส่วนเพื่อนยูก็ชำระ 3,500 บาทครับ” พูดจบอารมณ์เปลี่ยนแขกถามกลับมาแบบผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลยว่า “Why??? Why I have to pay more?” อ่ะ ไม่เป็นไรแขกอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องจ่ายเฮียก็อธิบายไปว่า “เนื่องจากห้องพักนี้เป็น Room type ที่อยู่เหนืออยู่ขึ้นไปอีก type นึงมีขนาดกว้างกว่าตกแต่งแตกต่างจากห้องที่ยูจองมาตอนแรกเลยมีราคาสูงกว่าแต่ยูได้อยู่ติดกับเพื่อนนะ” แขกก็ตอบกลับมา “ไม่..ชั้นไม่จ่าย..ชั้นเป็นแขกชั้นต้องการห้องพักติดกันแต่ยูไม่มีเองยูก็ต้องหาทางแก้ไขให้ชั้นซิแล้วนี่ยูมีห้องพักที่อยู่ติดกันยูก็ต้องให้ชั้นพักเพื่อแก้ปัญหานี้แล้วยูจะมาเก็บเงินชั้นเพิ่มทำไม” อ่ะไม่เป็นไรแขกอาจจะงง เฮียก็อธิบายต่อ “คืออย่างนี้นะครับยูจองห้องพัก Type Superior เราก็จัดให้ตามที่ยูจองมาตามสิทธิของยูแล้วยูต้องการห้องติดกันเพราะเพื่อนยูมาเราก็พยายามหาห้องพัก Type เดียวกันที่อยู่ติดกันให้แต่มันไม่มีเพราะแขกเต็มเราเลยเสนอห้อง Type อื่นที่มีห้องพักติดกันแต่ยูต้องจ่ายเพิ่มเพราะเป็นห้องพักคนละ Type กันซึ่งเราไม่ได้บังคับให้ยูจองแต่พยายามหาทางออกให้ยูได้พักด้วยกันถ้ายูไม่ต้องการจ่ายเพิ่มเราก็มีห้องพักที่อยู่ใน Type เดียวกันแต่อยู่ห่างจากกันไป 2 ห้องพักแต่ชั้นเดียวกันเราจะ Assign ห้องนี้ให้” มาต่อดอกสอง “แต่ชั้นต้องการอยู่ติดกันและชั้นไม่ต้องการจ่าย” เฮียก็มาดอกสอง “ได้ครับ งั้นอีกห้องที่ใกล้ห้องที่เรา Assign ให้ยูที่อยู่ติดกันจะ C/O ในวันพรุ่งนี้เราจะ Lock ห้องนี้ไว้ให้แล้วพรุ่งนี้ให้เพื่อนยูย้ายมาก็ได้ยูจะได้อยู่ติดกัน” เป็นการแก้ปัญหาแบบสันติวิธีและแขกบางคนก็ Happy เพราะเข้าใจในสิทธิตนเองแต่ไม่ใช่พี่คนนี้เพราะแก้ตอบกลับมาว่า “ไม่..ชั้นไม่ต้องการย้ายไปย้ายมาชั้นจะเอาห้องติดกันวันนี้”

เฮียก็ตอบกลับไปว่า “ได้ครับรบกวนชำระเงินเพิ่มตามที่แจ้งนะครับเราจะ  Assign ห้องพักให้ยูครับ” แขกก็สวนมา “นี่ยูพูดไม่รู้เรื่องหรือไงว่าชั้นไม่ต้องการจ่าย” เฮียก็อธิบายต่อประมาณว่าใครยื้อได้นานกว่ากันมันไม่ใช่เรื่องที่โรงแรมต้องเสียผลประโยชน์และสิทธิจากการขายห้องพัก Type นี้ไปฟรีๆ เพราะไม่ได้ทำผิดอะไร (แต่ Manager คนไหนอยากให้ก็ได้นะไม่ว่าต่างคนต่างวิธี) “ขอโทษนะครับถ้าโรงแรมมีอะไรทำให้ยูไม่สะดวกในการเข้าพักหรือทำอะไรผิดพลาดเรายินดี Free Upgrade ให้ยูครับแต่กรณีนี้เราทำตามสิทธิของยูทุกอย่างยูจองห้องนี้มาเราก็ให้ห้อง Type นี้ยูอยากได้ห้องติดกันมันไม่มีเราก็พยามหาทางให้ย้ายมาอยู่ติดกันต้องขอโทษด้วยนะครับเราไม่สามารถ Free Upgrade ให้ยูได้” เงียบไปนานพอสมควรแล้วก็โทรหาเพื่อนเฮียก็จัดการ Check In จนเสร็จจากนั้นแขกก็วางสายแล้วก็หันมาเหวี่ยงระดับ 10 ริกเตอร์กับเฮียว่า “ยูจองห้องที่อยู่ติดกับชั้นไว้ให้เพื่อนชั้นแล้วกันพรุ่งนี้เค้าจะย้ายตอนนี้จองห้องให้เพื่อนชั้น 1 ห้อง” แล้วก็บ่นพึมพำๆ เฮียก็ทำเป็นไม่ได้ยินเพราะต้อง release place (ปล่อยวาง) ให้มันจบไป


วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2562

Butler

ตอน โปรดใช้จักรยานในการรับชม
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนเฮียเป็น Butler ซึ่งตอนนั้นเฮียทำงานอยู่ที่หัวหินมันเป็นเรื่องของการบริการแขกแบบ Beyond Expectation กันเลยทีเดียวเชียวคือ "Foot ความ" ก่อนว่าตอนนั้นระบบ Butler ของโรงแรมเฮียเป็น Butler แบบ 24 Hrs. คือถ้าแขกเข้าพัก Period กี่วันก็ต้องอยู่กับแขกไปจนกว่าแขกจะ C/O ซึ่งในโรงแรมเค้าจะมี Villas Butler ให้เหล่าบรรดา Butler เข้าพักเพราะ Butler อย่างเรา “ต้องนอนหลังแขกและตื่นก่อนแขก” ซึ่งเรื่องนี้มันเกิดตอนเวลาประมาณ ตี 4 เมื่อเฮียได้รับสาย (ลืมบอกไปว่าที่โรงแรมเวลาแขก C/I เค้าจะให้มือถือแขกเครื่องนึง Butler เครื่องนึงพอกด Speed Dial ก็สามารถโทรหา Butler แล้ว Request อะไรได้เลย) ทีนี้เฮียได้รับสายแขกก็บอกว่า “ยูช่วยมาหาชั้นที่ห้องหน่อยได้ไหม” เฮียก็ตอบไปว่า “ได้ครับรอสักครู่นะครับ” คือใจน่ะรู้แล้วแหละว่าต้องมีปัญหาอะไรสักเจ็ดแปดอย่างเพราะห้องนี้เค้าเอาน้อง Join เข้าไปด้วยเมื่อตอนหัวค่ำ
พอเฮียไปถึงแขกก็ยืนรออยู่หน้าห้องพักแขกก็ยื่นเงินให้ 1000 บาทแล้วบอกว่า “ยูช่วยไปซื้อ Condom ให้ชั้นหน่อยได้ไหมเอาทุกยี่ห้อทุกชนิดเลยนะ” แม้ใจจะ งงๆ แต่ปากก็ตอบไปว่า “ได้ครับ” แล้วเฮียก็ข้ามไปซื้อที่ร้านสะดวกซื้อก่อนเอามาให้แขกสักพักก็เดินเอามาให้ที่ห้องแขกก็เปิดประตูมาเฮียก็ยื่นให้ทั้งหมดที่มีในร้านตอนนั้นหมดไปประมาณ 4-5 ร้อยกว่าบาทแขกก็บอกว่า “ยูเก็บเงินทอนไปเลยนะ” เฮียก็ขอบคุณแล้วจังหวะที่จะหันหลังกลับมาแขกก็มาถามว่า “ยูจะมา Join ด้วยกันมั้ยชั้นมี Lady หลายคนเลยนะ” เฮ่อๆๆๆๆๆ เอาไงล่ะกูทีนี้แต่ด้วยจรรยาบรรณในการทำงานที่ต้องรักษาอย่างเคร่งครัดเฮียเลยตอบไปว่า “ได้ครับ” เอ้ย!!! ไม่ใช่ๆ เฮียตอบไปว่า “ชั้นขอบคุณมากนะแต่ชั้นไม่สามารถไป Join กับยูได้เพราะชั้นทำงานอยู่..ยูสนุกให้เต็มที่เลยนะมีอะไรก็บอกชั้น” สักพักน้อง Join เดินตรงดิ่งมาจับแขนเฮีย “พี่มาแป๊บเดียวน่าไม่เป็นไรหรอกพี่นี่มันตี 4 แล้ว” เกิดอาการ "ขอสัมผัสได้ไหมจ๊ะ อย่ามาทะลึ่งเบเบ้"
เอ่อ คือ บับว่า ตอนนี้อาการมันแบบ “หน้าชา ปากชา ขาชา” คือเฮียก็ยังคงรักษาจรรยาบรรณไว้ได้อย่างดีเยี่ยมเลยตอบน้องไปว่า “รอแป๊บนะน้องเดี๋ยวพี่มา” เอ้ย!! ไม่ใช่ๆ เฮียเลยบอกน้อง Join ไปว่า “ไม่เป็นไรครับน้องเต็มที่เลยนะครับทีนี้แขกอยู่ดีๆ ก็ทำเสียงหงุดหงิดแล้วก็พูดกับเฮียมาว่า “นี่ยูจะอะไรนักหนาชั้นเป็นแขกยูชั้นจะให้ยูเข้ามา Join Party มันจะมีปัญหาอะไรใครจะว่าอะไรยูๆ บอกชั้นซิ” คือเอาจริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากให้พี่มาทุ่มเทอะไรขนาดนี้อ่ะนะครับคือพี่ปล่อยผมไปเถอะ
เฮียก็อธิบายไปว่า “ไม่ใช่อย่างนั้นครับชั้นแค่อยากให้ยูสนุกเต็มที่พอดีชั้นมีงานด้านบัญชีที่ต้องปิดรอบยังทำไม่เสร็จเลยชั้นต้องกลับไปทำให้เสร็จและต้องคอยดูแลยูหลัง Party เลิกอีกไม่งั้นเดี๋ยวงานไม่เสร็จชั้นโดนหัวหน้าว่าเอา” แขกที่ตอนนี้ก็กรึ่มๆ หน้าแดงและก็หันมาตะคอกใส่เฮียแล้วขอมือถือเฮียก่อนพูดว่า “ชั้นเป็นแขกก็ชั้นจะให้ยูเข้ามาจะมีปัญหาอะไรเอาเบอร์หัวหน้ายูมาเดี๋ยวชั้นจะโทรไปคุย (ตอนตี 4 เนี่ยนะพี่เป็น The Toy เหรอครับ)” ตอนนั้นเฮียไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนคือแลดูแขกจะเอ็นดูเราปกติเจอแต่ด่ากราด 555 เฮียก็ใช้ไม้ตายบอกแขกไปว่า “เอางี้นะชั้นขอเวลา 2 ชั่วโมงถ้าชั้นทำงานเสร็จแล้วจะแวะมาดูความเรียบร้อยของห้องยูนะพรุ่งนี้เช้ายูจะกินอะไรไหม (เปลี่ยนเรื่อง)” แขกก็เหมือนจะพอใจนิดๆ แล้วก็เหมือนจะ งงๆ ก็ตอบมาว่า “ชั้นจะเอา ABF” เฮียก็รับ ออร์เดอร์อาหารมาแล้วก็ออกมาและพอครบกำหนด 2 ชั่วโมงเฮียก็เดินมาดูอีกทีเพราะคิดว่าน่าจะหลับกันไปหมดแล้วซึ่งก็หลับจริงๆ เพราะห้องเงียบกริบเลยสุดท้ายก็รอดตัวไป


บทความแนะนำ