วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เรื่องของแขก Early Check Out




Where Where is Where Where แปลเป็นไทยว่า "ไหน ๆ ก็ไหน ๆ และ" พูดถึงเรื่อง ECI ไปแล้ววันนี้มาพูดถึงเรื่อง ECO หรือ Early Check Out กันบ้างดีกว่า
การ ECO เนี่ยถ้าปกติธรรมดาแบบแขกรู้ว่าเขาประสงค์จะออกก่อนกำหนดเวลาการเข้าพักหรือกำหนดการ C/O (Check Out) ที่แท้จริงเขาก็จะต้องยอมรับเงื่อนไขว่าค่าห้องที่เขาจ่ายมาแล้วล่วงหน้าทางโรงแรมมีสิทธิไม่คืนเพราะถือเป็นการชดเชยค่าสูญเสียโอกาสการขาย ยกเว้นกรณีที่ห้องว่างเหลือมากหรือไม่ใช่ช่วง ไฮซีซั่น หรือกรณีที่แขกแจ้งล่วงหน้าตั้งแต่เข้าพักหรือล่วงหน้าวัน C/O สักสองสามวัน อันนี้อาจจะคืนเงินให้เป็นเคสบายเคสไป ยกเว้นกรณีที่แขกจอง Package ประเภทเรตถูกสุด ๆ ถูกหยั่งขี้มาเช่น Early Bird (แปลตรงตัวว่า "นกด่วน") เป็นต้นเพราะนอกจากจะได้ลดราคาค่าห้องที่กระหน่ำระห่ำแตกแล้ว แขกจะต้องยอมรับเงื่อนไขแลกเปลี่ยนคือ Full Payment คือจองเสร็จจ่ายเงินเลยเต็มจำนวน No Cancel, No Refund, No Amendment, คือ จองแล้วจ่ายเงินแล้วห้ามยกเลิก ไม่คืนเงิน และห้ามเปลี่ยนระยะเวลาการเข้าพัก แต่เนื่องด้วยงานโรงแรมเราต้องทำงานตามอารมณ์ของแขกและมักเกิดสิ่งไม่คาดฝันได้ตลอดเวลาจึงเป็นที่มาของเคสนี้
เคสนี้เกิดตอนที่เฮียทำงานเป็น Night Manager ก็เข้ารอบมาทำงานไปเรื่อย ๆ จนถึงประมาณ ตี 2 ก็ปรากฏร่างเงาของแขกคู่หนึ่งจากประเทศวิสกี้ดีปี่เป่าดัง มาถึงก็เดินมาติดต่อเฮียแล้วก็แจ้งความประสงค์ว่า "ฉันอยากจะขอเช็คเอาทืก่อนกำหนดได้ไหม?" จำไว้นะว่าเขาถามแค่ว่าได้ไหม เฮียก็เช็คในระบบดูประวัติเรียบร้อยได้ใจความว่า แขกจองมาเป็น Package Hot Deal ลด 15% อยู่ 3 คืน 4 วัน เงื่อนไขของ Package นี้ก็อย่างที่บอกด้วยราคามันถูกมากกกกกก พร้อมอาหารเช้าและสิทธิในการ LCO (Late Check Out) ได้จนถึง 4 โมงเย็น ทีนี้เฮียก็แจ้งกลับไปว่า "ได้ครับ ถ้า You จะเช็คเอาท์ก่อนเวลาก็ได้แต่ทางโรงแรมไม่สามารถคืนเงินให้ยูได้นะ" พอพูดจบประโยคว่า Can't Refund เท่านั้นคำถามหลากหลายก็พรั่งพรูออกมาแต่เริ่มต้นด้วยประโยค Why? เออ เอาซิมึงคือตอนจองเตี่ยกับม๊าดูเงื่อนไขการจองบ้างมั้ยเนี่ยหรือแค่เห็นมันถูก ตอนจองผมก็ไม่ได้ไปนั่งจองด้วยกันกับเตี่ยกับม๊านะครับ แต่ก็อ่ะเรามีหน้าที่สร้างความเข้าใจให้กับแขกอ่ะนะก็ต้องทำไป แล้วเฮียก็เอา Confirmation Letter มากางให้แล้วก็อธิบายทีละตัวอักษรทีละบรรทัดสักพักนึงเฮียก็ว่ามันละเอียดแล้วนะแต่ก็ยังโดนถามกลับมาต่อว่า "Why? Because I'm not stay until last night. You might refund me back my money because I'm not use your room.
เอา เอาเข้าไป เฮียก็เพิ่งอธิบายเมื่อกี้ว่าทำไมมันถึง Refund ไม่ได้เพราะ Booking เค้าก็บอกแล้วว่าเงื่อนไขยังไง ตอนจองทำไมไม่อ่านหาาาา แขกคนอื่นที่จอง Booking Package นี้เค้าก็ยอมรับเงื่อนไขหมดนะ แต่เฮียก็ก้มหน้าก้มตาอธิบายแบบเดิมเพราะงานเราคือสร้างความเข้าใจ ย้ำว่าอธิบายแบบเดิมนะต่อไป แต่แล้วท่านทั้งสองก็งัดไม้ตายออกมาว่า "Can I see the General Manager?" คือประทานโทษครับพี่ นี่มันตี 2 พี่คิดว่า GM จะออนฟลอร์ตลอด 24 ชั่วโมงเหรอครับ เฮียก็โชว์พาวเลยเพราะตอนนั้นกลางคืน Night Manager นี่แหละใหญ่สุดและ เฮียก็ "Actually, I'm a Manager in charge now. I'm a decision maker yet" แล้วก็อธิบายเหมือนเดิม "ย้ำว่าเหมื่อนเดิมนะ" คืออารมณ์เฮียแบบว่าอ่ะกูก็พูดเดิม ๆ อยู่แบบนี้แหละดูดิ๊พี่กับผมใครจะอดทนกว่ากันมา มาดูกัน อธิบายแบบนั้นแหละจนท้ายสุดคงเห็นว่าไม่ไหวเลยตัดสินใจ "Ok, I'm keep same period. Not Early Check Out anymore. แล้วก็ขึ้นห้องไป
ปล.ถ้าจะจองห้องเนี่ยต้องอ่านเงื่อนไขการจองดี ๆ นะตัวเอง เวลา comment กันนก็เลี่ยง ๆ ชื่อเต็มสัญชาติแขกหน่อยนะพูดอ้อม ๆ เอาเดี๋ยวเขาหาว่าเราทัศนคติไม่ดี ให้เฮียโดนคนเดียวพอ



วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ช่วง Club Stupid Guest กับ เฮีย



วันนี้เรื่องราวค่อนข้างอินเตอร์หน่อยเพราะเพื่อนเราส่งเรื่องตรงมาจาก "หม่าเค๊า" (กรุณาอ่านออกเสียงแบบบริทิชสำเนียงจีนด้วยนะจะได้อรรถรส)
อ่านจบเรื่องนี้จะให้อุทาหรณ์สอนใจว่า "อย่าคิดว่าให้อัพเกรดฟรีแล้วแขกจะดีใจเสมอไป และจำไว้ว่าอย่าข้ามสเตปนะเอย"
เนื้อเรื่อง
เอาล่ะได้เวลาแล้ว กับเรื่องเล่าชาวโรงแรม กับเหตุการณ์สดๆร้อนๆ
มันเป็นช่วงเวลาประมาณบ่ายวันหนึ่งที่ เรียกได้ว่า เป็นวันเฟลระดับชาติ คือมีแต่ปัญหาอะ มีมาทุบเค้าเตอร์โวยวายบ้าง มีมาส่งเสียงดังโฉ่งฉางบ้าง ถือว่าวันนั้นเป็นที่เรียกได้ว่า โคตรแย่ของมนุษย์กะเช้าจริงๆ คืองานเข้ากันทุกคน ก็ว่าได้ ...
หลังจากเพิ่งช่วยเพื่อนร่วมกันเคลียร์เคส
(แอบคิดว่าถ้ายังเคลียร์เคสอยู่ต่อไปก็จะไม่มีเรื่องราวของแม่คนนี้เกิดขึ้น) ออกตัวก่อนว่านางไม่ได้เลวร้ายมาก แต่สูตรสไตล์ของนาง มันตรงกับคอนเซ็บของบุคคลที่ ... ดราม่าเอาโล่ห์แล้วหวัง เบเนฟิตโรงแรมจริงจัง ...
ตักมาที่ฉากหน้าเค้าเตอร์ ทุกคนสาละวนกับงาน มีแขกผูเหญิงสาวท้วมเตี้ย ยุรยาดเข้ามาในล้อบบี้ ข้าน้อยก็พุ่งอย่างเร็วไวใจบริการไปยังคอมพิวเตอร์อีกเครื่อง เพื่อต้อนรับขับสู้การมาของเธออย่างเต็มที่ ....
ข้าน้อย: โอ้ยินดีต้อนรับสู่ รร. ...คร่า วู้ดยูไล้ค ทูเช็คกิ้งอิ้นน??
ศ.อัมบริจน์(ถ้าใครอ่านแฮรี่ พอตเตอรมาจะบรรยายภาพลักษณ์ของนางได้เต็มที่หรือ ตุ้กกี้ ก็ได้) :อ้อออฟฟ ค้อสส ไอ ไล้ททูเช็คอิน พร้อมกะทำสีหน้าจิกใส่ เล็กน้อย พร้อมกับยื่นพาสปอรต์ให้ ...โชว์หราพญาครุฑไทย แลนด์ออนลี่อย่างชัดเจน..
ข้าน้อย:อ้าวว สวัสดีค่า ไหว้อย่างไทยสุดฤทธิ์ บทสนทนาภาษาไทยเริ่มขึ้นราวกับ มีความสุข ทุกครั้งที่ได้สนทนากับแขกคนไทยมักจะมีความสุขเสทอเหมือนกับแขกก่อนหน้าที่ได้พานพบเจอ...จนกระทั่งบทสนทนามาถึงตรงที่
"คุณผู้หญิงคะ อยากจะเรียนให้ทราบว่าทางโรงแรมมีความยินดีที่ให้คอมอัฟเกรดคุณผู้หญิงถึงสองสเต็บไปยัง ห้อง สวี้ท สวีท(ขอสงวนชื่อรูมไทพแต่ถือได้ว่าเป็นห้องเกือบท้อบทรีของโรงแรมเลยทีเดียว..ตีเป็นเงินไทยสนนราคาบารเรทประมาณสามหมื่นกว่าบาทอะ ..
ศ.อัมบริจน์: โอ้วจริงเหรอคะ โชคดีจังเลย เออนี่แน่ะละถ้าพี่จะเอ็กเทนต่อสักคืนห้องรูมไทพ์เดิมจะได้ไหม แบบขอเรทพิเศษได้รึป่าว พร้อมกับหหลิ่วตาซ้ายให้หนึ่งที นะ นะ พี่รู้เราทำได้ ..
ข้าน้อย: (มาละไง1จ้อบ)เดะหนูเช๊คให้นะคะ เพราะปกติเรทประมาณนี้ถือว่าลดสุดๆแล้วเดะจะตามเรื่องให้อีกที จากนั้นนางก็ยังถามเรื่องนี้อย่างไม่ลดละ จนลามมาเรื่อง สมัครเมมเบอ
"เนี่ย พี่สมัครหลายครั้งแล้ว พ้อยทก็ไม่เคยเข้าเลย บัตรแข็งก็ไม่เคยได้ ไม่เคยมีนี่ถ้าพี่สมัครใหม่กับเรา จะได้ไหม?"
"แล้วก็เนี่ยเงินวางมัดจำอะ พี่ให้เป็นยูเอสดอลล่าได้ไหมพี่ลืมเครดิตการดไว้ที่บ้านตอนบินมาที่นี่... ต้องได้สิ พี่พักที่ไหนๆมาบนโลกใบนี้ เค้ารับทั้งนั้นแหละ โอเคนะ?"(คือถูกแต่ตามหลักเขารับเงินโลคอลเพื่อการันตีกรณีที่ไม่มีบัตรเครดิตไง)
คือ จากสแตนดารด์เช็คอินไม่เกิน5-8นาที ปรากฏว่าเวลาร่วงโรยไปเกือบ20นาทีจนต้องบอกว่า ... เราไปชมห้องกันดีกว่าคะ จะได้พักผ่อนไหนๆก็เดินทางมาอาจจะเหนื่อยจะได้พัก (คือ ไม่อยากให้ยืนนานไง ดองแขกหน้าเค้าเตอนานๆมันดูไม่งามนะครัชที่นี่อะ)
จนย่างกรายเข้ามาในลิฟท์
ศ.อัมบริจน์: เออที่นี่มีคลับฟลอรรึป่าว พอจะรู้ไหมว่าเท่าไร ปกติพี่ไปพักที่ไหนพี่ใช้คลับฟลอรตลอดเลยนะ
ข้าน้อย: ต้องขออภัยด้วยนะคะ พอดีคลับฟลอเพิ่งเปิดได้ไม่นาน เรายังให้ใช้บริการสำหรับแขกเมมเบอวีไอพีเท่านั้นน่ะคะ ยังไม่เปิดช่องทางให้ชำระสำหรับแขกที่อยากจะใช้บริการ แต่เชื่อว่าอีกไม่นานก็คงจะมีแพคเกจนี้เพิ่มขึ้นมาหลังจากให้บริการไปสักระยะคะ.
ลิฟทเปิดออก ข้าน้อยผายมือให้แขกเดินนำหน้า พร้อมกับอธิบาย ดีเทลต่างๆ คือห้องของคุณผู้หญิง(ปกติเรียกชื่อแต่อย่าเอ่ยเลย) จะอยู่สุดทาง เพื่อความเป็นส่วนตัว พร้อมกับวิวที่เห็นเมืองและแสงสีได้อย่างชัดเจน
ศ.อัมบริจน: อะไรนะ ทำไมไกลขนาดนี้ น้องรู้ไหม พี่อะไม่ชอบนอนห้องไกลจากบันไดหนีไฟ เพราะ พี่กลัวไฟไหม้ เดี๋ยวหนีไม่ทัน พี่เคยพัก #$$/(/&#(@@)@
จนพามาถึงห้อง...ประตูห้องเปิดออก
ประโยคแรกที่เอ่ยคือ ...โอ้มายก้อด มันกว้างเกินไป ... กว้างเกินไปสำหรับพี่ หลังจากสำรวจห้องอย่างละเอียด นางก็หันกลับมาะร้อใกับเงยกน้าคุย ทำไมไม่มีเวลคัมฟรุ้ต ไม่มีอะไรให้เลย (คือปกติมีลูกอมให้ฟรี แต่ไม่อยากเมนชั่น เพราะว่า เค้าพ้อยทมาเรื่องผลไม้ จะบอกว่ามีตุ้กตาให้ตอนเทรินดาวนมันก็ไม่ใช่ ใช่ป่ะ?) ได้แต่เพียงยิ้มแห้งๆ ว่าต้องขออภัยด้วยคะ ปกติจะมีเตรียมไว้ให้สำหรับแขกที่จองห้องสวีทตรงกับโรงแรม หรือเป็นแขกเมมเบอที่จองไดเรคมาจึงจะเซ็ทไว้ให้คะ (ย้ำอีกรอบ เจ๊เข้าจองตรงกับโรงแรมจริงแต่คือจ่ายค่าห้องมาห้องสแตนดารด์ แล้วทางโรงแรมอัฟเกรดให้ ฟรีสองสเต็บ ตอนนี้กำลัง หาจุดบอดของโรงแรมสุดฤทธิ์)
ศ.อัมบริจน์: พี่ไม่ปลื้มเลย น้องรู้ไหม พี่อ่านคอมเม้น เกี่ยวกับโรงแรมน้องมีแต่เรื่องไม่ดี จนพี่แทบไม่กล้าจอง ชักลังเลแล้วอะคงไม่ขอเอ็กเทนสดีกว่า
(ขอโทษนะเจ๊ ไม่ทราบไปอยู่ไหนมา แน่นอนคอมเม้นแย่มันก็ต้องมี แต่รร.นี้ อันดับหนึ่งของทิปแอดไว้เสล่อ เลยนะเฟ้ย ยังมีรางวัลอีกเพียบ ถือว่าดีที่สุดแล้วอะทุกอย่างงะ)
ข้าน้อย: แล้วจากนี้จะให้ ข้าน้อยทำอย่างไรดีเพื่อให้คุณผู้หญิงมีความพึงพอใจคะ(อันนี้คิดในใจ) ถ้ายังไงมีอะไรให้ข้าน้อยช่วยเหลือเพิ่มเติมไหมคะ?
ศ.อัมบริจ: พี่อยากคุยกับผู้จัดการ ไปตามมาให้หน่อยได้ไหม พี่ไม่ยากพักห้องนี้ พี่รู้ว่าไม่ใช่ความผิดเรา แต่พี่อยากคุย ไม่อยากพักห้องนี้
ข้าน้อย: เอาอย่างงี้คะ ถ้าหากว่าไม่สะดวกที่จะพักห้องนี้เดะข้าน้อยหาห้องให้ใหม่นะคะ ขอเวลาสักครู่ ขอประสานงานกับแผนกคอนโทรลห้องพัก ว่าพอจะสลับบุ้คกิ้งหรือจัดหาห้องอื่นที่เล็กกว่านี้ให้ได้ไหม เด๋วจะไปบิสิเนสเซ็นเตอใช่ไหมคะ ได้คะเด๋วจะตามไปพบแล้วได้ย้ายห้องกัน .... แล้วพบกันนะคะ.
ประตูห้องปิดลง พร้อมกับคิดในใจว่า เอาไงวะ ห้องสแตนดารดก็เต็ม มีแขกกรุ้ป ววีวีไอพี ลง ถึงได้ต้องอัฟเกรดแขกเอฟไอทีมาห้องสวีท แล้วแม่คนนี้ก็สนทนา แบบ อย่างที่กะไว้เด้ะ นางว้อนซัมติง ขออย่าให้มีอะไรผิดพลาดเลย สาาาธุ
10นาที ให้หลัง หลังจากไปไคว้หาห้องมาให้แขกจนได้ บวกกับลดดาวนเกรดมาหนึ่งสเต็บ ....
ไปตามหาแขก โทรหาแขก ก็แล้ว ไปดักรอหย้าห้องก็แล้ว นางหายจร้า หายไปไหนไม่รู้ ไล่ล่าอยู่40นาทีจนหิวข้าว เลยฝากเรื่องไว้กับเพื่อนแล้วใส่ในซิสเท๋มว่า แม่ป้าคนนี้รอห้องอยู่ รอย้ายห้องนู่นนี่นั่น (แต่ไม่ได้บรรยายมากมายว่าแม่นี่เป็นแขกที่นิสัยไม่ดีไงเลยไมาได้เขียนไว้)
กลับจากเบรคเพื่อน ชายแท้แมนทั่งแท่งชาวอินโดแทบจะพุ่งมาบีบคอ พร้อมกับถามว่า
ยูครัช... ยัยเจ๊มหาภัยนี่มีปัญหาทางจิตรึเปล่า นางโวยวายว่าทำไมหน้าเค้าเตอไม่ทราบเรื่องของนาง(นี่พลาดที่บอกเพื่อนในทีมที่อยู่ใกล้เค้สเตอทางเช้ารร. คือเอาง่ายๆบอกไป3-4คนแต่ไม่ได้บอกพ่อเพื่อนซี้คนนี้ ...
ฮีเล่า ว่า ฮีพานางไปห้องใหม่ นางก็ยังบ่นว่าห้องกว้างไป นางไม่ชอบ มีกลิ่นบุหรี่หน่อยๆด้วย นางว่ามันไม่ใช่ (แต่ของทุกสิ่งอย่างขนมาให้หมดแล้ว) นางเลยหันมาถาม เพื่อนชาวอินโดของเราว่า มีห้องอื่นไหม ฉันเหม็นบุหรี่ งานก็เลยเข้าเพื่อนคนนี้ต่อ ฮีต้องไปหาห้อง มาสแปรอีกสองห้อง เพราะเพรเฟอเร้นนาง ไฮฟลอร นอนสโหมก น้อทฟารฟรอม อีเมอเจนซี่ดอร์ น้อททู่บิ้กรูม บวกกับนางจะออกไปประชุมกับบอส เพื่อนเราก้อไฟว้หาห้องมาจนได้ ...คือกลับไปห้อง สวี้ทสวีทอีกแล้ว กับห้องสวีทธรรมดา ที่รอให้นางกลับมาเลือก
ระหว่างนั้น ข้าน้อยก็ไปไฟว้จออมินิตี้ผลไม้จาก อีกทีมมาเซ็ทในห้องนางได้ในที่สุด ...จนกระทั่ง
เราเลิกงานแล้วนางไม่กลับมาเป็นเวลาหกโมงเย็นกว่าๆ พร้อมกับแอบดีใจที่... พรุ่งนี้หยุด ชาตินี้คงไม่เจอนางแล้ว...
แต่แล้วก็คิดผิด...
มีสายโทรเข้าจากเพื่อนรักชาวอินโดโทรเข้ามา แบบ อยากระบายสุดฤทธิ์
ในเวลาห้าทุ่มกว่าๆ ซึ่งเพิ่ง ...ดูหนังเสร็จบวกกะพยายามลืใเรื่องแม่นี่ให้ได้ไง ปรากฏว่า มันไม่ ใช่ เลย
เพื่อนไอ: เน่เทอรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน? ฉันกะลังจะกลับบ้าน อีกห้านาทีเลิกงาน(ต้องเลิกสี่ทุ่มอะ)ปรากฏว่า แม่ป้าพุ่งมาหาฉันพร้อมกับให้ฉันพาไปดูห้องใหม่ ผลสรุปคือนางไม่ชอบ โชว์ไปสวีทก็ไม่ชอบ จนมาจบที่ให้ซุปเปอไวเซอร์ แล้วจัดห้องสแตนดารดให้นาง ไป แต่มันไม่จบเท่านี้นะ หลังจากนางได้ห้องใหม่ แน่นอนแบบที่เธอรู้ ผู้หญิงคนนี้มีปัญหาทางจิต นางโวยวาย นางคร่ำครวญ...และที่เป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าเกิดขึ้นคือ
ของของนางในเซพห้องเก่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เอาออกไปขากห้องเพราะกลัวว่าของจะหาย เท่านั้นแหละนางร้องให้คร่ำครวญไซโคล ว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยเป็นอันตราย ...ไม่ใช่โรงแรมห้าดาว.....
คือเพื่อนก็ปลอบจน ไม่รู้จะปลอบยังไง
สุกท้ายเรื่องถึง ดิวตี้เมเนเจอร์ สอบสวนไปมาจน สุดท้าย แม่ป้าได้พักฟรี แถมได้ฟรีอีกคืน ต่างหาก .....
ฟังจากที่เพื่อนเล่าวีรกรรมนางคือแทบ อยากจะกรี้ด
ไม่สวย นิสัยก็ไม่ดี แถมใช้มารยา เล่ห์กล จนได้สิ่งที้ต้องการ คือ พักฟรีเฉยเลย...
นี่ถ้าอยู่ที่อื่น โดนอันเชิญออกไปจากโรงแรมแล้วไหม??
ขอบคุณที่ทำลายภาพลักษณ์ความน่ารักของ แขกชาวไทยย่อยยับในต่างแดนแบบไม่เหลือ เพราะคุณคือ ตย. แขกงี่เง่า ของแท้ มาตามคอนเซ็บเป้ะแบบที่ อยากจะถามไปก่อนเข้ามาพักละ ..ว่ามาพักที่นี่ คุณอยากได้ฟรีอะไรบ้างบอกมาดิ้???
ปล. หลอน อีกนาน ยิ่งตอนเจอเวอชั่นไทย สนทนาด้วย บอกเลย อยากกกก ยืนเคี้ยวปากกาแล้วเลือดกกปากให้แขกดู ว่า จะเอาอาไร๊อีก...ไหม?
ปล.2 ยังต้องดลับไปเจอนางอีกตอนเช็คเอ้า เวงกรรม !!
แต่ถึงอย่างไรด้วยใจรักงานบริการเราก็จะสู้ต่อไปด้วยกัน
--------------------------------------------------------------------------
ปล.หลังอ่านจบเฮียรู้นะคิดอะไรกันอยู่ เปิด google กันใหญ่ล่ะสิว่า ศาสตราจารย์ฮัมบรินท์เนี่ยหน้าตาเป็นยังไง 5555 เพราะกรูก็เพิ่งเปิดเหมือนกัน







วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เรื่องของแขก Early Check In




วันนี้เฮียจะมาเหลาเรื่อง ECI หรือ Early Check In
ซึ่งจากการสำรวจของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ พบว่า พนักงานโรงแรม 80% จะมีประสบการณ์ผ่านการโดนด่าจากกรณีนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่าครั้งหนึ่งในชีวิต เฉกเช่นเฮีย ณ ขณะนั้น
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนเฮียดำรงค์ตำแหน่ง G.S.A ตัวน้อย ๆ ซึ่งมาเข้างานเช้าและเป็นเช้าที่แสนทรมานมากเพราะเมื่อวานกูเข้ากะบ่ายเลิกห้าทุ่ม แต่ร้อยนึงเอาบาทเดียวห้าทุ่มเนี่ยแม่งไม่ได้กลับหรอก นู้นนนน กว่าจะนับ Float กว่าจะต่อรอบ กว่าจะตรวจ REG Card ปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่าจะลงไปล็อคเกอร์เปลี่ยนชุดตอกบัตรขับรถกลับบ้าน อาบน้ำเข้านอนปาเข้าไปตี 2 แล้วก็ตื่นตี 5 เตรียมตัวมาเข้างานเช้า 6 โมง
เคสนี้เวลาประมาณ 8 โมงเช้าเฮียก็พบแขกคู่หนึ่งซึ่งท่าทางน่าจะดั้นด้นมาจากแดนหมีขาวดี วิสกี้อร่อย เดินดุ่ม ๆ เข้ามาหน้าตาอิดโรยมากบอกว่า "Check In Please" โชคดีหว่ะเพราะนี่คือหมีขาวหนึ่งในล้านที่พูดอังกฤษได้ปกติมานี่จะ "เนี๊ยต กับ ดา" ก่อนเลย คือแว้บแรกที่เค้าบอกเช็คอินท์เฮียรู้เลยว่า "หมีงานเข้า หมีงานเข้า หมีงานเข้า หมี หมี งานเข้า" กูแล้วเพราะท่าทางเพลีย ๆ แบบนี้ แถมมาขอเช็คอินท์แบบนี้ ไม่ได้จอง ECI มาแบบนี้มันต้องโวยวายแน่ ๆ แต่ก็เก็บอารมณ์นะ สักพักเฮียก็ทำเอกสาร รับ Deposit ถ่าย Passport เสร็จเรียบร้อยก็อธิบายว่า "The room not ready yet and our check policy (จริง ๆ ก็ไม่ใช่แค่โรงแรมเฮียหรอกแต่คงทั่วโลกแหละที่แขกทั่วไปต้องเช็คอินท์บ่ายสองเป็นต้นไป ยกเว้น VIP) is 2 PM" เท่านั้นแหละครับ "ปังงงงง มันตบเคาน์เตอร์ลั่นสนั่นล็อบบี้แบบโมโหมากเลยแล้วก็พูดสวนมาว่าแปลได้ว่า "เธอจะบ้าหรือไงนี่มัน 8 AM เธอให้ Check in 2 PM ชั้นจะไปรอที่ไหน ชั้นเหนื่อยมากบินมาไกลชั้นต้องการนอน" อ้าวววว มาอีกแล้วแต่เช้าเลย นี่กูลืมไหว้ศาลป่ะว่ะ "ที่สุดของแจ้" อีกแล้วคือรอที่ไหนกูจะไปรู้มึงเหรอกูก็ทำตามหน้าที่ถ้าให้พี่ห้องนึงเดี๋ยวพี่ก็จะต้องไปบอกเพื่อนพี่ตามสไตล์แขกชาตินี้ที่ชอบบอกต่อ แล้วก็แห่กันมาเอาอีกแต่เฮียก็แนะนำนะว่า " you ฝากกระเป๋าไว้ที่สโตร์เบลได้นะแล้วก็ไปอาบน้ำที่ฟิตเนสก่อนก็ได้จากนั้นก็ไปนอนพักที่คาบาน่าสระน้ำรอเช็คอินท์ก็ได้" ซึ่งปกติแขกทั่วไปที่เข้าใจสถานะตัวเองเขาก็โอเคนะ แถมเฮียก็มีตัวเลือกที่สองให้พี่เค้าด้วยนะ "ได้ ถ้า you อยากได้ห้องเลย ชั้นให้ได้แต่ you ต้องจ่ายค่า Early Check In ชั้น 1,500 บาท (ADR ห้องที่เขาจองมาวันนั้นขายที่ 3,000 บาท เฮียก็ตาม Standard โรงแรมชาร์จ 50%)" พอพูดจบประโยคที่ไม่น่าถามมันก็ถามกลับมา "Why" เออ เอาดิ จะไวน์ขาว ไวน์แดง เฮียก็อธิบายเหมือนเดิมว่าทำไมต้องชาร์จและ Standard ทั่วไปเช็คอินท์ได้กี่โมงเพราะแม่บ้านต้องทำความสะอาดห้อง มันก็ยังไม่เข้าใจยังตะโกนโวยวายจะเอาห้อง ๆ เฮียก็ไม่ยอมและใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว นิ่งสนิทประมาณว่ากูเป็นใบ้ ไม่ให้ ไม่มี ไม่หนี ไม่บอก มันก็โวยวาย ๆ อยู่พักนึงแล้วหันไปหาเมียประมาณว่าไม่ได้แน่เลยไอ้นี่มันนิ่งเป็นเป่าสาก แล้วก็เลยยอมจ่ายค่า ECI มาเพื่อจะได้ขึ้นห้องพักไปก่อนจากทิ้งท้ายไว้ให้ประทับใจ "Your Hotel very bad service" เออ เอาเข้าไปโรงแรมกูผิดอีกและแต่ช่างเถอะกูโดนด่าประโยคนี้จนด้านและเพราะแม่งไม่เคยมองดูตัวเองเล้ย
ปล.โดยปกติแขกดี ๆ ที่เดินทางบ่อย ๆ เนี่ยเค้าจะรู้นะว่าเค้าจะมาไฟลท์ดึกหรือเช้าตรูบางคนเค้าจะยอมจองล่วงหน้าเลยวันนึงเพื่อให้แน่ใจว่ามาถึงขึ้นห้องพักนอนได้เลย หรือบางคนก็บอกเลยว่าชั้นยอมจ่าย ECI จะได้ขึ้นห้องเลยแต่บางคนก็จะเป็นแบบไอ้นี่แหละ กูอยากจะผูกคอตายใต้รถโทเล่์เบลจริง ๆ ..Check out เค้าต้องก่อนเที่ยงแล้วก็ทิ้งเวลาประมาณ 1 ชม.ให้แม่บ้านทำห้องเพื่อปล่อยให้แขก Check In ตามมาตรฐานเวลาทั่วโลกบ่ายสองโมง นี่คือใจคอจะไม่ให้แม่บ้านผมมีโอกาสทำห้องเลยหรือพี่..
ไม่รู้นะว่าเมืองนอกมาตรฐานเวลา Check in , Check Out, เหมือนไทยมั้ยแต่คิดว่าน่าจะเหมือนนะ




วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เรื่องนี้เฮียจะไม่ยุ่งงงงง




เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ได้รับ Request จากน้องรักท่านนึงที่ตอนนี้ได้ดิบได้ดีไปสิงอยู่ที่โรงแรมระดับ Luxury และก็ดีใจกะมันด้วย อยู่ดี ๆ ก็ไลน์มาบอก "เฮียมีคน Request เรื่องผีอ่ะ เฮียเล่าให้ฟังบ้างดิ" อ่ะเมื่อน้องขอมาเฮียจัดให้
ก่อนที่จะฟังเรื่องนี้เนี่ยทั้งแขกงี่เง่าที่ชมเพจนี้อยู่และพนักงานโรงแรมทุกชั้น วรรณะเพื่อเพิ่มบรรยากาศกรุณาปิดไฟทั้งบ้านเลยนะ แล้วเปิดเพลงแนวอึม ๆ ทึม ๆ เย็นยะเยือกขับกล่อมไปด้วยก็ดีนะเพื่อสร้างบรรยากาศ ส่วนถ้าแม่มาเจอแล้วถามว่า "มึงเป็นห่าอะไรปิดไฟทั้งบ้านเนี่ยก็บอกแม่ไปว่า ผมมันอินดี้แม่ไม่เข้าใจหรอก" หลังจากนั้นถ้ามีอะไรมากระทบหัวก็ตัวใครตัวมันนะถือว่าแม่ให้พร
เรื่องนี้เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่มตอนนั้นเฮียกินตำแหน่ง Night Manager อยู่เข้างานรอบดึกก็กำลังเข้ามาต่อรอบพอดี เฮียรับเช็คอินท์แขกคนหนึ่งที่มาเช็คอินท์ด้วยท่าทางอิดโรยเพื่อไฟลท์ดีเลยมา แม่งดีเลย์เป็นชั่วโมงแถมยังต้องนั่งรถจากสุวรรณภูมิมาพัทยาอีกสงส๊าน สงสารแกมาก มาถึงเฮียก็รีบทำทุกอย่างๆ เร็วที่สุดแล้วทีนี้ด้วยครั้งแรกเนี่ยตอนก่อนที่แขกจะมาเนี่ยเฮียเห็น booking ในระบบ Epi มันเหลือ Expect Arrival อยู่ 1 ห้องก็เลยขึ้นไปตรวจห้องก่อนที่แขกจะมาเช็คอินท์ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติของรอบดึกที่ต้องคอยสังเกตุพวกนี้ พอทำคีย์การ์ดขึ้นไปเสร็จพลันที่ลิฟท์เปิดประตูออกเนี่ยต้องบอกก่อนเลยว่าโรงแรมที่ทำงานอยู่นั้นเขาจะเข้าโหมด Energy Savine หลัง 3 ทุ่มเนี่ยเค้าจะหรี่ไฟเพื่อประหยัดพลักงานและปิดเพลงที่เปิดบนฟลอร์ เฮียเดินออกมาจากลิฟท์บรรยากาศเนี่ยรู้สึกว่ามันเงียบๆ มีแสงสลัว ๆ ออกแนวถ่ายหนังเรื่องพี่มาร์คพระประแดงได้เลย ก้าวย่างที่ค่อย ๆ เดินไปถึงห้องเนี่ยนึกสภาพว่าด้วยความที่มันเงียบแสงไฟริบหรี่สลัวๆ ไม่มีแม้แต่เสียงแขกที่คุยกันในห้องเล็ดลอดออกมาเหมือนช่วงวันหยุด Long weekend ที่แขกเยอะ ความรู้สึกมันเหมือนเฮียเดินอยู่ในโรงแรมคนเดียวแต่เหมือนมีคนมองอยู่จากด้านหลังจริงๆ นะ จนกระทั่งมาหยุดที่หน้าห้องก็เอาคีย์การ์เปิดเข้าไป พอเปิดห้องไปปุ๊บซีนแรกเจอเลยครับประตูระเบียงมันเปิดค้างอยู่แถมมีลมทะเลพัดเข้ามาเอื่อย ๆ กระทบผิวจนเย็นยะเยือกแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ใจก็ยังแอบโมโหแม่บ้านนิดนึงว่าทำไมทำห้องแล้วไม่ปิดประตู แล้วก็โทรศัพท์ลงไปที่ห้องแม่บ้าน "น้อง ทำห้องเตรียมอินท์ลืมปิดประตูระเบียบหรือเปล่าเนี่ยเฮียขึ้นมา Inspection ประตูยังเปิดอยู่เลย" ปลายสายมันตอบมาว่าไงรู้มั้ยครับ "เฮีย ผมปิดเรียบร้อยแล้วนะครับหมดทุกอันเลยผมเนี่ยแหละปิดกับมือเลยเฮีย แล้วมันจะเปิดได้ไงเฮีย ช่างเค้าเข้าไปซ่อมอะไรหรือเปล่าเฮียลองถามเค้าก่อนมั้ย แต่ Record ขึ้นไปซ่อมห้องของผมไม่มีนะเฮีย" จริง ๆ ตอนนั้นก็ยังเออ ออ กับมันนะว่าช่างอาจเข้ามาซ่อมอะไรวะเพราะห้องมันก็ไม่ได้มีแจ้งเสียอะไรถ้าเสียเค้าก็คง Assign ห้องอื่นตั้งแต่แรกแล้วเพื่อความแน่ใจก็เช็คไปที่ ช่าง ว่ามี Daily Log แจ้งซ่อมอะไรห้องนี้มั้ยเพราะปกติถ้าช่างจะซ่อมต้องแจ้งเอากุญแจที่ Front อยู่แล้วถ้าไม่ไปพร้อมแม่บ้าน พอเช็คไปก็ได้คำตอบเหมือนแม่บ้าน "ไม่มีนะเฮีย ผมไม่มีขึ้นซ่อนอะไรเลยนะห้องมันปกตินะเฮีย" ฝั่งช่างก็ไม่มีแจ้งอะไรเลย ความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้กลัวอะไรแต่สงสัยมากกว่าเพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้แล้วอีกอย่างการปิดประตูระเบียงเนี่ยให้รีบเร่งแค่ไหนหรือแม่บ้านมือใหม่แค่ไหนมันไม่ใช่อะไรที่น่าจะพลาดกันได้ แต่เฮียก็ยังไม่ได้สนใจอะไรนะ จนกระทั่ง Inspection เสร็จแล้วและกำลังเดินออกมาจะปิดประตูห้องยังไม่ทันจะหยิบคีย์การ์ดออกไฟในห้อง แอร์ ทีวี ดับพรึบพร้อมกันหมด เออ เยี่ยมคือด้วยความที่เฮียเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้เท่าไหร่ก็เลยนึกหงุดหงิดว่า "ห้องแม่งมีปัญหาอีกแล้วแขกจะมาแล้วเนี่ย" แต่เพื่อความมั่นใจก็เช็คอีกครั้งโดยการเอาคีย์ออกตอนที่มันยังมืด ๆ อยู่เนี่ยแหละแล้วก็เสียบใหม่...พรึบ!!! ไฟติดปกติ ทีวี แอร์ทำงาน ประมาณ 10 นาทีก็ลองเอาคีย์การ์ดออกไฟก็ดับปกติ ทำอยู่ประมาณสองรอบเพื่อให้แน่ใจว่าระบบไฟปกติดีจากนั้นก็กลับไป
ตัดกลับมาที่แขกที่เช็คอินท์เสร็จแล้วแกก็ขึ้นห้องไปพร้อมกับเบลที่เอากระเป๋าไปส่งให้แก แล้วเฮียก็ทำงานปกติไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเวลา 24.00 น.หรือเที่ยงคืน แขกคนเดิมเดินลงมาด้วยสภาพกางเกง Boxer เสื้อไม่ใส่และกระเป๋าเดินทางพร้อมสีหน้าที่ตกใจมากมาถึงก็ถามหา Manager เสียงดังลั่นเฮียก็รีบออกหน้ามารับทันที แกก็คุยกับผมแบบตกใจมากว่า "You หาห้องใหม่ให้ฉันหน่อยได้มั้ย ฉันขอร้อง ฉันนอนไม่ได้เลย ทำไม you ให้ห้องนี้กับฉัน (จริง ๆ ห้องนี้เป็นห้องที่ดีที่สุดที่มีตอนนั้นแถมเป็น FOC Upgarde ให้แกด้วยนะ" ผมก็บอกแกให้ใจเย็น ๆ มีปัญหาอะไรในห้องหรือเปล่าให้ช่างขึ้นไปดูไปแก้ไขให้มั้ย แกส่ายหน้าโบกมือไม่ ๆ ตลอดเวลา แกพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ ครับเหมือนตกใจว่า "ตอนแรกชั้นขึ้นไป ชั้นอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็นอนสักพัก ฝักบัวในห้องน้ำมันก็เปิดไหลเอง ชั้นนึกว่าชั้นลืมปิดชั้นเลยลุกขึ้นไปในห้องในแต่ในขณะที่ชั้นกำลังเดินเข้าไปในห้องน้ำฝักบัวมันก็หยุดใหล ชั้นนึกว่ามันเป็นปัญหาเรื่องท่อน้ำเลยไม่ได้เอะใจอะไรก็มานอน" เล่าถึงตอนนี้เหมือนแกยังตกใจอยู่แต่ไม่เท่าตอนแรกผมก็ชวนแกไปนั่งคุยที่โซฟาหน้า Lobby เพื่อให้แกผ่อนคลายจากนั้นแกก็เล่าต่อว่าแกนอนไปได้สัก 10 นาที คราวนี้ทีวีเปิดเอง แกก็งัวเงีย ๆ ว่าแกนอนทับรีโมทหรือเปล่าแต่พอหาไปหามามันไม่ใช่เพราะรีโมท์อยู่โต๊ะหน้าทีวีไม่ได้อยู่ที่เตียงคราวนี้แกเริ่มรู้สึกกลัวเลยเก็บของลงมาขอย้ายห้อง"
ผมไม่รอช้าเลยครับหาห้องใหม่ให้แขกโดยด่วนและเลือกห้องที่อยู่คนละตึกคนละโซนกับห้องเมื่อกี้เพื่อให้แกสบายใจพร้อมบอกแกว่าถ้ามีอะไร You โทรลงมาหาชั้นได้ตลอดเวลานะ พอเสร็จผมก็ให้ Bell เอาของแกขึ้นไปเก็บที่ห้องใหม่ก่อนแล้วก็แจ้งแม่บ้านไปเช็คห้องเก่าว่ามีอะไรหลงเหลืออยู่ไม่แล้วให้ Touch up ห้องกลับสูง OC เหมือนเดิม ก่อนแกขึ้นไปผมก็ชวนแกคุยหน้าล็อบบี้ก่อนประมาณ 15 นาทีให้แกผ่อนคลายจนแกขึ้นไปนอนบนห้องและก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก ส่วนห้องนั้นก็รู้กันในหมู่รอบดึกวันนั้นและพนักงานว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งผมก็ได้แจ้งฝ่ายบริหารไปให้ทำตามขั้นตอนต่อไป
....................................................................................................
ทีนี้ ใครมีเรื่องอื่นเล่าก็จัดมานะแต่ห้ามเอ่ยชื่อโรงแรมนะแบ่งปันเพื่อน ๆ เท่าที่เพื่อนเฮียเคยเล่าให้ฟังก็มีโรงแรมที่เจอสึนามิแล้วพนักงานครัวออกมาไม่ทันเสียชีวิตทั้งหมด รอบดึกบางวันจะได้ยินเสียงกระทะ หม้อ ชามกระทบกันเหมือนกำลังทำงานอยู่ก็หลอนกันไป บอกแล้วทำงานโรงแรมแม่งได้ทุกอย่างกับชีวิต 555
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=14893





วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เรื่องของการแลกเงิน



เฮียเคยโดนด่าเรื่องแลกเงินนะ ก็เลยอยากชี้แจงดังนี้นะเพื่อเป็นวิทยาทานให้น้องใหม่และแฟนเพจเฮียทุกท่าน ซึ่งพวกชั่วโมงบินสูง ๆ เฮียก็ไม่ค่อยห่วงอ่ะนะเพราะคงโดนกันมาเยอะแล้ว แต่พวกน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการนี่อดห่วงไม่ได้ก็เลยเอามาเตือน ๆ กันยิ่งช่วงนี้ รัฐบาลเรามีแผนผลักดันการท่องเที่ยวให้ได้ 2.8 ล้านล้าน บาทปีหน้า ก็จะได้เตรียมรับมือหน่อยนะ
แขกหลายท่านโดยเฉพาะต่างชาติจะชอบมายืนด่าพนักงานโรงแรมและอ้างอิงแหล่งที่มาปานว่าเป็นวิกิพีเดียกลับชาติมาเกิดหรือนึกว่าตัวเองเป็น ธนาคารโลก "ทำไมโรงแรมเธอให้เรตถูกจัง ชั้นแลกข้างนอกได้เยอะกว่านี้อีก เอาเปรียบกันนี่" ทุกครั้งที่โดนเฮียก็จะอธิบายนะว่า "คือที่เรต โรงแรมมันถูกเนี่ยเป็นเพราะว่าโรงแรมต้องป้องกันความเสี่ยง เนื่องจากเราไม่ใช่ธนาคารที่แลกทีละเยอะ ๆ ปิดวันก็เอาเงินต่างประเทศไปแลกคืนที่แบงก์ชาติได้เลย แต่ของโรงแรมมันต้องรวมเป็นก้อน ๆ แล้วค่อยไปแลกที่ธนาคาร" บางคนเข้าใจก็ไม่มีปัญหาไปแลกธนาคารข้างนอกหรือบูธรับแลกเงินเองก็ได้ ที่ต้องอธิบายแบบนี้เพราะคงไม่มีใครบ้าที่จะเอาเงินซึ่งบางวันมีแลกแค่ 5 เหรียญ 100 เหรียญวิ่งไปแลกที่ธนาคารแน่นอนเขาต้องรวมกันไปทีละเยอะๆ ทีนี้ช่วงที่รวมมันก็ต้องแล้วแต่นโยบายทางบัญชีว่าเท่าไหร่ถึงเอาไปแลก แล้วเกิดช่วงรอที่จะเอาไปแลกเรตมันเกิดตกขึ้นมาหรือเกิดวิกฤติค่าเงินและโรงแรมมีงเงินที่รอแลกคืนสัก 10,000 เหรียญ อ่ะ ไม่ต้องถึงหมื่นก็ได้สัก 5,000 เหรียญก็ได้คิดดูจาก 33 บาทแล้วลดไปเหลือ 30 บาทนี่นรกเลยนะ ขาดทุนป่นปี้ทีนี้มันก็มีสองทางคือยังไม่แลกกับยอมขาดทุนแลกแม่งเลย ซึ่งคงไม่มีผู้บริหารโรงแรมคนไหนใครเลือกวิธีหลังเป็นแน่แท้ มันก็ต้องดองกันไปจนกว่าค่าเงินจะขึ้นมากกว่าหรือเลวร้ายสุดก็เท่ากับเรตที่รับแลกทีนี้กระแสเงินสดหรือที่ภาษาธุรกิจเรียกว่า Cash Flow (กระแดะนิดนึง) มันก็ขาด เพราะจะเอาเงินดอล์ เงินยูโร เงินเย็น ไปซื้อของกับซัพพลายเออร์พวกอาหารเครื่องดื่ม ค่าซักรีดน้ำยาก อุปกรณ์สำนักงานต่างๆ คาดว่าเขาคงจะอยากรับอ่ะนะเพราะรับไปก็ภาระเค้าความเสี่ยงเค้าอีก ดีไม่ดีเขาเอาขวด ถ้วย ถัง กะละมัง หม้อไล่ ขว้างมาอีก
ก็เอาเป็นว่าถ้าโดนก็บอกแขกเค้าไปละกันนะอธิบายดี ๆ และก็ช่วยอำนวยความสะดวกเค้าไปแลกที่แบงก์หรือร้านแลกเงินจะดีกว่าต่อทั้งแขกที่ได้ราคาแลกเปลี่ยดีและดีทั้งกับโรงแรมเราที่ไม่มีความเสี่ยงด้วย
ปล. อ่านข่าวเห็นท่านนายกสมาคมโรงแรมไทยของเราประกาศเอาจริงปราบโรงแรมเถื่อนโดยร่วมกับกระทรวงมหาดไทยที่ไม่มีใบอนุญาติไม่เสียภาษีแล้วก็นึกดีใจนะ (ถ้าทำได้) เพราะทุกวันนี้เหมือนใครอยากจะเปิดก็เปิดทั้งหอพัก คอนโด โดยเฉพาะแถวพัทยาบ้านเฮียเนี่ยทำกันอย่างกับนิคมฯ จนตอนนี้นิติบุคคลเค้าไม่ไหวร้องเรียนไปกระทรวงมหาดไทยกันเยอะเพราะมันเป็นการรบกวนและริดรอนสิทธิเจ้าของร่วมในคอนโด และยังทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมจริง ๆ ที่ทำถูกต้องตามกฏหมายทุกอย่างได้รับผลกระทบกันไปหมดเพราะต้นทุนสูงอยู่แล้วมาเจอตัดราคาแข่งอีก.


บทความแนะนำ