วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2558

เสื้อข้าใครอย่าแตะ



วันนี้เฮียจะเขียนเรื่องเสื้อข้าใครอย่าแตะ

เรื่องมันมีอยู่ว่าในขณะที่เฮียเป็น Duty Manager มีหญิงสาวคนหนึ่งเขา Complain กับน้อง G.S.A ว่าเสื้อเขาที่ส่งซักมันขาด ทีนี้พนักงานก็มาบอกเฮียๆ ก็เลยไปอันเชิญเขามาทานอาหารที่ห้องอาหารก่อนให้ใจเย็น จากนั้นก็ลงไปหา Housekeeping Manager หรือคุณแม่บ้านที่รัก แล้วก็เล่าเรื่องให้ฟังพร้อมขอรายละเอียดแบบจัดเต็มครบถ้วน Message ที่ได้มาจากคุณแม่บ้านคือตอนที่ส่งซักเสื้อเขาปกติ และตอนที่ซักเสร็จ ทางแผนก Laundry พับเสื้อผ้าเพื่อเตรียมจะไปส่งที่ห้องสภาพก็ปกติดีทุกอย่าง (ตอนที่คุยกับคุณแม่พี่ Laundry ก็ยืนคุยและช่วยอธิบายอยู่ด้วย) พอเฮียได้ Information แล้วก็ขึ้นมาที่ Lobby แล้วก็เดินไปหาแขก (บอกตรง ๆ ตอนนั้นรู้เลยว่าต้องโดนแขกด่าแน่ๆ แม้กูจะไหว้ศาลหน้าโรงแรมก่อนเข้างานมาแล้ว เพราะทุกอย่างเป็นคำพูดปากเปล่าซึ่งแขกก็ต้องว่าพนักงานช่วยเหลือกันเอง ส่วนพนักงานก็ต้องบอกว่าแขกโกหก แล้วกูเป็นคนกลางนี่จะเอายังไงไวะอยากจะกินพาราสักสามแผง

เฮียเดินทางมาถึงห้องอาหารแล้วก็ตรงดิ่งไปหาแขกซึ่งเตรียมใจไว้แล้วว่า "กูโดนด่าแน่ๆ" ไปถึงเฮียก็อธิบายรายละเอียดทุกอย่างแบบละเอียดยิบยิ่งกว่าหมูบะช่อสับละเอียดอีก เอาทุกขั้นตอนตั้งแต่การทำงานของแผนก LD ที่เมื่อได้ผ้ามาก่อนต้องเช็คก่อนที่สำคัญถ้าเราเจอเสื้อผ้าแขกเสียหายทางโรงแรมจะไม่ซักอยู่แล้วเพราะต้องรอแจ้งให้แขกทราบก่อนเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ และเฮียก็คิดว่าพนักงานไม่น่าฆ่าตัวตายด้วยการหลับหูหลับตาซักเสื้อที่ขาดให้แขกหาเรื่องมาด่าเล่นแน่นอน เมื่อเฮียอธิบายเสร็จเจ้แกก็ตบโต๊ะ เปรี้ยง!!!! แล้วก็จัดมาดอกแรก "ชั้นว่าแล้วมันต้องเป็นแบบนี้ โรงแรมแย่ๆ พนักงานแย่ๆ ไม่คิดจะรับผิดชอบ ทำเสื้อชั้นขาดแล้วจะไม่รับผิดชอบเหรอ เธอเป็นพนักงานเธอต้องช่วยเหลือกันเองอยู่แล้ว"

หึหึหึ หมีงานเข้า หมีงานเข้า หมีงานเข้า หมี หมี งานเข้า เอาไงดีวะกู ไปไม่ถูกยิ่งกว่าเลือก The Voice ว่าจะอยู่กับโค้ชอะไรดีแบบนั้นเลยทีเดียว เฮียก็พยายามอธิบายแต่เจ้เค้าก็ไม่ฟังจะเอาค่าชดเชยอย่างเดียวจนเฮียเริ่มส่งสัยและเฮียเริ่มใช้แผนสองเพื่อลองดูอาการก่อน (ตอนนี้จากพนักงานโรแรมกูต้องมาเป็นนักจิตวิทยาและ) เฮียก็อธิบายไปแบบเดิมและย้ำอีกว่าเราจะไม่ซักถ้าเราพบผ้าเสียหายตั้งแต่แรกและเรามีการเช็คเสื้อผ้าก่อนซักอยู่แล้ว แต่เจ้เค้าก็ไม่ยอมแล้วก็โผล่ไต๋ออกมาว่า "เสื้อตัวนี้ราคา 8,000 บาท โรงแรมต้องชดใช้ให้ไม่อย่างนั้นชั้นจะแจ้งตำรวจ"

เอาแล้วไงทีนี้เจตนารมณ์ที่แท้จริงเปิดเผยออกมาแบบ Grand Opening แล้ว เฮียเลยบอกไปว่า "ตามกฏแล้วโรงแรมจะรับผิดชอบแค่ 30% ของราคาทรัพย์สินนะครับเราไม่รับผิดชอบ 100%" พอเจ้แกได้ยินก็ไม่พอใจแต่ก็ยังถามมาว่า "แล้วมันเท่าไหร่ที่จะรับผิดชอบ" หึหึหึ เปิดมาอีกแล้วว่าเจ้แกอยากได้อะไร "ทั้งหมดที่รับผิดชอบก็ 2,400 บาทครับ ถ้าจะให้รับผิดชอบทั้งหมดคงไม่ได้ครับเพราะเราก็มีหลักฐานและวิธีการปฏิบัติยืนยันอยู่แล้วว่าเราไม่มีทางซักเสื้อผ้าที่เสียหายแน่นอน เราจะแจ้งแขกตั้งแต่แรกก่อนซักแล้วถ้าเจอเสื้อผ้าที่เสียหาย" ตอนนี้เจ้แกเริ่มอ่อนลงแต่ก็ยังทำท่าไม่พอจะสุดท้ายจบลงที่เจ้แกยอมรับเงิน 2,400 บาท ที่ผมก็ไม่ได้อยากให้แต่เพราะมันก็ไม่ได้มีอะไรมารับรองเป็นลายลักษณ์อักษรว่าก่อนซักเสื้อแขกเสียหายมาก่อนหรือไม่หรืออย่างไร อีกอย่างมันก็เป็นไปได้ที่พนักงานจะเจอเสื้อเสียแล้วซักไปเลยซึ่งเป็นการผิดพลาดในงาน (แต่อันนี้โดยหลักแล้วมันไม่น่าจะเกิดขึ้น) พูดตามความเป็นจริงถ้าจะต้องให้ทำถึงขนาดถ่ายรูปเสื้อทุกตัวก่อนส่งซักไว้เป็นหลักฐานมันก็คงไม่ใช่ แต่ถ้าจะให้โรงแรมรับผิดชอบค่าเสื้อผ้า 100% ก็คงไม่ได้เช่นกัน ก็คงจบลงที่คนละครึ่งทาง

รับเสื้อผ้าแขกซักก็ระวังๆ กันไว้บ้างนะ

บทความแนะนำ