วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อยู่แผนกไหนดี




เมื่อพูดถึงโรงแรม ก็จะประกอบไปด้วยหน่วยงานหลัก 2 หน่วยงานคือ ส่วนงาน  Operation และส่วนงาน Back Office หรือที่คนโรงแรมชอบเรียกกันว่า "หน้าบ้าน" กับ "หลังบ้าน" ส่วนของงาน Operation ก็จะประกอบไปด้วยแผนกหลัก ๆ ดังนี้คือ

1. Front Office หรือแผนกต้อนรับ หัวใจหลักของโรงแรม เพราะไม่ว่าแขกจะมีปัญหาอะไร น้ำไม่ไหล ไฟดับ ปวดหัว ตัวร้อนเป็นไข้ ขี้ไม่ออก บอกไม่ถูก สิ่งแรกที่แขกจะทำคือกดโทรศัพท์ในห้องพักเบอร์ "0" ลงมาที่หน้า ฟร้อนท์ ครับ แล้วแกก็จะพรรณาบรรยายปัญหาใด ๆ ต่าง ๆ นา ๆ ทั้ง ๆ ที่บางทีมันไม่ได้เกี่ยวกับโรงแรมกูเล้ย หรือกูไม่ได้อยากจะรู้สักหน่อยมึงก็ยังมาบอกกูได้ เช่น พาผู้หญิงมานอนไม่จ่ายเงินเขาแล้วผู้หญิงไม่ออกจากห้องจะทำไงดี หรือไม่ก็ ทำไมประเทศเธอวุ่นวายจัง (อยากบอกเหมือนกัน กูไม่ใช่นายกโว้ย) แผนกนี้ค่อนข้างที่จะต้องรบราฆ่าฟันกับแผนกอื่นบ่อย ๆ เนื่องจากบางทีแขกขออะไรที่ต้องประสานงานกับแผนกอื่น เช่น น้ำไม่ไหล ไฟดับ ก็ต้องแจ้งช่าง แล้วช่วงที่แจ้งนี่แหละครับ เพราะแผนกอื่นนั้นไม่ได้โดนแขกยืนจ้องหน้าอยู่เหมือนแผนกนี้ เขาก็จะทำไปตามระบบระเบียบหรืออารมณ์ของเขา ปานว่ากูอยากไปซ่อมให้ก็ไป ไม่อยากไปก็รอก่อน วันดีคืนดีก็บอกกันจนทะเลาะกันซะงั้น แผนกอื่น ๆ จะชอบมองว่าพนักงาน ฟร้อนท์ นั้น สวย เริด เชิด หยิ่ง ไฮโซ ดูดีมีสถุนรุนชาติ ทั้งที่จริงแล้วหารู้ไม่ว่าเบื้องหลังมาก็ บ้า ๆ บอ ๆ เหมือนแผนกอื่นและว้า ใครที่ได้ทำงานแผนกนี้จะได้เป็นที่เชิดหน้าชูตาของวงศ์ตระกูลเป็นอย่างแรงยิ่งได้แฝงตัวอยู่ในโรงแรมใหญ่ ๆ แล้ว อื้อหือ โคตรไฮโซเลยทีเดียว แต่ครับแต่ ก่อนคุณจะตัดสินใจเลือกแผนกนี้ต้องบอกไว้ก่อนว่า คุณต้องพร้อมเสมอที่จะโดนด่าและเป็นผู้ผิดได้ ไม่เว้นแม้แต่กรณีที่ก็รู้ทั้งรู้อยู่ว่าคุณนั่นแหละเป็นคนที่ถูกต้อง เช่น แขกมาขอห้องที่อยู่ชั้นสูง ๆ แต่ห้องมันเต็ม ทั้ง ๆ ที่ตอนที่แขกขอมาก็แจ้งแล้วว่าแค่เป็น On Request ไม่ได้ Confirm ว่าจะได้ แต่สรุปมันก็ต้องถูกเพียงเพราะมันเป็นแขก ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ยาก ดี มี จน ถ้าอยากเป็นผู้ถูกเสมอแค่คุณเข้ามาพักในโรงแรมคุณได้สิทธนั้นเดี๋ยวนี้คร้าบ

2. Food and Beverage Department หรือแผนกอาหารและเครื่องดื่ม ชื่อก็บอกอยู่แล้วน๊ะครับว่าอาหารและเครื่องดื่ม ต้องคอยจัดหาอาหารการกิน เครื่องดื่มต่าง ๆ ในโรงแรมงานก็จะหนักหน่อยก็ช่วงแขกลงมาทานอาหารเช้า ต้องคอยเก็บจาน เติมน้ำ ชา กาแฟ เช็ดโต๊ะ เก็บจาน ดีไม่ดีมีเก็บอ้วกอีก และหากเจอแขกจากชมพูดทวีปแล้วล่ะก็ จะต้องสวมวิญญาณ โหด เข้าไปด้วย เพราะพวกนี้ชอบแอบขโมยขนมปังหรือโยเกิร์ตขึ้นไปกินบนห้อง ต้องคอยดุ คอยเตือน บางทีก็เอามือหยิบอาหารในไลน์ บุฟเฟต์เลยก็มี ทีนี้แขกคนอื่นก็ด่าเราซิครับ ว่าปล่อยให้ทำได้อย่างไร อันนั้นก็ซวยไป และที่หนักอีกอย่างหนึ่งก็คือตามโรงแรมที่มีบุฟเฟต์อาหารเย็น เพราะต้องคอยเปลี่ยนชุดจานจาก ออร์เดิร์ฟ มาเป็น เมนคอร์ส มาเป็นของหวาน กว่าจะเสร็จก็ปาไปเที่ยงคืน ยังไม่รวมพวกที่ต้องมีสั่งไวน์ ของประเทศนู้น ประเทศนี้ ประเทศนั้น ปีนู้น ปีนี้ ปีนั้น อะไรอีก หากจะทำงานแผนกนี้ก็ถือว่าต้องเรียนรู้เรื่องพวกนี้ไว้ด้วยก็ดี เป็นการเพิ่มทักษะความสามารถให้ตัวเองแต่ก็สนุกครับ แขกด่าก็มีบ้าง ส่วนใหญ่ก็ด่าเพราะรสชาติอาหารหรือไม่ก็อาหารช้าแค่นั้นแหละครับ  แต่ที่กวน ต. ประเภท ด่าเพราะอยากกินฟรีก็มี อันนั้นก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละโรงแรมกันไป

3. Housekeeping Department แผนกที่ต้องฟาดฟันกับหน้าฟร้อนท์มากที่สุด แต่ก็เป็นแผนกที่ได้ทิปมากที่สุดเช่นกัน คือเวลาแขกที่เข้าพักเขาต้องการจะทำห้อง เขาก็จะวางเงินไว้บนหัวเตียงเป็นน้ำใจ หรือเวลาแขกเช็คเอาท์ เขาก็จะวางเงินไว้ให้แม่บ้านบนหัวเตียงเช่นกัน เป็นน้ำใจ แต่ก็มีบางครั้งที่เกิดเหตุการณ์เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ประเภทหน้าฟร้อนท์แจ้งห้องที่เช็คเอาท์ให้แม่บ้านไปเช็คความเรียบร้อย แต่มีแม่บ้านอีกคนหนึ่งได้ยินก่อนเลยตัดหน้าไปก่อน หยิบเงินก่อนแล้วหายจากไป อันนี้ก็มีน๊ะครับระวัง แผนกนี้หน้าที่หลักก็คือรักษาความสะอาดภายในห้องพักแขกและโรงแรม รวมถึงพื้นที่รอบ ๆ โรงแรมครับแผนกนี้จะเหนื่อยกับงานมากกว่าเหนื่อยกับการทะเลาะกับแขก เพราะส่วนใหญ่แขกจะไม่ค่อยต่อว่ากับแม่บ้านโดยตรงแต่จะฝากฟร้อนท์ไปมากกว่า และนั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้ 2 แผนกนี้ค่อนข้างที่จะเดือดกันได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับหัวหน้าฟร้อนท์กับหัวหน้าแม่บ้านว่าจะสมานฉันท์กันแค่ไหน ถ้าคิดจะอยู่แผนกนี้แนะนำให้ทดลองทำความสะอาดบ้านตัวเองวันละ 10 รอบให้ได้ก่อน เพราะหากคุณอยู่แผนกนี้เวลาที่โรงแรมอยู่ในช่วย ไฮ ซีซั่น จะต้องเจอเหตุการณ์ เช็คอินท์ เช็คเอาท์สวนกัน คือแขกเก่าเช็คเอาท์ไปต้องรีบทำห้องให้แขกใหม่ที่กำลังรออยู่ให้เร็วที่สุด แล้วยิ่งบางโรงแรมที่เป็ฯ 5 ดาวรายละเอียดเยอะ ๆ เช่น หมอนบนเตียง 4 ใบ หมอนนั่นเล่นอีก 4 ใบ ผ้าคาดเตียง ของใช้ในห้องน้ำ ผลไม้ โอ้โหย ทีนี้แหละครับซึ้งเลยว่านรกมีจริง แต่ถ้าโรงแรม 3-4 ดาว รายละเอียดน้อยหน่อยก็สบายหน่อย

4. Engineering Department หรือแผนกช่าง ค่อนข้างจะลอยตัวครับแผนกนี้ แต่คุณต้องมีความรู้ด้านเทคนิคเยอะ ๆ แผนกช่างนี่เค้าก็จะแบ่งสายกัน มีช่างไฟฟ้า ช่างสี ช่างประปา ช่างแอร์ ถ้าโรงแรมใหญ่หน่อย ช่างเฉพาะด้านเขาจะมีกันประมาณ 2 คนขึ้นไป คอยสลับกัน ฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องแก้ปัญหาเพราะสามารถทำได้ 24 ชั่วโมง แต่ถ้าโรงแรมเล็ก ๆ เกิดมีปัญหาเฉพาะด้านขึ้นช่วงนอกเวลาทำงาน เช่น ท่อประปาแตกตอน ตี 2 ก็อาจจะต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนแล้วก็ต้องรอช่างประปามาตอนเช้า อะไรอย่างนี้แหละครับ แผนกนี้เหนื่อยแรงครับ ไม่ค่อยถูกแขกด่ามากมายอะไร อาจเป็นเพราะแขกกลัวที่เป็นผู้ชายด้วยมั้งครับ แต่ก็ค่อนข้างที่จะต้องระวังตัวเกี่ยวกับอุบัติเหตุในการทำงานเหมือนกันน๊ะครับ อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อีกอย่างเวลาที่โรงแรมมีแผนจะ ปรับปรุงภาพลักษณ์โรงแรม เช่นทาสีใหม่ เปลี่ยนระบบน้ำ ระบบไฟ ใหม่ ก็ทำใจได้เลยครับ เหนื่อยมากถึงมากที่สุด

5. Kitchen แผนกครัวครับ เป็นแผนกที่คิดว่าน่าจะมีความสุขที่สุดน๊ะครับ เพราะวัน ๆ เจอแต่อาหารการกินสีสันสวยงาม ว่าง ๆ ก็แอบกินขนมได้ตลอดเวลา แถมมีความสุขกับการปรุงและตกแต่งอาหารในแต่ละมื้อ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะราบรื่นเลยซะทีเดียวครับ เพราะแขกประเภทมาแล้วจะกินอาหารตามเมนูแต่ไม่เอานู้น ไม่เอานี่ ไม่เอานั่น เรื่องมากนี่ก็เยอะ บางทีไปกินอาหารข้างนอกมาแล้วท้องเสีย ดันมาว่าอาหารโรงแรมว่าไม่สะอาดทำให้เขาท้องเสีย อันนี้ก็มีครับ แต่แนะนำครับสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร




ต่อไปจะพูดถึงส่วนงานของ Back Office น๊ะครับ ซึ่งถือเป็นไม้เบื่อไม้เมากับส่วนงาน Operation เป็นอย่างมาก เนื่องจากเขาจะทำงานตามเอกสารทุกกระเบียดนิ้ว แต่งาน Operation นั้นจะตามเอกสารเป๊ะไม่ได้เนื่องจากเป็นงานที่ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของแขกเป็นหลักทุกอย่างต้องยืดหยุ่นได้ ในหลาย ๆ ครั้งหลาย ๆ กรณี ต้องตัดสินกันถึงขั้นดูกล้องวงจรปิดกันเลยทีเดียว

1. Accounting Department คู่ปรับอันดับ 1 ของแผนกฟร้อนท์ แผนกอาหารและเครื่องดื่ม และอาจมีแผนกแม่บ้านบ้างเล็กน้อย เนื่องจากงานของทั้ง ฟร้อนท์และแผนกอาหารและเครื่องดื่มนั้นต้องมีส่วนของ แคชเชียร์เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง บางทีมีเงินขาดก็ผิด มีเงินเกินมาก็ผิด บัญชีเขาก็จะต้องมาตามสอบสวนตรวจสอบรื้อหาเอกสารกัน บางทีต้องรื้อย้อนหลังเป็นเดือน ๆ ถ้าสถานการณ์ปกติก็ไม่เท่าไหร่ แต่ก็มีบางช่วงที่แขกเยอะมาก ๆ งานก็ยุ่งแล้วยังต้องมานั่งรื้อเอกสารเก่า ๆ อีกก็มี การแก้ไขใบเสร็จอะไรแต่ละทีก็ต้องมีเหตุผลมีเอกสารประกอบครบทุกกระเบียดนิ้ว ทั้ง ๆ ที่บางทีแขกกวน ๆ ประเภทซื้อแล้วโพสบิลแล้วทอนเงินแล้ว เปลี่ยนใจไม่เอา จนทำให้ต้องแก้ไขใบเสร็จพวกนี้ก็มี ซึ่งก็ต้องทำเป็นรายงานกันไป ใครชอบตรวจสอบชอบตัวเลขก็แนะนำแผนกนี้ครับ ข้อดีคือไม่ต้องเจอแขกเลย 100 เปอร์เซ็นต์แต่ที่ต้องเจอก็คือพวก บริษัททัวร์ และเอเจนซี่ต่าง ๆ ที่พาแขกมาพักแล้วไม่ค่อยชอบจ่ายเงินหรือจ่ายเงินช้า ทำให้เราต้องตามทวงอันนี้แหละครับที่น่าเบื่อ บางทีทวงไปแล้วโอนเงินมาขาดไป 100-200 บาทก็มี ทั้ง ๆ ที่ใบแจ้งหนี้ก็มีแจ้งจำนวนไปให้ประมาณว่าหัวหมอกะว่าทวงนานแล้วขาด 100-200 บาทโรงแรมคงไม่อยากเสียเวลาทวงอีก อาจจะโชคดีตัดหนี้ให้ พวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเอเจนซี่จากประเทศ...ไม่บอกดีกว่า เดี๋ยวโดนฟ้องเอาเป็นว่าคิดกันเอาเองน๊ะจ๊ะนายจ๋า

2. Hueman Resource Department อาจารย์ฝ่ายปกครองของพนักงานโรงแรม ดูแลทุกอย่างทั้งการแต่งกายความเรียบร้อย สวัสดิการของโรงแรม คอยทำเงินเดือน ดูแลประกันสังคม เหมาะสำหรับคนที่ชอบดูแลคนอื่น หน้าที่หลักอีกอย่างหนึ่งก็คือ ต้องคอยสัมภาษณ์คนที่มาสมัครงานและคอยหาคนเข้ามาทำงานกรณีที่คนเก่าลาออกไป อย่าคิดว่าการหาคนเป็นเรื่องง่าย ๆ น๊ะครับ บางทีหาคนมาให้แผนกนั้น แต่แผนกนั้นบอกไม่เอา คุณสมบัติไม่ครบให้หาใหม่ก็มี หรือหาคนมาแล้วนัดเริ่มงานแล้วเซ็นสัญญาแล้วไม่มาเริ่มงานก็มี อีกอย่างที่เสี่ยงชีวิตก็คือการให้ใบเตือน หรือวอร์นิ่งกับพนักงาน โดยปกติคนเรานั้นไม่มีใครว่าตัวเองผิดอยู่แล้วกรณีที่แผนกงานทำผิดจนต้องออกใบเตือนนั้น อาจจะทำให้เขาไม่พอใจและแค้นใจได้ จึงจำเป็นต้องมีหลักจิตวิทยาพอสมควรในการควบคุม ใครอยากทำแผนกนี้แนะนำให้ซื้อหนังสือสามก๊กมาอ่านไว้ก็ดี

3. Sale & Marketing Department แผนกหารายได้ของโรงแรมแต่จะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับฟร้อนท์และแม่บ้าน เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินทางไม่ชอบทำงานเอกสารอยู่กับที่ ชอบเจอการพบปะผู้คน แผนกนี้หลัก ๆ ต้องหาลูกค้าตามบริษัททัวร์ต่าง ๆ เอเจนซี่ทั้งในและนอกประเทศ หน่วยงานราชการและบริษัททั่ว ๆ ไป อีกทั้งต้องคิดแผนการประชาสัมพันธ์โรงแรมให้ลูกค้าจดจำอยู่เสมอ บางทีก็ต้องมีเหตุขัดใจกับฟร้อนท์และแม่บ้าน เรื่องการขอห้องให้แขก เนื่องจากเวลาที่ เซลส์ไปขายนั้นก็มักจะเสนอเงื่อนไขพิเศษ ๆ ให้เสมอเช่น ได้ห้องชั้นสูง มองเห็นทะเล หรือเช็คเอาท์ช้าได้จนถึง 4 โมงเย็นจากเวลาปกติเที่ยง ซึ่งหากเป็นช่วงแขกเยอะทางฟร้อท์กับแม่บ้านก็จะต้องรีบตามแขกให้เช็คเอาท์ก่อนเที่ยงเพื่อแม่บ้านจะต้องทำห้องแต่ถ้าต้องติดห้องนี้ก็ต้องรอห้องอีกนานแขกใหม่จะไม่ได้ห้อง อีกอย่างก็คือการให้ห้องฟรีหรือราคาที่ถูกเหลือเกินจนไม่น่าเชื่อ จนบางทีฟร้อนท์ไม่อยากรับเช็คอินท์เลยก็มี ความกดดันก็มีจากลูกค้าเหมือนกันคือบางทีลูกค้าเช็คเอาท์ไปแล้วโทรกลับมาด่าเซลส์ว่าโรงแรมบริการไม่ดีก็มี แต่ก็เหมาะกับคนที่ชอบพบปะผู้คนและชอบความท้าทายครับ

11 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

มีแผนก PR มั้ยค่ะ กำลังตัดสินใจทำงานโรงแรมอยู่ค่ะ รบกวนขอข้อมูลเพิ่มด้วยค่ะ :) ชอบวิธีการเขียนของคุณ Hotel_Man ค่ะ

Hotel Man กล่าวว่า...

ข้อมูลน่ะมีครับ แผนก PR เนี่ยจะจัดอยุ่ในส่วนของ Sale and Marketing ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์โรงแรม แต่ถ้าโรงแรมเปิดใหม่ก็ยุ่งหน่อยและถ้ายิ่งเป็นโรงแรมเชนใหญ่ ๆ อย่าง Accor หรือ Marriott วันเปิดโรงแรมก็จะต้องทำงานหนักในการจัดการนักข่าวและนิตยสารต่าง ๆ ที่มาทำข่าว ต้องคอยหาห้องพักให้พวกมันที่มานอนฟรีแล้วยังเสือกเรื่่องมากอีกจะเอาห้องนั้นห้องนี้ ทำไม่ดีมันก็เอาไปเขียนหนังสือมันไม่ดี แล้วก็ต้องดูพวกสื่อประชาสัมพันธ์โรงแรม ที่ผมเคยอยู่ถึงขนาดที่ว่าโรงแรมอยู่พัทยาต้องไปจ้างบริษัทที่รับถ่ายรูปโดยเครื่องบินบังคับจากภูเก็ตมาถ่ายเลยทีเดี่ยว ที่สำคัญเวลาโรงแรมมีงานก็ต้องคอยเป็นหน้าเป็นตาของโรงแรม ตบตีกับแผนกอื่นเช่นโรงแรมให้งบนักข่าวไว้ 30 ห้องแต่มาจริง 35 ห้อง ก็ต้องไปตบตีกับ แผนกต้อนรับเพื่อขอห้องอีก แถมเวลาเช็คเอาท์ไปมีบิลล์เรียกเก็บก็ต้องคอยตามเก็บด้วย คิดดี ๆ น๊ะคับ งานก็สนุกดีแต่เลือกโรงแรมให้ดีละกันครับ มีอะไรเพิ่มเติมถามได้ครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คุณพี่ค่ะ รบกวนช่วยตอบคำถาม หนูด้วยนะคะ

พอดีว่า หนูจะไปฝึกงานที่ ดุสิตธานี หัวหิน ค่ะ

เเล้วหนูอยู่ ฝึกแผนก PR ของโรงเเรม

หนูจะต้องเตรียมตัวในเรื่องไหนบ้างค่ะ

เพราะหนู ไม่มีความรู้ในเรื่อง แผนก นี้เลย รู้เเต่แผนกที่คุณพี่เขียน ข้างบนอ่าค่ะ

รบกวนด้วยนะคะ หนุยิ่งกลัวมีปัญหาอยู่

ถ้ายังไง ตอบทางเมลล์ได้นะ

doremon_ao@hotmail.com

นายหนึ่ง กล่าวว่า...

อ่านไปอ่านมาผมชักนับถือคนทำงานโรงแรมแล้วล่ะสิท่าน ใช้ความอดทนกว่าทำงานขายตรงซะอีกนะเนี่ย

Madam S กล่าวว่า...

ทำอยู่หน้าฟร้อนท์ ช่ายยย ถูกต้อง ไม้เบื่อไม้เมากับแผนกแม่บ้าน 555 แต่พอหลังเลิกงานแล้วก็ไม่มีอะไรค่ะ ก็ยังเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกัน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

แขกบางคน พิลึก เจอเต็ม ๆ ที่อัมพวา ห้องนอน 4 ท่าน พวกยกมากัน 8 คน เด็กอีก 2 พอเราสอบถามก็บอกว่าเพื่อนมา 4 คน เดี๋ยวกลับเย็น ๆ จน 24.00 น ยังไม่กลับ พอโทรสอบถามก็เฉย ตอนเช้ามีมาทานอาหารเกินอีก 2 คน พอ Check out เราเก็บค่าห้องพักเพิ่ม เพราะคนเกิน ดันมาว่าเราว่าไม่แจ้งให้เสริมเตียง อ้า...ว ก็ถามไปแล้ว บอกว่าไม่พัก จะกลับ โวยวายเสียงดังว่าจะโพสในเน็ตให้เสียชื่อเสียง จะไม่จ่ายซะงั้น อ้างว่ารู้จักเจ้าของ โธ่ เจ้าของนะแหละเขาให้เก็บเพิ่ม พนักงานโดนด่ายับก็ต้องยิ้มรับโดยดี ทำไมคนสมัยนี้ เห็นแก่ตัวจัง เขาทำธุรกิจ ก็ต้องการผลกำไร จะมาอยู่ฟรีกินฟรี พอเขาจับได้ พาลโทษเขาส่งเดช เฮ้อ...พนักงานFront เพลียใจอย่างแรงส์....

Unknown กล่าวว่า...

แขกบางคนงี่เง่า จะเอาอะไรไม่บอกพนักงานแล้วหาว่าเราไม่ใส่ใจ
ทำเองทุกอย่างแล้วหาว่าเราไม่ช่วย
สั่งอีกอย่าง แล้วอยากได้อีกอย่า่ง
ยังไงก้อตาม ลูกค้าคือพระเจ้า
ต้องอดทน

Hotel Man กล่าวว่า...

ความอดทนคือคุณสมบัติที่ดีของพวกเราเลยล่ะครับ

Hotel Man กล่าวว่า...

ใจมันรักงานบริการครับผม 555 เราต้องอดทนและสู้ๆ ครับ

Hotel Man กล่าวว่า...

เยี่ยมเลยครับยังไงเราก็หัวอกเดียวกัน

Hotel Man กล่าวว่า...

โอ้โห นี่มหกรรมอะไรกันเนี่ย

บทความแนะนำ