วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เรื่องของแขกทะเลาะกัน (แล้วกูไปเกี่ยวอะไรเนี่ย)



เรื่องนี้อยากเล่าให้ฟังเป็นอุทาหรสอนใจพนักงานโรงแรมทุกท่าน เรื่องเกิดขึ้น ณ เช้าวันหนึ่งในชั้น Club Lought ซึ่งเป็นโซนที่เรียกกันว่าใช้รับรองแขกระดับ V.I.P หรือที่เรารู้จักกันในนาม Very Important Person ประมาณว่า เป็นระดับบุคคลสำคัญมาก มากจนไม่รู้จะมากยังไง ก็ไม่เข้าใจในความสำคัญของมันเหมือนกัน เพราะส่วนตัวผมก็ไม่เห็นว่ามันจะสำคัญอะไรกับชีวิตผม เพราะคุณมึงก็ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตกูดีขึ้น หรือขาดเธอไปฉันตายแน่นอน มีแต่เวลาที่พวกเมิงมาพักนี่แหละ ที่จะทำให้ชีวิตกรูยุ่งขึ้นอีกเป็น 100 เท่า แถมถ้าโชคร้ายเจอคนที่พูดจาไม่รู้เรื่องประมาณว่าชั้นจ่ายมาแพงน๊ะนี่ก็ยิ่งโชคร้ายใหญ่ เคยมีครั้งนึงเจอแขกที่มาจากหน่วยงานที่สำคัญในระบบราชการไทยหน่วยงานหนึ่ง ทางโรงแรมก็อุตส่าห์เตรียมที่สำหรับรับประทานอาหารให้เป็นแบบส่วนตัวและสัดส่วน แยกจากแขกอื่นใน Club Floor เรียบร้อย แต่รู้ไหมครับเกิดอะไรขึ้น ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันอ่านภาษาไทยไม่ออกหรือฟังภาษาไทยไม่เข้าใจหรือยังไงก็ไม่ทราบ สันนิษฐานได้ว่าตอนเด็ก ๆ ไม่เคยเรียนชั้นประถม มันไม่นั่งในที่จัดให้ครับ แต่มันไปนั่งที่อื่นซึ่งเป็น ที่ ๆ จัดไว้ให้แขกทั่วไปนั่ง ขนาดเชิญมัน บอกมันก็แล้วว่าเราจัดที่ไว้ให้แล้วมันยังไม่ยอมไป ราดก็ไม่ลง (สงสัยส้วมเต็ม) นี่ไม่เกรงใจนี่จุดธูปให้ด้วยอ่ะ มันก็ไม่ไปนั่งครับมีการพูดอีกครับ "ผมจะนั่งตรงนี้" ฮึ สรุปคือแค่อยากจะเอาชนะน่ะครับ ขอแค่ชนะนิดนึงส์ก็ยังดี คาดเดาได้ว่าตอนเด็ก ๆ คงเก็บกดที่แม่ไม่ให้ไปเล่นขายของกับเพื่อนแน่ ๆ
ย้อนกลับมาที่เรื่องแขกทะเลาะกันก่อนคับ พอดีว่ามีลูกชายของแขกที่เข้าพักคนหนึ่งมาเล่นคอมพิวเตอร์ซึ่งในขณะนั้นมันเป็นคอมพิวเตอร์ของ Apple มีแค่ 2 ตัว ใน Club ครับ แขกที่ว่านี้ไม่ขอบอกชื่อประเทศน๊ะครับว่าเป็นประเทศอะไร รู้แค่ว่าเขามาจากออสเตเลียครับ ซึ่งเด็กคนนี้มันก็เล่นของมันอยู่ดี ๆ แต่มันเล่นนานหน่อย ส่วนอีกเครื่องนึงก็มีแขกใช้อยู่ เวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที ก็มีเด็ก(เวร)อีกคนหนึ่งจะมาแย่งเล่นพอมันเดินมาถึงมันก็แย่งเมาส์แย่งคีย์บอร์ดเด็กคนนี้ไปเลยครับแต่เด็กคนนี้ไม่ให้ ทีนี้ก็ตามประสาเด็กครับ มันก็เดินไปฟ้องพ่อมันที่เป็นชาวรัสเซีย (อุ๊ย บอกชื่อประเทศไปแล้วจะโดนฟ้องมั้ยเนี่ยกรู) พ่อมันก็เดินมาแล้วก็จับเด็กที่เล่นอยู่โยนออกจากเก้าอี้เลยครับ ย้ำครับว่าโยนออกไปเลยครับ แมนจริง ๆ เมิง แกล้งได้แม้กระทั่งเด็ก แล้วเด็กคนนั้นเดินร้องให้และวิ่งออกไปครับ

จากนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฟันก็เกิดขึ้นครับ พ่อของเด็กคนนั้นเดินมาครับแล้วมาถึงก็ปรี่เข้ามากระชากคอเสื้อคู๋กรณีครับพร้อมกับถามด้วยเสียงโกรธมากมายว่า "ช้างกูอยู่ไหน" เอ้ย ไม่ใช่ "เธอมาทำลูกชั้นทำไม" แทนที่แขกคนที่ผิดจะขอโทษแล้วพูดจากกันดี ๆ มันตอบอย่างไรรู้ไหมครับ "ก็ลูกชั้นจะเล่นคอม" น้าน กวนทีนเค้าได้อีก ก็มึงนี่ผิดเต็ม ๆ ยังเสือกมาเถียงเค้าอีก ลูกน้องผมเห็นท่าไม่ดีเลยต้องโทรตามหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยขึ้นมาควบคุมเหตุการณ์ครับ ไม่งั้นอาจจะบานปลายกลายเป็นเหตุจลาจลได้ ดีไม่ดีแขกที่ทานอาหารเช้าอยู่อาจได้ดูมวยคั่นเวลาไปด้วยครับ

บทสรุปท้ายที่สุดก็ลงเอยด้วยดีครับ แต่วันต่อมาแขกรัสเซียคู่กรณีครับ ลงมาหาผมที่หน้าล็อบบี้ถามหาผู้จัดการ (มึงไม่ถามหาคนสวนมั่งวะ) แกมา complain พนักงานผมครับว่าบริการไม่ดีเลือกปฏิบัติ แถมทำหน้าตาไม่รับแขก ให้ผมรีบเอาพนักงาน 2 คนนั้นออกจากโรงแรมไม่อย่างนั้นเค้าจะจับมันโยนออกจากโรงแรมและแจ้งตำรวจ น้าน ดูนิสัยมันครับ และแขกชาตินี้น๊ะคับนิสัยจะออกแนวนักเลงแบบนี้หมดครับคิดว่ากรูมาพักแล้วกรูต้องได้อะไรทุกอย่าง ผมเลยย้อนกลับไปว่า " you ทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก เพราะ you ไม่มีสิทธิ์" เชื่อมั้ยครับมันก็ยังบอกอีกนั่นแหละครับว่ามันจะทำ เออ เอากะมึงสิ สุดท้ายหัวหน้าผมต้องเข้ามาไกล่เกลียและหาข้อสรุปให้ครับ

นิทานเรื่องนี้สอนให้พนักงานโรงแรมรู้ว่า กรุณาอย่าตื่นเต้นเวลาแขกทะเลาะกันถ้ามันไม่เลิกก็เอาน้ำสาดแม่งเลย

บทความแนะนำ