วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ระบบล่ม


เคยเจอเรื่องระบบล่มกันป่ะ

ตอนที่เฮียทำงานในโรงแรมหาดาวแห่งหนึ่งในเมืองพัทยาช่วงที่เค้าเปิดโรงแรมใหม่ๆ นะ ทุกอย่างตอนนั้นมันเต็มไปด้วยความไม่พร้อมแต่เจ้าของเขาก็ยังยืนยันว่าจะเปิดอ่ะนะ เรามันก็ลูกจ้างเลยต้องทำตามความประสงค์ของเขา ทีนี้มันมีช๊อตนึงที่ช่วงนั้นเป็นวันหยุดยาวอะไรสักอย่างจำไม่ได้ เฮียกับน้องๆ G.S.A, G.R.O, RDM, กำลังยืน Check In, Check Out แขกกันอยู่อย่างเมามันและยังมีการโดน Complain เข้ามร่วมด้วยประปราย เรียกว่าเครื่อง Print เรื่องถ่ายเอกสารทำงาานกันอย่างเต็มประสิทธิภาพทีเดียว ปากก็รับสายโทรศัพท์จดมินิบาร์ไป มือก็ทำคีย์การ์ดไป สายตาก็ดูห้องในระบบเพื่อหาห้องให้แขก Check In ไป

ทันใดนั้นอยู่ดีๆ เครื่องแม่งเสือกค้าง และไม่ได้ค้างแค่เครื่องเดียว แม่งค้างทีเดียว 4 เครื่องหมด Counter เลยมึง ทีนี้เอาไงล่ะวะไอ้ตัว Check In เฮียก็จัดการใช้ Manual โดยการโทรถามแม่บ้านเกี่ยวกับห้องว่างห้อง VC มีห้องไหนเสร็จหรือยังแล้วก็ Note ไว้ก่อนทำกุญแจให้แขกเพราะเครื่องทำ Key มันไม่ได้เสียไง แต่ไอ้ในส่วนของแขกที่รอ Check Out ที่มันต้องดูค่าใช้จ่ายใน Folio นี่อ่ะดิ แม่งเวรกรรมดีแท้หน๊อว่าแล้วก็รีบโทรแจ้ง IT แล้วก็โดน jackpot รอบสองอีกคือ IT กำลัง Check สัญญาณ Internet ให้แขกบนห้องอยู่ โอ้แม่เจ้าาาาาา กูอยากจะเอาคีย์การสองใบเน้นๆ ปาดคอตายคา Lobby จริงๆ วันนี้กูไม่ได้ทำบุญมาแน่ๆ เลยชีวิต สถานการณ์แม่งกดดันสุด ๆ เพราะแขกเป็นร้อยยืนรอ Check In, Check Out อยู่ เครื่องแม่งก็ดันมาเสียหมดทำอะไรไม่ได้

กว่า IT จะทำงานบนห้องแขกเสร็จและลงไปห้อง Server เพื่อแก้ระบบก็ปาเข้าไปเกือบ 20 นาที ซึ่งเป็น 20 นาทีที่มีคุณค่ามากเพราะมันเต็มไปด้วยคำให้ศีลให้พรจากแขกที่รออยู่หน้า Lobby คำชื่นชมในความบกพร่องของระบบพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสายและนี่ยังไม่รวมผลไม้ฟังแฟงแตงโมที่ปลูกกันจนโตและเก็บเกี่ยวได้แล้วอีกนับหลายล้านเอเคอร์

ที่เด็ดกว่านั้นเว้ย หลังจากที่แก้งานครั้งนั้นเสร็จพี่ IT Manager วันรุ่งขึ้นแกลาออกเลยหน้าตาเฉย ตอนหลังไปคุยกันข้างนอกแกบอกระบบมันไม่ไหวจริงๆ แกลองทำมาเกือบเดือนแล้วเหมือนไม่มีอะไรดีขึ้น แกเอาไม่อยู่จริงๆ เพราะมันมั่วไปหมด เอวังด้วยประการละฉะนั้น

ปล. พรุ่งนี้จะเปิดตัวภาพ Profile และ Logo ใหม่ของเพจนะครับขอบคุณเว็บไซต์ hoteljob.in.th ที่ให้การสนับสนุนการออกแบบ และเตรียมผมกับสติ๊กเกอร์ไลน์ Hotel Man ที่น่าจะรอไม่ต่ำกว่า 4 เดือน ปานว่ารอผ่านโปรฯ อย่างนั้นแหละครับเร็วๆ นี้


Cr. เฮียไงจะใครล่ะ

Wave ปล่อยผ่าน


วันนี้เฮียเริ่มต้นเช้าวันจันทร์ด้วยคำถามว่า "เคย Wave อะไรที่มันดูไร้สาระๆ กันบ้างมั้ย?"
สำหรับเฮียนะตอนนั้นจำได้เลย แขกจองห้อง Suite มาแล้วมันมี Package ซักผ้าฟรีวันละ 10 ชิัน ถ้าส่งเกินก็จะต้องคิดเงินเพิ่มซึ่งแขกก็รับรู้ตั้งแต่ตอนที่ Check in แล้วว่าเงื่อนไขเป็นแบบนี้ แล้วแขกก็ส่งผ้าซักเกินทุกวันครั้งนะบ่อยมากวันละ 3 ชิ้นบ้าง 5 ชิ้นบ้าง แม่บ้านเขาก็เอาบิลมาให้เฮียดูทุกวันเพราะตอนนั้นเฮียเป็น Duty ทั้งแม่บ้านทั้งเฮียเคยเจอมาเยอะแล้วประมาณว่าส่งเกินแล้วถึงเวลาเก็บเงินกลับไม่จ่ายอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้นับผ้าตอนส่ง เฮียก็เลยโทรติดต่อแขกและแจ้งว่าส่งผ้ามาเกินนะทุกครั้งที่เจอ ถ้าแขกไม่อยู่ก็จะส่ง Message ขึ้นไปแจ้งเพื่อป้องกันปัญหา

ถึงวัน C/Out ปรากฏว่าแขกเห็นค่าใช้จ่ายค่า L/D ที่เกินมาพี่แกจะไม่จ่ายเพราะแกบอกว่าแกไม่รู้แกไม่ทราบว่าส่งได้แค่วันละ 10 ชิ้น แกนึกว่าส่งฟรีคือตอนนั้นแบบเอากันหน้าด้านๆ เลยนะทั้งๆ ที่ตอน C/I เฮียนี่แหละเป็นคนแจ้งคนทำกับมือแต่ครั้งนี้คงกะว่ากูอยู่ห้อง Suite ยังไงก็ต้องต่อรองได้ซึ่งเฮียก็ไม่ยอมเพราะมันเกินมาเกือบ 1,500 บาท อีกอย่างมีแขกห้อง Suite เช่นกันกำลังยืน Check Out อยู่ข้างๆ ด้วย เฮียก็เถียงและอธิบายกันอยู่สักพักแกก็ขอเจอ GM และก็อย่างที่รู้กันว่าคนที่จะออกมาก่อน GM มักจะเป็น OM หรือ EAM จากนั้นคงไม่ต้องบอกว่าเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเหล่านั้นไม่ได้ทำงานเป็นไปในทางเดียวกันกับที่พนักงานกำลัง Fight เพื่อผลประโยชน์โรงแรม หลังจากที่เขาเหล่านั้นอัญเชิญแขกออกไปคุยที่ส่วนตัวคำสั่งที่เฮียได้รับมาต่อจากนั้นคือ "Wave ให้เขาไปซะนะ" อ้าววววว สาดดดด แล้วที่กูยืนเถียงปกป้องผลประโยชน์ของโรงแรมแทบตายนี่คือไรวะ นึกแล้วแม่งขำจริมๆ ก็เข้าใจเขานะเพราะเขาอยู่ระดับบริหารคงไม่อยากมีปัญหาหรือเขาอาจมีเหตุผลที่เราไม่เข้าใจ "เฮียสัมผัสได้"

Cr. เฮียไงจะใครล่ะ

วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Club Stupidguest เรื่องเล่าจากทางบ้าน


ช่วง Club Stupidguest เรื่องเล่าจากทางบ้าน เป็นเรื่องเล่าที่ส่งมาหาเฮียทางหลังไมค์ ซึ่งเฮียเห็นว่ามีประโยชน์และน่าจะนไปปรับใช้ได้ในแวดวงบริการอย่างพวกเรา เชิญทัศนากันได้ ...........................................................................................................

เฮีย..หนูขอเล่าบ้างได้มั้ยอ่ะ อันนี้เป็นเรื่องความเยอะแหวกแหกโลกของแขกวิลล่านึง คือน้องเนี่ยทำงานอยู่ที่รีสอร์ทชื่อดังแห่งนึงทางภาคใต้ เดอะดาวห้าดวงว่างั้นเหอะ แขกที่มาพักส่วนมากก็จะออกแนวเว่อร์วังอลังการ แบบแพ้นู่นแพ้นี่แปลกๆแหวกแนวกันไปซึ่งก็เข้าใจได้เนอะ เพราะคนเรามันก็อาจจะมีอาการแพ้อาหารหรือสิ่งต่างๆแตกต่างกันไป ทีนี้มันก็มีแขกอยู่วิลล่านึง อันนี้มาแปลก...นางและสามีไม่กินสัตว์ทุกชนิดที่ส่งเสียงได้ คืออะไรที่ make noise นางไม่กินว่างั้นเถอะ แต่ว่านางกินอาหารทะเลได้เช่นปลา กุ้ง แต่ไม่กินเชลล์ฟิช พวกหอย ปู แต่สามีนางกินอันนี้ได้อันนั้นไม่ได้ บลาๆๆ คือน้องก็คิดนะว่าเจ้เค้ารู้ได้ไงวะว่าอีพวกซีฟู๊ดพวกนี้มันไม่ส่งเสียง แต่ก็นะมันคือความต้องการของแขกเราก็ต้องตามเค้า แล้วคือคอนดิชั่นเค้าเยอะมากนะ ต้องจดเป็นลิสรายการ แล้วต้องย้ำแผนกต่างๆ โดยเฉพาะห้องอาหารและเอาท์เลตต่างๆ เพราะรีสอร์ทนี้เค้าจะให้ความสำคัญกับความต้องการและคอนดิชั่นของแขกเป็นอย่างมาก แล้วยิ่งมีเรื่องให้เราต้องระวังเท่าไหร่ ความผิดพลาดเรียกหาเลยจ้ะ เจ้เค้าสั่งรูมเซอร์วิสไปทานที่วิลล่า เค้าสั่งมาหลายวันละก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรเพราะน้องก็ย้ำแผนกต่างๆอยู่ตลอด วันนั้นสั่งอะไรจำไม่ได้นะแต่เมนูนั้นตามปกติจะมีเนื้อไก่ด้วย ทีนี้ตลาดแตกเลยจ้าโทรมาโวยวายใหญ่เลย " ชั้นไม่กินเนื้อต่างๆมาจะยี่สิบปีละ พวกเธอมาเสริฟเนื้อไก่ชั้น นี่รู้มั้ยที่บ้านชั้น มีไก่เป็นสัตว์เลี้ยง ชั้นให้มันวิ่งเล่นอยู่ในสวนของชั้น มันเหมือนชั้นกินสัตว์เลี้ยงของตัวเอง" เจ้ก็สาธยายไป เป็นเรื่องเลย... ยังไม่จบนะ.. เจ้เค้าไปออกทริป คนพาทัวร์เค้ามาเล่าให้ฟังทีหลัง ว่าเจ้จองนั่งช้างครึ่งชั่วโมง พอไปถึง เจ้เห็นช้างเจ้ก็ออกแนวรักสัตว์ยิ่งกว่านางงามบนเวทีประกวด ระหว่างรอนางก็ถามคำถามจนคนนำทัวร์คิดว่านางคงไม่อยากจะนั่งช้างแล้วเพราะนางคงสงสารสัตว์? " ช้างเลิกงานแล้วมันไปไหน มันได้พักมั้ย แล้วเสือล่ะได้พักบ้างมั้ย etc. " คนนำทัวร์เลยบอกนางว่า ถ้าคุณไม่สบายใจจะนั่งช้างแล้ว ชั้นจะแคลเซิลให้ นางบอกว่าไงรู้มั้ย อ๋อ... ไม่ ชั้นจะนั่ง ชั่วโมงนึง ฮ่าๆๆ แล้วไหนว่าเจ้สงสารมัน นั่งนานซะจนมันหลังอานแล้วมั้งน่ะ จริงๆเค้าก็ไม่ใช่แขกที่แรงอะไรนะ แต่เค้ามีคอนดิชั่นเยอะ แล้วมันลำบากคนดูแล มีข้อยิบย่อยกระหยุมกระหยิมมากซะจนคิดว่า...เจ้อยู่บ้านไปเถ๊อะ คือถ้าอ่านดูอาจจะคิดว่าก็ไม่เห็นจะเยอะเลย บอกได้คำเดียวว่า เยอะคร่า ที่บอกมายังไม่ถึงครึ่งเลยค่ะ ใครเคยเจอแขกแบบนี้บ้างก็มาแชร์กันบ้างนะ ......................................................................................................

เฮียก็คิดว่ามันเป็นอีกเรื่องราวหนึ่งให้พวกเราที่มีอาชีพงานบริการได้แบ่งปันประสบการณ์กันนะครับว่า แขกมีหลายประเทศทั้งนี้ทั้งนั้นหน้าที่เราก็ต้องคอยรองรับอารมณ์และความต้องการของเขานั่นแหละครับ ทางที่ดีก็ต้องคอยระมัดระวังถ้าเจอประเภท Difficault Control เข้าก็ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังเข้าไปให้ลึกถึงลำไส้ใหญ่กันเลยทีเดียว

ช่วง Club Stupidguest


ช่วง Club Stupidguest ช่วงนี้เรื่องเล่าจากทางบ้านเยอะ อันนี้เป็นเรื่องเล่าใหม่จากคนเดิม เพิ่มเติมเดี๋ยวบอก เฮียเห็นมันเหมาะดีกับพวกขี้เบ่งทั้งหลาย ยังไงก็เพลาๆ กันบ้างนะครับพนักงานโรงแรมเขาทำงานบริการถ้าเบ่งกับเราแล้วมันรู้สึกดีที่ได้จิกกัดได้แทะเล็มก็ตามสบายครับ ไม่ต้องเห็นใจและให้เกียรติกันก็ได้นะตามสันดาน เอ้ย ตามสบายเลย ........................................................................................................

.เฮีย...น้องเพิ่งเล่าเรื่องแขกแปลกแหวกแหกโลกให้เฮียฟังไปเมื่อไม่กี่วันก่อน "ช้านม่ายกิน any แอนนิมอลที่ make noise" น้องเพิ่งนึกเรื่องเด็ดๆเรื่องนึงขึ้นมาได้ อันนี้เป็นกรณีแขกขี้เบ่ง แต่แขกที่ว่านี้ไม่ใช่แขกของรีสอร์ทเดอะดาวห้าดวงที่น้องทำงานอยู่นะ เค้าเป็นแขกนอกที่เข้ามาทานอาหารที่ร้านอาหารชื่อดังของรีสอร์ท คือวันนั้นน้องเข้ากะบ่าย ก็จะทำงานตั้งแต่บ่ายโมงถึงห้าทุ่มครึ่ง แล้วมันเป็นช่วงปีใหม่ รถของรีสอร์ทโดนบุ๊คเต็มเอี๊ยด แล้วแขกนอกกรุ๊ปนี้ที่เข้ามาทานอาหารเค้าก็ไม่ได้จองรถกับเราไว้ตั้งแต่ตอนมาถึง แต่มาขอให้เราหารถให้ที่ล็อบบี้หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว แขกแจ้งปลายทางว่าเค้าจะกลับโรงแรมของเค้าซึ่งก็คือโรงแรมเดอะดาวห้าดวงอีกแห่งหนึ่งสมมติว่าชื่อโรงแรม A***** แล้วตอนที่แจ้งว่าเค้าจะไปไหนก็จะออกแนวเชิดๆหยิ่งๆ ประมาณว่าชั้นก็พักเดอะดาวห้าดวงเช่นกันนะยะ ไม่ใช่แขกไก่กาประมาณนั้น เอาจริงๆไม่ว่าแขกจะพักที่ไหนเราก็บริการเหมือนกันทั้งนั้นแหล่ะเพราะเราให้เกียรติแขกทุกคน เนื่องจากรถของรีสอร์ทถูกบุ๊คเต็มแล้ว เราเลยต้องติดต่อกับแท็กซี่นอกให้ ซึ่งก็หายากมากนะเพราะช่วงปีใหม่ทุกๆที่จะเต็มไปด้วยผู้คนและรถก็จะหายากตามไปด้วย เราติดต่อได้คันนึง แท็กซี่แจ้งว่าจะมาภายในประมาณ 20 นาที เราก็แจ้งแขกไป ระหว่างรอพวกเค้าก็บ่นแล้วบ่นอีก เมื่อไหร่รถจะมา เมื่อไหร่รถจะมา ทั้งๆที่เราแจ้งไปแล้วว่าประมาณ 20 นาทีนะคะ แล้วเราก็เพิ่งแจ้งเค้าเมื่อ 5 นาทีก่อน พอผ่านไปได้ประมาณ 10 นาที แท็กซี่คันดังกล่าวโทรกลับมาแจ้งเราว่าเค้าคงมาไม่ได้เพราะรถติดมาก เราเลยแจ้งแขกไปตามนั้นแล้วจะทำการหารถคันใหม่ให้เค้า พอได้ฟังดังนั้น..โวยวายเลยจ้า พวกชั้นรอมานานแล้วนะ เธอทำงานกันยังไง แย่มากๆบลาๆๆ เราก็อธิบายเหตุผลนะว่า มันไม่ใช่รถของเรา เราจะพยายามหาคันใหม่ให้ รถของโรมแรมถูกจองเต็มจริงๆ เค้าก็ยังกระแนะกระแหน่เรานะ แต่เราก็ใจเย็นและหารถคันใหม่ให้เค้าจนได้ จุดพีคมันอยู่ที่ระหว่างรอ แขกนางนึงในกรุ๊บนี้ก็พูดลอยๆเชิดๆใส่หน้าน้องขึ้นมาว่า ชั้นรอนานขนาดนี้ควรจะเอาคล็อคเทลมาเสริฟให้ชั้นฟรีนะ ว่ามั้ย รีสอร์ทห้าดาวประสาอะไรทำงานไม่ได้เรื่อง น้องเลยสวนไปด้วยความสุภาพแต่นางจะเจ็บมั้ยไม่รู้นะ..ว่า "คุณต่อการให้ชั้นเอสคอร์ดคุณไปที่บาร์ของเรามั้ยคะ หรือคุณอยากจะให้ชั้นโทรไปที่โรงแรมของคุณเพื่อให้เค้าจัดรถมารับคุณ?" เพื่อนนางคงเห็นว่าพวกนางโวยวายเกินไปแล้ว เลยบอกเราแบบเย็นลงว่า "ไม่เป็นไรหรอกเรารอได้" พอรถที่จองไว้มาถึงพวกเค้าก็ขึ้นรถและกลับรีสอร์ทไป แต่จุดพีคอีกจุดนึงมันอยู่ที่รถคันนั้นที่ไปส่งแขกกรุ๊บนี้ เค้าต้องกลับมารับอีกกรุ๊บนึง เราเลยได้มีโอกาสถามคนขับรถว่าทุกอย่างโอเคมั้ย ปรากฏว่า...คนขับรถบอกว่าแขกเมื่อกี้ไม่ได้ไปรีสอร์ท A***** นะ พอขึ้นรถเค้าบอกให้ไปอีกที่นึง ซึ่งรีสอร์ทนั้นเป็นรีสอร์ทประมาณสองถึงสามเดอะสตาร์ เราก็เลยเข้าใจว่าเค้าแจ้งชื่อโรงแรมอีกที่นึงเพื่อเบ่งและอยากจะได้การบริการแบบ exclusive และที่เค้าไม่ยอมให้เราโทรไปเรียกรถโรงแรมของเค้าก็เพราะว่าเค้าไม่ได้พักโรงแรมที่แจ้ง ซึ่งก็ไม่เข้าใจนะว่าทำไมเค้าถึงมีความเข้าใจแบบนั้น อย่างที่บอกไปจะพักที่ไหนอะไรยังไงเราก็บริการเหมือนกันเพราะเราทำงานบริการ แขกทุกคนเนี่ยแทบจะเป็นพระเจ้าก็ว่าได้ นี่ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่อาจจะตรงกับประสบการณ์ของหลายๆคน ก็เลยอยากจะเล่าสู่กันฟัง ใครเจอมายังไง มาแชร์กันนะคะ ....................................................................................................

ปกติที่เฮียเจอนะ "คนมีจะไม่เบ่ง คนเบ่งจะไม่มี" คนรวยจริงๆ แบบรวยตั้งแต่เกิดแบบผู้ดีๆ น่ะเค้าไม่ค่อยเบ่งบานอะไรกันนะแต่ก็มีบางคนที่ติดเบ่งมาเหมือนกัน ก็แล้วแต่ดวงนะ เฮียแนะนำให้ไหว้ศาลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนเข้างานนะเพื่อความแคล้วคลาด (หรือเปล่าวะ) รักทุกคน

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Clup Stupid Guest ตอน เรื่องเล่า เสาร์-อาทิตย์



Clup Stupid Guest ตอน เรื่องเล่า เสาร์-อาทิตย์ จากทางบ้าน สวัสดีค่ะพี่ หนูขอเล่าเรื่องแขกท่านนึงที่หนูเจอนางมาเช็คอินวันนี้ให้ฟังหน่อยนะคะ หากไม่เล่าคงตายตาไม่หลับ เรื่องมีอยู่ว่าหนูเป็นรีเซฟชั่นอยู่ โรงแรมแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว วันนี้เมื่อค่ำๆมีแขกผู้หญิงหน้าตาดีท่านนึงมาCheck In ด้วยเป็นเพราะbooking ที่จองมาเป็น booking own account เราจึงขออนึญาตุเรียกdeposit แต่นางมีบัตรdebit ซึ่งทาง รร หนูใช้เจ้านี่การันตีไม่ได้ หนูก็แจ้งแขกไปว่า "ถ้าจำเป็นจริงๆหนูขอชาร์จค่าห้อง+การันตี2000 ผ่านเจ้าเดบิตนี่ได้มั้ย" แล้ว Check Out รับคืนเป็นเงินสด เหตุการณ์ทั้งหมดจึงเป็นบทสนทนาเยี่ยงนี้ แขก: แล้วไม ไม่คืนไปที่บัตร จะมาคืนเงินสดทำไม เอาไปจากบัตรก็คืนไปที่บัตรสิ หนู: ทางเราไม่สามารถทำแคลเซิลบัตรเคบิตได้นะคะ แขก: ATM มีมะ หนู: มีอยู่ที่ห้างค่ะ แขก: มันใช่เรื่องมั้ยเนี่ย แล้วก็ไม่บอกว่าจะต้องมัดจำบ้าบออะไรนี่ด้วย หนู (ไม่รู้จริงๆหรอวะ) ขอประทานโทษทีค่ะ ทางเรารอได้ ไม่เป็นไรล่ะ แขก: จะเดินเองมั้ยล่ะ! เอาบัตรมา! หนู: เอื้อมมือพลางยื่นบัตรเดบิตนั่นคืน แขก: ห่วย!!!! (สรุปโรงแรมผิดที่ขอ Deposit) พร้อมเดินออกไปข้างนอก ซักหน้าทางเข้าโรงแรมได้ ก็กลับมาเพราะเงิน2000 สิ่งที่หนูสงสัยคือ สมัยนี้ไม่มีใครรู้จักเงินมัดจำการันตี หรือdeposit หรอ?? หรือแขกไม่เคยพักโรงแรมมาก่อน ? ทำไมแถวบ้านหนูห้องพักคืนละ300 ยังเก็บเงินไป500 เลย คนประเภทนี้เค้าต้องการอะไรจากสังคม หรือเพียงแค่ถ่อยกับพนักงานบริการแล้วรู้สึกเต็มอิ่มประทับใจ เออ เว้ย กูก็เก่งนะเหวย อย่างนี้หรอคะ
================================================
เฮีย ก็ถือว่าเป็นอีกปัญหาที่พวกเราชาวโรงแรมเจอกันบ่อยๆ นะครับ แขกท่านใดที่อธิบายแล้วเข้าใจก็ดีไปว่าทำไมเราต้องเก็บ หรือถ้าเก็บผ่านบัตรเครดิตโดยการทำ Card Ver ต้องคืนเงินกี่วันและอาจจะรวมถึง Card Ver คืออะไรเพราะต้องบอกก่อนว่าแขกบางคนไม่รู้จริงๆ เวลาเฮียอธิบายเขาก็เข้าใจนะและยังชมว่าได้ความรู้ใหม่ด้วย แต่ไอ้ที่ไม่เข้าใจคืออธิบายยังไงแล้วก็จะไม่จ่ายอยู่ดีนี่แหละ เอาจริงๆ เฮียว่าที่ต่างประเทศเขาก็เก็บกันหมดและถ้าจะทำแบบนี้เขาคงไม่กล้าแน่ๆ อย่างที่บอกว่ามาตรฐานการบริการบ้านเรานี่ดีที่สุดแล้ว ยอมได้ยอม ให้ได้ให้ ปล่อยได้ปล่อย ถ้าเป็นเมืองนอกเขาไม่ยอมนะมาแหกกฏแบบนี้ดีไม่ดีเขาไม่ให้ Check In นะเอ้อ ใครมีประสบการณ์ก็งานโรงแรมเมืองนอกก็แชร์กันได้นะ เฮียก็อยากรู้เหมือนกัน


บทความแนะนำ