ต่อไปจะเป็นเรื่องราวเล็ก
ๆ น้อย ๆ
ของแขกงี่เง่าเกี่ยวกับการใช้ประโยคที่ไม่รู้ว่ามันเป็นรูปแบบบังคับหรือไงที่ต้องพูดแบบนี้
ร้อยทั้งร้อยแขกที่ขึ้นต้นด้วยประโยคแบบนี้มันจะทำให้งานของผมยากขึ้นทันที ทั้ง ๆ
ที่มันก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากมายนักเลยสำหรับมัน
และจากนี้ไปคือประโยคสุดฮิตที่พนักงานโรงแรมจะถูกแขกงี่เง่าทั้งหลายถามขึ้นมาทุกครั้งที่มาเช็คอินท์ซึ่งบางครั้งเนี่ยมันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะหาทางออกสำหรับปัญหาแค่แขกที่มาพักให้ความร่วมมือเหมือนกับแขกทั่ว
ๆ ไปหรือคนทั่ว ๆ
ไปเค้าทำกันเพราะสิ่งที่พนักงานร้องขอนั้นมันก็เป็นไปตามนโยบายและเป็นเรื่องทั่วไปที่ต้องทำก่อนที่แขกจะเข้าพักกับทางโรงแรม
แต่เชื่อมั้ยครับไม่ว่ามันจะเป็นแค่เรื่องง่าย ๆ
สักเพียงใดมันก็ยังมีปัญหาขึ้นมาได้เพียงแค่แขกงี่เง่าพวกนี้ไม่อยากทำตามคนอื่นอยากทำตามใจตัวเองมากกว่า
ก็ไม่รู้ว่ามึงจะอินดี้ไปไหน
และต่อไปนี้เป็นประโยคที่พนักงานโรงแรมจะพบเจอในทุกครั้งที่แขกพวกนี้มาทำการเช็คอินท์หรือติดต่อโรงแรม
ไม่เชื่อลองดูได้
“พี่มาหลายครั้งแล้วไม่เชื่อคุณลองเช็คประวัติพี่ดูซิ “ (อยากตอบกลับไปใจจะขาดว่า "พี่ครับ คือกูหาอยู่ 10
นาทีและยังไม่เจอชื่อมึงเลยครับพี่ ไม่ทราบว่าแขกมีเป็นร้อยเป็นพัน คือกรูต้องมานั่งจำชื่อเมิงไว้ใช้ไหมครับ)....ประโยคนี้จะเกิดขึ้นเวลาที่แขกมาเช็คอินท์และพนักงานขอบัตรประชาชนหรือเอกสารอ้างอิงตัวตนในการลงทะเบียน
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าการที่มึงจะหยิบบัตรประชาชนออกมาจากกระเป๋าเนี่ยมันยากมากนักหรือไงวะ
ก็แค่เอามาดูแล้วก็เปรียบเทียบว่ามีตัวตนจริงแล้วก็ถ่ายเอกสารเก็บไว้ลงทะเบียน
เพราะเวลาที่ทางราชการเขามาตรวจจะได้มีบันทึกเก็บไว้ว่าใครเข้าพักอะไรยังไงถ้าไม่มีโรงแรมก็จะโดนปรับด้วย
ที่สำคัญเกิดเจ็บ เกิดตายขึ้นมาจะได้รู้ว่าเป็นใครอยู่ที่ไหนอะไรยังไงจะได้ส่งศพไปถูก แล้วไอ้ที่เคยมาเนี่ยบางคนนะแม่งประเภทปีนี้ปี 2010 แต่เจ้แกเคยมาตอนนู้นเลยครับปี 2005 กูจะเจอมั้ยเนี่ย
“ผมไม่ได้เอาบัตรประชาชนหรือใบขับขี่มาเลย (ออกแนวว่ากูใหญ่จะไม่ให้ใครจะทำไม)”อยากตอบกลับไปอย่างมั่กๆ ว่า : ขับรถข้ามจังหวัดนี่เมิงไม่คิดพกเอกสารอะไรเลยไงวะ คือชีวิตมึงไม่เคยประสบอุบัติเหตุเลยว่างั้น ประโยคนี้ส่วนใหญ่จะเจอกับแขกที่ไม่อยากให้เอกสารใดกับทางโรงแรมออกแนวความลับเยอะ
เช่นพาเด็กหลบเมียมานอนแล้วไม่อยากให้เมียรู้ว่ากรูหยู่ววี่ หรือไม่อยากให้ใครรู้ว่า เฮ้ย ครั้งหนึ่งในชีวิตข้าคือผู้พิชิตเด็กเอ๊าะๆ เคยเจอนะครับมาเช็คอินท์ขอบัตรประชาชนไม่มีครับ ขอใบขับขี่ไม่ได้เอามาครับ
แล้วก็ยืนมึน ๆ
ไม่หาไม่กระตือรือร้นอะไรประมาณว่าโรงแรมจะเอาอะไรนักหนากูจ่ายเงินก็พอแล้ว
เสร็จแล้วก็ไปลงท้ายด้วยประโยคแรกคือ “ผมเคยมาพักที่นี่คุณเช็คประวัติผมดู” อืม
ดีครับมันยากมากเลยกับการให้บัตรประชาชนหรือใบขับขี่เนี่ย
มึงขับรถเดินทางข้ามจังหวัดนี่มึงไม่คิดจะพกเอกสารราชการเลย หรือมีแต่ใบอนุญาติเข้าเมืองกูอยากจะรู้จริง ๆ
“พี่ไม่ได้กินอะไรใน
Mini Bar อะไรเลยค่ะ
“ อันนี้จะเกิดตอนเช็คเอาท์ครับ ซึ่งบางคนก็ไม่ได้กินจิง ๆ แต่บางคนกินแล้วยังเสือกหน้ามึนบอกไม่ได้กินอีก ออกแนวโรคจิตอ่ะครับ เจอแบบนี้ผมนี่อยากจะตอบกลับไปเหมือนกันว่า : ซากกระป๋องโค้ก ซากขวดน้ำ ซองช็อคโกแลตกองในถังขยะห้องพี่เต็มเลยครับ ถ้าพี่ไม่กินแล้วใครกินอ่ะครับพี่ หรือข้างๆ ห้องปีนเข้ามาแอบกินหรือเปล่า นี่ถ้าไม่เกรงใจเงิน 35 บาทค่าขนมนี่กูจะออกให้มึงเลยอ่ะ อายเค้ามั้ยเนี่ย
“เมือวานคุยกับน้องผู้ชายเค้าบอกให้
Late Check out ออกตอน 4 โมงเย็นได้ค่ะ“ เจอแบบนี้ต้องตอบไปครับว่า: ทั้งโรงแรมมีผู้ชายอยู่
200 คน คือกูจะรู้มั้ยครับเนี่ยว่าคนไหนคุยกับพี่ นี่พี่เห็นผมกินหญ้าป่ะนี่ ผมไม่ง่ายนะพี่(แต่ได้ไม่ยาก)
“น้องไม่ต้องอธิบายอะไรพี่เคยมาพักแล้วพี่รู้เอากุญแจกมา” แต่หลังจากขึ้นห้องได้ 5 นาที โทรกลับมาอย่างไว "น้อง ๆ น้ำเปล่าในตู้เย็นนี่ฟรีมั้ยครับ" เฮ่อๆ กูเชื่อมากว่ามึงเคยมาแล้ว
“ชั้นซื้ออินเตอร์เน็ตไปตอนนี้เล่นไม่ได้มีปัญหาเธอต้องคืนเงินชั้น” ปัญหาคืออะไรรู้มั้ยครับ.. ปัญหาคือมันซื้อแพ็คเกจอินเตอร์เน็ตเล่นแค่วันเดียว หมดอายุตั้งแต่ชาติที่แล้ว นี่แม่งวันที่ 3 แล้ว มันใช้ไม่ได้ก็ถูกแล้วไง มึงก็ซื้อใหม่ดีกว่ามั้ย
“พี่ขอ Late Check Out” (ตั้งแต่ยังไม่ได้เช็คอินท์)
ได้มั้ยค่ะ คือแบบอยากตอบกลับไปว่า:
ผมว่าพี่เช็คอินท์ก่อนดีมั้ยครับ นี่ยังไม่ได้ขึ้นห้องเลยนะ เซนต์เอกสาร กินน้ำกินท่าก่อนนะพี่นะ ยังไม่ได้อินท์เลยพี่จะเอาท์แล้วเหรอครับ
“ทำไมของพี่จองผ่านเว็บไซต์แล้วไม่ได้อาหารเช้าค่ะ” ทำถามสุดคลาสสิคอมตะมหานิรันดร์กาล ซึ่งโดยปกติมันจะเถียงเราอยู่อย่างนั้นแหละว่าทำไม ทำไม และทำไม โดยที่เราต้องตอบมันให้ได้ด้วยนะครับ ซึ่งจริง ๆ แม่งเป็นเรื่องของเว็บต์ไซต์นะเนี่ย แต่แม่งมาเหวี่ยงกรูทำไมเนี่ย สักวันทนไม่ไหวคงตอบกลับไปครับว่า : คุณพี่ครับตอนมึงจองเนี่ย กูไปนั่งอยู่กับเมิงครับ มึงจองเอง จ่ายเงินเอง เลือกแพ็คเกจเอง แล้วเสือไม่อ่านเงื่อนไขละพี่ แถมอธิบายง่าย ๆ ยังไม่ยอมเข้าใจ สุดท้ายคืออยากได้อาหารเช้าฟรี
“อัพเกรดฟรีให้พี่ได้มั้ยค่ะ” (อยากตอบกลับไปว่า : พี่ช่วยเหลือกตาดูราคาที่จองมาและประเภทห้องของพี่นิดนึงน๊ะคับ
จ่ายสองพันเสือกจะอยู่ห้องสองหมื่น นี่หน้าพี่ทำด้วยกระเบื้องตราช้างป่ะครับ
“พี่รู้จัก
GM ค่ะ” เสร็จแล้วก็ขอราคาถูก ๆ ... แหม่่ วันนึงเนี่ยมีคนรู้จัก GM ไม่น้อยกว่า 10 คน อยากถามกลับสักคำแล้ว GM เค้ารู้จักพี่มััยคับ
“ทำไมห้องมองไม่ค่อยเห็นทะเลค่ะ” สุดยอดประโยคร้องขอ แม้บางทีห้องที่แม่งได้จะอยู่ชั้นสูงสุดของโรงแรมแล้วก็ตาม แม่งก็ยังด่าด้้วยสาเหตุว่าอยากได้อะไรฟรีหรือมีห้องใหม่ได้ยิ่งดีเลย เจอพวกนี้อยากบอกว่า "โทษครับพี่ สูงกว่านี้ก็มีครับ ดาดฟ้าสวีท ทั้งชั้นของพี่คนเดียวเลยครับ สูงโคตรๆ เห็นทะเลแบบ 360 องศากันเลยทีเดียว
"ถ้าอยู่ต่อขอราคาเดิมได้มั้ยคะ".อยากบอกว่าร้อยทั้งร้อยที่มาแบบนี้ ถ้ากรูตอบไม่ได้มึงก็เอาจนได้แหละอิฟายเผือก
ก็ผ่านไปแล้วนะครับประโยคที่เจอและเป็นปัญหาบ่อยๆ
ซึ่งจริงๆ
มันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรมากหรอกครับถ้าแขกเข้าใจในคำอธิบายของพนักงานแต่ส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจหรือไม่อยากเข้าใจน่ะซิ