วันพุธที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2557

ตอน "บุฟเฟต์น่ะมึงเข้าใจไหม"



วันนี้เสนอตอน "บุฟเฟต์น่ะมึงเข้าใจไหม"

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันหนึ่งปรากฏร่างของครอบครัวจากแดนภารตะโรตี ส่าหรี๋ลี้รัก เดินจ้ำพรวด ๆ เข้ามาที่ห้องอาหารซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาอาหารเช้าแต่คาดว่ามันน่าจะอยุ่ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง เฮ้ยไม่ใช่!!! ก่อนการให้เวลารับประทานอาหารที่ใกล้จะหมดลงทุกที พอมาถึงนั่งลงปุ๊บสองคนแรกทำหน้าที่ดึงสโตรกเปิดตัวด้วยการรีบหยิบขนมปังยัดๆๆๆๆๆๆใส่จานคะเนจากสายตาน่าจะประมาณ 8 แผ่นได้ นี่ยังไม่นับที่อยู่ในเตาอบอีก 4 (แม่เจ้านี่สาบานว่ามึงกินนะนี่) ส่วนอีก 2 คนก็ทำตัวเหมือนกำลังเดินเฉิดฉายอยู่ในสวนผลไม้ พี่แกเดินหน้าจ้วงแหลกทั้งแตงโม สัปปะรด แคนตาลูป ตบท้ายด้วยไข่ดาวอีก 5 ฟองโป๊ะบนผลไม้ (คือกรูยังคิดไม่ออกว่าผลไม้ที่เป็นอาหารหวานกับไข่ที่เป็นอาหารคาว มันเอาไปฟีทเจอร์ริ่งกันได้ไงวะมึงจะแยกจานหน่อยก็ไม่ได้) สักพักผ่านไป 5 นาทีเหลือบไปมองอีกที โอ้ววววววบนโต๊ะของชนกลุ่มนี้เต็มไปด้วยอาหารปานว่าโต๊ะจีนยังไงยังงั้น ทั้งคาวหวานพร้อมเพรียง ยังไม่นับเครื่องดื่มทั้งนมสด น้ำผลไม้ อีกวางเรียงกันดูจากปริมาณนี่กูว่ามึงน่าจะกินได้สักสิบคนนะนี่ ใหญ่โตมโหฬาลจะฝรั่งโต๊ะขัาง ๆ แทบอดใจไม่ไหวลงบันทึกในกินเนสบุ๊คให้ สักพักก็ลงมือกินกันอย่างเร่งรีบครับ ไม่รู้มันจะทำเวลาไปไหนเหลือเวลาอีกตั้ง 20 นาที จ้วงเอาๆ ผ่านไปจนครบกำหนดเวลาอาหารเช้าทีนี้พนักงานห้องอาหารก็เข้าไปเก็บของเคลียร์จานครับ สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น พวกเขาทั้งหลายลุกจากโต๊ะครับแต่ไม่ได้ลุกตัวเปล่าครับ เอาอาหารที่ยังกินไม่หมดเดินหอบออกมาด้วยปานว่าจะไปกินบนห้องกันเลยทีเดียว เฮ้ยนี่มันคืออัลไล ร้อนถึงพนักงานห้องอาหารต้องรีบเข้ามาแบรกตัวโก่งว่า "you เอาไปกินบนห้องไม่ได้นะ นี่มันอนุญาติให้กินเฉพาะห้องอาหาร (ถ้าทุกคนเอาไปกินที่ห้องได้กูว่ามึงไม่ต้องลงมากินกันแล้วแหละอาหารเช้าเนี่ย)" และเหมือนกับฟ้าได้กำหนดไว้ พลันที่ได้ยินคำว่า "ไม่ได้เท่านั้นแหละ" มาเลยครับคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษลิ้นกระดกกระทบเพดาน เรือเป็นเรือ ลิงเป็นลิง ชัดเจนครับ รัวจนจับใจความไม่ได้พูดจนพนักงาน งง แม่งทำได้ไงวะ และก็เป็นไปตามที่คาดครับพนักงานห้องอาหารเดินมาที่ "หน้าฟร้อนท์ครับ" (เพราะมึงคือทุกอย่างของโรงแรม อะไรยังไงไม่รู้กูพาแขกมาที่นี่ไว้ก่อน 555) งานก็เข้า Dury Manager ซิครับทีนี้ ก็อธิบายกันใหญ่เลยนี่ถ้าไม่เกรงใจว่าจะทำเป็น Power point เอาไป present ให้มันดูด้วยนะนี่ มันก็ยังเถียงนะครับว่า "ทำไมฉันจ่ายค่าอาหารมาฉันก็เอาไปกินได้ซิ" ผมก็พยายามอธิบายครับว่า "ใช่ ยูจ่ายมา แต่คนอื่นเขาก็จ่ายมาเหมือนกันเขายังกินได้แค่ในห้องอาหารเลย (ออกแนวจิกกัดว่า มึงอย่าเยอะไรเงี๊ยะ" มันก็ยังไม่ยอมครับหันหน้าหนีแล้วจะรีบเดินขึ้นลิฟท์เลยครับ ผมเลยใช้ท่าไม้ตายครับ ด้วยปกติแขกทุกคนจะโดนมนต์สะกดเสมอเมื่อได้ยินคำว่า "ต้องจ่ายเพิ่ม", "เสียเงินเพิ่ม", สำหรับคนไทย และคำว่า "Charge More" สำหรับชาวต่างชาติ ผมเลยบอกแกไปว่า Ok You เอาไปได้นะแต่ I จะ Charge เพิ่มเข้าไปกับค่าห้องยูละกันเพราะถือว่ายูสั่งเป็น Room Service. เท่านั้นแหละครับเหมือนต้องมนต์สะกดหยุดแทบไม่ทัน สี่คนพ่อแม่ลูกหันหน้าปรึกษากันงุบงิบๆ ว่าเราจะเอาไงดีวะ จะวัดดวงไหม สักพักเหมือนอดไม่ไหวเดินเอาอาหารไปเก็บไว้ที่ห้องอาหารตามเดิม แต่ก่อนขึ้นห้องมีหันมาตะโกนใส่ผมอีกครับ "Your Hotel BAd Service" อ้าวเฮ้ย งง ดิกู ตกลงโรงแรมกูไม่ดีอัลไล ไฉนมึงมาด่าว่าบริการไม่ดีเนี่ย แขกคนอื่นเขาไม่เห็นมีปัญหาเลย กินเสร็จกลับขึ้นห้องถ้าจะสั่งเพิ่มก็จ่ายตังค์ มีแต่พวกท่านนี่แหละ เฮ่อ ๆ งง สรุป กรูผิดอีกแว้วววววว

บทความแนะนำ