วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2559


ตอนอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้

เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่เฮียรับสายโทรศัพท์จากน้อง “ร้ายกาจ” เอ้ย!! Lifeguard ที่โทรมาบอกว่าแขก Complain. พอเฮียรับสายและกล่าวทักทายตอนที่ยังไม่รู้ว่าเป็นใครโทรมาว่า “Front Death” เอ้ย!!! Front Desk, (ลืมไปว่า Front Death ใช้ตอนแขกเยอะๆ ที่ไม่มีเวลากินข้าว ไปเยี่ยว ไปขี้ แทบจะยืนตายหน้า Lobby ทั้งวัน) how may I help you? น้องปลายสายมันก็บอกว่า “เฮียครับ พอดีแขกประสบอุบัติเหตุครับ แล้วเค้าก็ Complain ว่าโรงแรมผิดครับเฮียๆ ช่วยมาพบลูกค้าหน่อยนะครับ” พอเห็นว่าเป็นอุบัติเหตุเฮียก็รีบหยิบ First Aid พุ่งตรงไปที่สระว่างน้ำทันที ก็เจอแขกมีแผลถลอกเล็กน้อยที่หน้าแข้ง เฮียก็จัดการให้น้องมันปฐมพยาบาลก่อน (จริงๆ ที่สระเค้าก็มี First Aid) อยู่แล้วแหละนะแต่เฮียหยิบไปกันเหนียว เผื่ออะไรหมดกะทันหัน เช่น เบตาดีน หรือ แอลกอฮอล์ ระหว่างนั้นเฮียก็ถามไอ้น้องอีกคนว่าเกิดอะไรขึ้น มันก็เล่าให้ฟังว่า

แขกจะกระโดดน้ำ ทีนี้สระว่ายน้ำเนี่ย มันก็มีป้ายบอกอยู่แล้วว่า No Jump, เพราะมันรบกวนคนอื่นๆ และอันตราย ซึ่งไอ้น้องมันก็อธิบายตามหน้าที่ของมันเพราะพื้นสระน้ำก็รู้ๆ กันอยู่แม้มันจะเป็นทรายล้างแต่ก็ยังลื่น เกิดหกล้มหัวฟาดตายห่ามาจะลำบากญาติพี่น้องอีก ทีนี้ต่อหน้าพี่แกก็ “OK” ซึ่งแม่งก็ OK ตลอดแหละพวกไม่ชอบฟังคำเตือนพนักงานเนี่ย

และหลังจากไอ้น้องนี้กลับหลังหันไปแป๊บเดียวได้ยินเสียงตู้ม!!!! ก็อย่างที่คิดนั่นแหละ พี่แกอยากลองของเลยกระโดดแม่งลงสระเลย พอขึ้นจากน้ำเท่านั้นแหละรีบขึ้นมาบนสระเลย ปรากกว่าหน้าแข้งไปขูดกับขอบสระเพราะพี่แกเล่นท่ากลับหลังหันกระโดด น้องมันก็เลยรีบเข้ามาดูแต่แทนที่จะสำนึกพี่แกก็จะขอ Complain โรงแรม

เฮียเลยเข้าไปสอบถามอาการพอเห็นว่าทำแผลเสร็จแล้ว แทนที่จะ Thank you หรือแสดงให้เห็นสักนิดก็ได้ว่าขอบใจและ “กูสำนึกผิดแล้ว” เปล่า.....แม่งด่าโรงแรมว่า “You swimming pool design too bad” อ้าว สาดดด โทษสระกูออกแบบไม่ดีอีก ทีนี้เฮียก็นิ่งเว้ยปล่อยให้พี่แกพูดให้จบ ทีนี้แกมาต่อว่า “I want to go to the Hospital. You have to responsible my bill” เยี่ยม!!! จะไปโรงพยาบาลและให้โรงแรมจ่ายให้ และดูเหมือนมันจะพูดจบแล้วเฮียเลยถามว่า “Do you feel pain?” พี่แกตอบมาว่า “No, I’m fine. Just want to go to the Hospital. Your hotel must responsible.” คราวนี้ดูท่าว่าไม่น่าจะคุยกันรู้เรื่องและ เฮียเลยอธิบายแบบวิชาการใส่สาระเต็มแปลเป็นไทยว่า “พนักงานชั้นเตือนยูแล้วนะว่าอย่ากระโดดมันอันตราย และเรายังมีป้ายเตือนว่า ห้ามกระโดด อีกต่างหากแล้วก็ชี้ให้ดูที่ป้ายซึ่งก็อยู่หน้าพี่แกนี่แหละ ยูก็น่าจะทราบ” แล้วก็ตบด้วยคำถามมันอีกว่า “แล้วทำไมยูยังกระโดดล่ะทั้งๆ ที่รู้ว่าอันตรายและเราก็เตือนแล้ว” พี่แกเงียบไป เฮียเลยจัดก๊อกสอง “ถ้ายูอยากไปโรงพยาบาลก็ได้ไม่มีปัญหาชั้นพาไปได้ แต่ถ้ายูจะให้รับผิดชอบค่ารักษา ชั้นว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับโรงแรมนะ”

พี่แกก็เงียบไปพักนึงเหมือนนึกอะไรไม่ออกเลยบอกว่า “If you not take me to the Hospital. I will report to the Police” เฮียเลยบอกว่า “ชั้นไม่ได้บอกว่าจะไม่พายูไปโรงพยาบาล แต่ชั้นคิดว่ามันไม่ยุติธรรมที่จะให้โรงแรมชั้นรับผิดชอบ เพราะเราเตือนยูแล้ว ถ้ายูอยากไปแจ้งตำรวจชั้นจะพาไป แต่ชั้นก็มั่นใจว่าเรามีหลักฐานว่าเราไม่ได้ทำผิด”

คราวนี้พี่แกก็เงียบเว้ยแล้วก็มองหน้าเฮีย มองหน้าน้องแบบอาฆาต จากนั้นก็ลุกพรวดแล้วเดินจากไปแบบอารมณ์เสีย ก่อนไปเฮียก็ยังถามแกไล่หลังว่า “ยูจะไปโรงพยาบาลไหม” ไม่มีเสียงตอบ เพราะแกเอาแต่เดินจ้ำพรวดๆ ขึ้นห้องไป ถึงอย่างไรเฮียก็แจ้งน้องๆ Front Death กับ ทุกๆ แผนกไว้ให้สังเกตอาการณ์เวลาเจอแขกคนนี้ดีๆ เพราะไม่แน่ใจว่าขาพี่แกจะเป็นอย่างไรบ้างและให้ Operator คอยโทรถามอาการเรื่อยๆ..... เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าเวลาพนักงานเตือนอะไรก็ให้ฟังกันบ้างอย่าดันทุรังนัก

บทความแนะนำ