วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ตอน สป๊า สปา

ตอน สป๊า สปา

 เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่เฮียไปรับงานช่วยจากแผนกสปามางานหนึ่ง เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อพี่ Spa Manager แกเพิ่งมาทำงานใหม่แล้วก็ยังไม่ค่อยในใจในการจัดการปัญหาก็เลยโทรมาขอคำปรึกษาเฮียที่เป็น AFOM ว่าจะแก้ไขปัญหาแบบที่แกคิดได้ไหม? เนื่องจากว่าด้วยความที่แกมาใหม่บางครั้งถ้าทำการแก้ปัญหาอะไรไปเหมือนที่ทำกับที่ทำงานเดิมสำหรับที่ทำงานใหม่มันอาจทำให้แกเกิดปัญหาได้ซึ่งรายละเอียดตรงนี้เฮียคาดว่าบางคนรวมทั้งเฮียด้วยจะเป็นเวลาที่ย้ายที่ทำงานใหม่และยิ่งไปในตำแหน่งที่ต้องเป็น Decision maker ด้วยแล้วมันจะมีบ้างที่ลังเลว่า “ทำอย่างนี้ได้ไหม อย่างนั้นได้ไหม” และต้องหาเจ้าที่สักคนเป็นที่พึ่ง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่พี่เค้าเป็นอยู่ตอนนี้

เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อมีแขกคนหนึ่งไป Complain กับพี่เค้าว่า Therapist ไปนวดแกผิดท่าแล้วทำให้แกปวดหัวไหล่ พอได้รับแจ้งจากพี่เค้าเฮียก็ลงไปที่ Spa เพื่อที่จะไปคุยกับพี่เค้า ไปถึงก็เจอพี่เค้ากำลังนั่งอยู่กับ Therapist คนที่แขกคนนี้อ้างว่าไปนวดแกจนเจ็บว่าแล้วเฮียก็ทักทายแขกแล้วก็หันมาสอบถามรายละเอียดกับพี่สปาเค้า พี่เค้าก็เล่าให้ฟังว่าแขกคนนี้มานวด Oil พนักงานก็นวดตามปกติและมาตรฐานทั่วไปที่ทำกันอยู่แล้วคือก่อนนวดและในระหว่างที่นวด Therapist เค้าก็จะถามตลอดว่า “เจ็บไหม? เบาลง? แรงขึ้น อีกไหม?” เพื่อให้แขกรู้สึกสบายและผ่อนคลายที่สุดตามความหมายของการใช้ Spa ซึ่งแขกคนนี้เค้าก็บอกว่า OK ไม่ได้มีปัญหาอะไรก็นวดกันไปจบจบคอร์ส 120 นาทีแล้วก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมา แต่พอถึงตอนจะเซ็นบิลนี่แหละถึงบอกว่า “พนักงานนวดใหล่แรงจนทำแกปวด” และจะไม่ขอจ่ายค่านวด และก็คงไม่ต้องเดาว่าพี่แกต้องการให้ทาง Spa รับผิดชอบโดยการ “นวดฟรี” ทีนี้พี่ Spa Manager เค้าก็ไม่ยอมและน้อง Therapist เค้าก็ยืนยันแน่นอนเอาตำแหน่งและใบ Warning เป็นเดิม(สอง)พัน เลยว่า “เค้าถามแขกตลอดว่าแรงไปไหม? เบาไปไหม? และแขกก็ตอบว่า OK ทุกครั้ง” คือเอาจริงๆ คนอย่างเราๆ ก็รู้อยู่แล้วแหละนะว่าความเบาและแรงของการรองรับการนวดแต่ละคนไม่เหมือนกันพี่อินบางคนชอบนวดแรงๆ ยิ่งแรงยิ่งชอบบางทีนวดจน Therapist กล้ามขึ้นเป็นมัดๆ แต่แขกลุงแซมบางคนก็ชอบให้นวดเบาๆ เรื่อยๆ สบายๆ คนละเรื่องกับพี่อิน

ซึ่งความชอบและความพอดีของแต่ละคนมันต่างกัน นี่เลยเป็นเหตุผลว่า Therapist เค้าก็จะต้องคอยถามตลอดว่าเบาไปหรือแรงไปไหม? แต่แขกบางคนเค้าก็จะบอกให้เองเลยว่า “เอาแรงๆ” ซึ่งแม้แขกจะบอกแต่เวลานวดจริงมันก็ต้องคอยถามอยู่ดีเพราะเราไม่รู้ว่า “คำว่าแรงนั้นมันต้องแรงแค่ไหน?” ตัดกลับมาที่เคสนี้ เฮียก็เลยบอกพี่ Spa Manager ว่า “นี่เป็น Area พี่ๆ ตัดสินใจได้เลยครับ” คือมันเป็นมารยาทในการทำงานน่ะนะจะให้เราไปตัดสินแทนเจ้าของพื้นที่มันก็ไม่ควรเพราะบางคนเค้าถือว่า “นี่พื้นที่เขา เราเป็นใครมาตัดสินใจส่งเดช” แต่บางคนก็สบายๆ ก็มี เฮียก็บอกพี่เค้าไปว่า “ถ้าพี่มีอะไรให้ช่วยก็บอกผมละกันครับ” จังหวะที่คุยกับพี่ Spa เสร็จอยู่ดีๆ เหมือนหวยมาออกที่เฮียเพราะแขกหันมาคุยกับเฮียว่า “Are you a Manager?” เฮียก็ตอบไปว่า “Yes I am” แล้วแกก็เล่นใหญ่ใส่ชฏาเปิดตัวอลังการงานสร้างมาเลยว่า “แกเจ็บแบบนั้นแบบนี้ พนักงานนวดแรงอย่างนั้นอย่างนี้” ปิดท้ายด้วย “I think, I should go to the Hospital. I feel pain.” เฮียก็หันไปมองพี่ Spa Manager แล้วบอกว่า “เดี๋ยวผมคุยให้นะครับเคสนี้” พี่แกก็ OK ไม่มีปัญหาแล้วแต่เฮีย

ว่าแล้วเฮียก็เลยเปิดไปดอกแรกว่า “ตอนที่พนักงานชั้นนวดยู เค้าถามยูใช่ไหมว่าเจ็บหรือเปล่า” แขกก็นิ่งไปพักนึง จังหวะนี้เฮียเลยใส่ต่อว่า “ยูช่วยบอกชั้นหน่อยนะว่าเค้าถามหรือเปล่าเพราะ Standard ของเราคือต้องถามแขกทุกครั้งว่าเจ็บไหมเพื่อจะได้นวดให้เบาลงไม่ให้แขกรู้สึกเจ็บ ถ้าพนักงานชั้นไม่ได้แจ้งยู ชั้นจะได้ลงโทษเค้าเดี๋ยวนี้แหละ” คราวนี้พี่แกเหมือนยังมีสำนึกอยู่บ้างเลยตอบกลับมาว่า “ใช่เค้าถาม” แต่ก็ยังแถไป “แต่ตอนนี้ชั้นปวดหัวไหล่ซึ่งมันก็น่าจะมาจากการนวดนี่แหละ ยูควรรับผิดชอบและชั้นไม่ต้องการจะจ่ายบิลนี้” Ok ตอนนี้รู้เจตนารมย์พี่แกและ เฮียก็เลยจัดท่าไม้ตายว่า “เอาแบบนี้แล้วกันยูไปโรงพยาบาลตามที่ยูบอกนะแล้วชั้นขอใบรับรองแพทย์ที่ยูไปหามานะ ถ้าหากว่าหัวไหล่ยูบาดเจ็บจริงๆ ชั้นจะ Compensate ให้ยูไม่ต้องจ่ายบิลนี้ แต่ถ้ายูไม่เป็นอะไรชั้นต้องขอ Charge บิลนี้เต็มจำนวนนะ” เงียบเลยทีนี้แล้วก็เริ่มโมโหจับปากกามาเซ็นบิลแล้วก็วางกระแทกลงบนแผ่นกระดาษก่อนเดินออกไปแบบหงุดหงิด

แต่หลังจากนั้นเชื่อมั้ยว่าวันรุ่งขึ้นพี่แกก็มานวดอีกเหมือนเดิม คอร์สเดิม เวลาเดิมเป๊ะ แต่คราวนี้พี่ Spa กับน้อง Therapist เค้าไม่พลาดเพราะถามตลอดตั้งแต่ก่อนจองและให้ลองนวดไหล่หน้า Counter ให้ดูเพื่อหาแรงกดที่เค้าคิดว่าสบายที่สุดและให้พี่ Spa Manager เป็นพยานว่าเค้าชอบระดับนี้แม้จะวัดอะไรจากสายตามากไม่ได้แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ป้องกันอะไรเลย ซึ่งครั้งที่สองนี้ไม่มีปัญหาอะไรเหตุการณ์ผ่านไปด้วยดี ..กะว่าจะได้ฟรีสักครั้งแต่สุดท้ายก็ต้องจ่ายสองครั้งเหมือนแขกปกติทั่วไปนั่นแหละถูกแล้ว


ไม่มีความคิดเห็น:

บทความแนะนำ