วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2556
ตอน The Net สัญญาณอินเตอร์เน็ตนรก
ตอน The Net สัญญาณอินเตอร์เน็ตนรก
เรื่องเริ่มต้นขึ้น ณ เวลาประมาณ 3
ทุ่มเห็นจะได้ไม่ขาดไม่เกินครับ ผมได้รับแจ้งจากทางน้อง Operator
ว่ามีแขกห้องหนึ่งไม่สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ เนื่องจากว่าเขาเชื่อมต่อ
สัญญาณแล้วมีปัญหาการ connect ระหว่างสัญญาณอินเตอร์เน็ตของโรงแรมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของเขา
ทันทีที่ได้รับรายละเอียดปัญหาเนี่ยนะครับจากประสบการณ์อันน้อยนิดของผมที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการไอทีและเคยได้รับการบอกเล่าจากเหล่าพนักงาน
IT ต่าง ๆ กรณีที่แขกไม่สามารถต่อสัญาณกับอินเตอร์เน็ตได้เนี่ยจะมีอยู่หลัก ๆ 2
ปัญหาครับอันดับแรกคือแขกเปิด Firewall ซึ่งเป็นโปรแกรมต่อต้านไว้รัส ไว้ในระดับที่สูงมั่ก พอ ๆ กับตึกใบหยก 2 ตึกต่อรวมกันซึ่งทำให้ ระบบการให้บริการเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตของทางโรงแรมเนี่ยไม่สามารถ เข้าไปทำการเชื่อมต่อกับตัวเครื่องของแขกได้เพราะระบบดังกล่าว จะทำการป้องกันการเชื่อมต่อสัญญาณที่นอกเหนือจากที่แขกได้เคยทำการเชื่อมต่อมา
เช่น แขกเคยเล่นอินเตอร์เน็ตที่บ้านหรือที่ทำงานและใช้การเชื่อมต่อผ่านระบบอินเตอร์เน็ตของที่บ้านหรือที่ทำงานโปรแกรม
Firewall (ไม่ใช่กำแพงไฟนะ)ได้ทำการบันทึกและตรวจสอบเรียบร้อยแล้วว่า “เออ มึงผ่านมาเชื่อมกับกูได้เลย ไม่มีไวรัสนี่ เค ๆ เข้ามาเลย”
แต่กลับกันพอเวลาที่แขกมาพักที่โรงแรมโปรแกรม Firewall
ยังไม่เคยได้ตรวจสอบระบบของทางโรงแรม ว่ามีไวรัสหรือเปล่า
หรือมีแนวโน้มการเชื่อมต่อเพื่อขโมยข้อมูล ในคอมพิวเตอร์ของแขกจำพวก
เอกสาร ไฟล์ ภาพหรือคลิ๊ปต่าง ๆ มั้ย ทีนี้มันก็จะไม่ยอมรับการเชื่อมต่อครับหรือออกแนวไล่เลยว่า “อย่ามานะตัวเอง เค้าไม่รู้จัก ไปไกล ๆ เลย ชิ้ว ๆ”
ทีนี้ถ้าเกิดแขกจะทำการเชื่อมต่อเนี่ยแขกจะต้องทำการลดระดับความสัมพันธ์
เอ้ย ไม่ใช่ ลดระดับการป้องกันของ Firewall จากระดับสูงปี๊ดเท่าตึกใบหยกมาเป็นระดับกลางพอ
ๆ กับเสาไฟฟ้าหรือระดับต่ำสุดพอ ๆ กับกำแพงหมู่บ้านแทนเพื่อให้โปรแกรม
Firewall ลดตัว เอ้ย ระดับความเข้มข้นของการตรวจสอบจากวรรณะที่สูงกว่ามาสู่วรรณะที่เท่าเทียมกันทางสังคม
และอนุญาติให้คอมพิวเตอร์ จัดการเชื่อมต่อกับระบบ อินเตอร์เน็ต ของทางโรงแรม ได้
ส่วนกรณีที่สองที่ทำให้แขกไม่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ก็คือแขกที่ใช้คอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คที่เป็นของบริษัทซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแขก
Corporate ที่มาอาศัยและทำงานในเมืองไทย ประมาณว่าบริษัทต่างชาติที่มีสาขาอยู่ในเมืองไทยส่งตัว
มาดูแลกิจการในไทยแล้วทางบริษัทเอาโน๊ตบุ๊คมาไว้ให้ใช้ทำงาน
(แต่บางทีกูก็เห็นแอบดูรูปสาวกันนะโว้ย)
ซึ่งในกรณีนี้ทางบริษัทจะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สูงมั่ก ๆ ถึงมากที่สุด
โคตรพ่อโคตรแม่ระบบรักษาความปลอดภัยปานว่ากลัวใครจะมาจารกรรมข้อมูลแห่งชาติเพราะเนื่องจากในคอมพิวเตอร์ที่แขกนำมาใช้นั้น เป็นของบริษัทซึ่งมีข้อมูลทางการค้าและรายละเอียดมากมายร้อยแปดอย่างที่เกรงว่าหากคู่แข่งทางการค้าได้ไปอาจเป็นอันตรายต่อกิจการของตัวเองถึงขั้นล้มละลายได้เลยนะเว้ย
ปกติถ้าแขกใช้คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อ กับระบบอินเตอร์เน็ตที่โรงงานหรือที่บริษัทก็จะสามารถใช้งานได้ปกติเพราะไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาล้วงลับตับแตกข้อมูลอะไร
หรือถ้าโดนล้วงไปก็สามารถตรวจสอบได้ว่าใครเอาไป เอาไปที่ไหน เอาไปเมื่อไหร่
และวันไหนจะเอามาคืน
แต่กลับกันเมื่อแขกมาใช้งานที่โรงแรมแล้วจะเชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ตของทางโรงแรม
คอมพิวเตอร์ของแขกจะทำการล็อคสัญญาณและปฏิเสธการเชื่อมต่อทุกกรณีแบบไม่ต้องเสนอหน้ามาเลยนะกูไม่เอา
เนื่องด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวแขกคนเดียวแต่มันรวมถึงบริษัททั้งบริษัท
ทีนี้ถ้าเกิดเวลาที่แขกจำเป็นจะต้องใช้จริง ๆ ประมาณว่าทำงานไม่เสร็จในเวลาเพราะอู้บ่อยประเภท
เช้าสาย บ่ายหลับ กลับเร็ว จนต้องหอบงานเอากลับมาทำต่อหลังเลิกงาน
แขกก็จะต้องแจ้งให้บริษัททราบเพื่อทำการตรวจสอบสัญญาณของทางโรงแรมก่อนว่าปลอดภัยต่อการแฮ็คข้อมูลหรือมีไวรัสอะไรแอบแฝงมาหรือเปล่า
ก่อนที่จะทำการปลดล็อคเพื่อให้คอมพิวเตอร์ของแขกสามารถเชื่อมต่อกับสัญญาณอินเตอร์เน็ตของทางโรงแรมได้
สำหรับทางแก้ไขปัญหานี้เนี่ยสำหรับกรณีแขกที่มีปัญหาการเชื่อมต่อเคสแรกที่เกิดจาก
Firewall เนี่ยไม่ค่อยมีปัญหามากเท่าไหร่เพราะแขกพอจะเข้าใจ ได้เวลาที่เราอธิบายให้เขาฟังว่าทำไมเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่ได้ ที่สำคัญมันสามารถแก้ไขได้ทันทีและรวดเร็วโดยไม่ต้องรอแผนก
IT (ที่บางทีตามตัวยากมากหรือบางทีปัญหาชอบเกิดหลังจากที่ พวกเขาเลิกงานไปแล้ว)
แต่ปัญหาการเชื่อมต่อไม่ได้ในกรณีที่สองเนี่ยอันนี้อาจต้องอธิบายกันยาวเป็นมหากาพย์ไตรภาคกันเลยทีเดียวว่าทำไมถึงเข้าอินเตอร์เน็ตไม่ได้แล้วยิ่งแขกบางคนพูดภาษอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรงแล้วด้วยเนี่ย
ยาวครับงานนี้ร้อยทั้งร้อยแขกชอบคิดว่า “ทำไมตอนอยู่บริษัทชั้นยังใช้งานได้เลย
ทำไมโรงแรมยูใช้ไม่ได้” หรือไม่ก็ชอบถามย้อน
“ทำไมต้องติดต่อบริษัทให้ปลดสัญญาณด้วย ใช้เลยไม่ได้หรือไง” ซึ่งกว่าจะอธิบายให้เข้าใจได้เนี่ยต้องใช้เวลานานถึงนานมาก
อธิบายกันจนบางทีไม่เข้าใจทะเลาะกันไปก็มี
ที่สำคัญศัพท์ที่ใช้เวลาอธิบายเนี่ยก็เป็นภาษาคอมพิวเตอร์แขกบางคนก็ไม่เข้าใจ
ไอ้ครั้นจะหาคำอื่นมาอธิบายก็คิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะพูดยังไง
กรณีที่ผมเจอวันนี้เนี่ยหลังจากที่ได้รับแจ้งปัญหาผมก็จัดการไปหยิบ
Correspondance ของแขกมาดูก่อนว่าเป็นใครมาจากไหน เชื้อชาติอะไรเป็นแขก
corporate หรือเปล่าหลังจากตรวจสอบรายละเอียดแขกแล้วก็ไม่พบ ปัญหาการทุจริตใด ๆ
ครับ แต่มันทำให้ผมทราบว่าแขกไม่ใช่แขก Corporate แต่ที่หนักกว่านั้นครับ
แม่งเป็นเจ้าของบริษัทเลยครับแถมอยู่เป็นเดือนอีกต่างหาก เอาแล้วซิกู
ไปไงดีวะเนี่ยนี่ก็ 3 ทุ่มและ IT แม่งกลับบ้านไปหมดแล้วด้วยจะหันหน้าไป
พึ่งใครดีวะเดินไปไหว้ศาลหน้าโรงแรมนี่ท่านจะออกมาช่วยกูได้มั้ยวะเนี่ย
ตัวกูเองแม่งก็ไม่ได้เซียนคอมพิวเตอร์ซะด้วย ขณะที่กำลังคิดหาทางออกอยู่นั้นน้อง
GSA ที่เข้ารอบด้วยกันได้รับสายโทรศัพท์สายหนึ่ง โทรตรงลงมาที่
counter เลยครับ และเหมือนฟ้าเป็นใจก่อนที่น้อง GSA จะวางหูไปผมได้ยินประโยคคลาสสิคสุดยอดอมตะนิรันดร์การ “ Of course
sir! My Manager will call your back. Sorry for your inconvenience” ประมาณว่า “เดี๋ยวชั้นให้ผู้จัดการโทรกลับนะตัวเอง” เฮ่อ ๆ
รับประกันได้ว่าถ้ามีประโยคนี้นำหน้าแม่งไม่ใช่เรื่องดีแน่นอนพอวางหูเสร็จมันเดินมาหาเลยครับน้องผม
“พี่ครับ แขกห้อง 1205
มีปัญหาเรื่องอินเตอร์เน็ตต่อไม่ได้ครับเขาบอกว่าแจ้งมาแล้วยังไม่มีใครขึ้นไปเลยพี่”
อยากบอกมันกลับไปเหลื๊อเกินว่า
กูเนี่ยก็อยากรีบขึ้นไปหรอกนะถ้าเกิดว่ากูเนี่ยเกิดมาเป็นลูก บิล เกตต์
ที่แม่งรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ทู้กเรื่องแต่เนี่ยกูเป็นแค่พนักงานโรงแรมธรรมดาเนี่ย
แล้วแม่งจะเอาข้อมูลเรื่องคอมพิวเตอร์อะไรไปช่วยแขกวะ แต่จนแล้วจนรอดผมก็ต้องรีบขึ้นไปครับเพราะไม่ว่าจะยังไงต้องให้แขกเห็นหน้าก่อนเดี๋ยวหาว่าไม่สนใจ
(ขี้งอนนะมึงเนี่ย) ไปถึงผมก็เคาะประตูห้องเลยครับพร้อมทำท่าทางให้น่าเชื่อถือมาก
ออกแนวมืออาชีพเลย แขกก็เดินมาเปิดประตูให้เสร็จเรียบร้อยพอเข้าไปในห้องครับ
แม่เจ้า นี่กูนึกว่ากูอยู่ในสำนักงาน google
หรือเปล่าวะเนี่ย นี่มึงมาพักผ่อนหรือมึงย้ายสำนักงานมาไว้ที่โรงแรมกูวะ
บนโต๊ะในห้องตอนนี้ประกอบด้วย โน๊ตบุ๊ค 4 ตัวแถม 1 ในนั้นเป็นของ Apple
ที่มีระบบปฏิบัติการ IOS ซึ่งเป็นการใช้เฉพาะกลุ่มและขอบอกว่า “กูไม่ใช่
1 ในกลุ่มนั้นแน่เพราะนอกจากไม่มีเงินซื้อของยี่ห้อนี่ที่แพงบรรลัยแล้ว
โปรแกรมนี้เนี่ยไม่เคยผ่านตาผ่านใจหรือผ่านมือมาก่อน
ฉะนั้นความรู้โปรแกรมนี้จึงเป็นศูนย์ไปโดยปริยาย”
เท่านั้นไม่พอยังมีโทรศัพท์มือถือ Smart phone อีก 3 เครื่องออนไลน์อยู่ โอ้โหนี่มึงเป็นเจ้าพ่อ กสท. ป่ะเนี่ย
ช่วงที่กำลังตะลึงตึงตึงอยู่นั้นแกก็เดินมาหาเลยครับแล้วก็จัดเต็มครับบรรยายหมดว่าปัญหามันเป็นอะไร
ยังไง ที่ไหน เมื่อไหร่ แล้วจะเอายังไง ที่สำคัญแกบอกว่า
“ชั้นเสียเงินไปกับการเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่ได้ที่โรงแรมเธอเป็นหมื่น ๆ
เหรียญแล้วนะ” เอาแล้วซิครับมีปัญหาไม่พอยังมากดดันกูอีก IT กูเป็น
Manager ก็จริงแต่ก็ไม่ได้ Got Talent
เก่งแม่งทุกอย่างซะด้วย ส่วนไอ้คนที่รู้เรื่องและทำได้แม่งก็กลับบ้านไปหมดแล้วด้วยโทรหา
ก็เสือกไม่รับสักคน ความรู้คอมพิวเตอร์กูก็มีเพียงแค่ชั้นป.4
ซึ่งถ้าดูแล้วเนี่ยไม่น่าจะแก้ปัญหาให้มึงได้เลย แต่ก็ยังใจดีสู้เสือครับผมก็เริ่มต้นเช็ค
Firewall ของคอมพิวเตอร์ทุกตัวว่าอยู่ในระดับใดไอ้เครื่องอื่นเนี่ยไม่มีปัญหาครับ แต่พอมาเจอไอ้เครื่อง Apple ใบ้แดกส์ครับพี่น้องไปไม่เป็นเลยครับจะกดตรงไหน จะพิมพ์ยังไง Program
อยู่ที่ไหนไม่รู้จริงๆ ครับคิดในใจ จะบอกมันไงดีวะถ้าบอกว่าเช็คไม่เป็นเดี๋ยวมันก็หาว่ากูเชยอีก หรือถ้าดั้นด้นไปเช็คเกิดผิดพลาดคอมแม่งเจ๊งขึ้นมาสงสัยกูคงต้องกลับ บ้านนอกไปเลี้ยงควายแน่อารมณ์เหมือนขับรถไปแล้วเจอทางตันอ่ะครับไปไหนไม่ได้
แต่เมื่อคิดดีแล้วว่ายังไงก็ยังไม่อยากกลับบ้านนอกตอนนี้ ผมก็เลยบอกแกไปตรง
ๆ ครับว่า “ฉันไม่เคยใช้โน๊ตบุ๊คของ Apple นะ
เพราะฉะนั้นฉันจะไม่เช็คเครื่องนี้ให้ยูนะ ถ้ายูจะเช็คเดี๋ยวพรุ่งนี้พนักงาน IT
มาฉันจะให้เขาขึ้นมาดูให้”
เหมือนจะเป็นโชคดีอย่างเดียวในความซวยของผมครับ แกพยักหน้าแล้วเดินมาปิดโน๊ตบุ๊ค
Apple เก็บเข้ากระเป๋าพร้อมบอกว่า “Don’t worry it not important”
เอาโว้ยโชคดีไปขจัดปัญหาไปได้และ 1 แต่แม่งเหลืออีก 3 ผมเริ่มต้นเช็คระบบ
Firewall ทีละเครื่อง ๆ
ครับแล้วก็พบว่ามันถูกตั้งอยู่ในระดับปานกลางที่สามารถเชื่อม
ต่อกับระบบอินเตอร์เน็ตได้ทั่วไป ทีนี้มันก็เหลือปัญหาเดียวครับคือบางทีแกอาจจะใช้เครื่องโน๊ตบุ๊คของบริษัทอยู่ก็ได้เลยทำให้ต่อสัญญาณไม่ได้
คิดได้ผมก็เลยหันไปถามแกว่า “อันนี้ยูใช้คอมพิวเตอร์ของบริษัทหรือเปล่า”
ภาวนาให้ตอบว่าใช้ครับเพราะผมจะได้พบทางออกโดยการให้แกติดต่อกลับไปที่บริษัท
(ออกแนว ไปให้พ้นกูก่อนเป็นดี) แล้วสั่งปลดล็อคระบบเพื่อทำการเชื่อมต่อสัญญาณ
แต่คำตอบที่ได้มาจากแกทำให้ผมแทบจะโดดตึกตายครับ “No I’m not. This is my
personal computer” หมายความแว่
อันนี้อ่ะคอมกูส่วนตัวโว้ยสาดดดซื้อเองไรเองรวยไงมึง ไม่ใช่ของบริษัท จบครับ จบเลย
เอาไงล่ะกู สัญญาณอินเตอร์เน็ตโรงแรมก็ปกติ Firewall
ก็ปกติแล้วทำไมมันต่อไม่ได้วะผมก็ลองดูนั่นดูนี่ดูโน้นไปเรื่อย ๆ
ตามความรู้น้อยนิดที่ผมมีอ่ะนะครับว่าทำไมมันถึงต่อไม่ได้จนเวลาผ่านไปประมาณ 30
นาทีซึ่งถือว่านานมาก แกเริ่มหงุดหงิดครับเดินมาถามเลยเสียงดังด้วยว่า
“เสร็จหรือยังชั้นจะได้ทำงาน นี่นานแล้วนะ” เอาและครับ
บรรยากาศเริ่มขุ่นมัวและก็แม่งจะเสร็จได้ไงวะก็กูทำไม่เป็นพนักงาน IT โทรไปก็เสือกไม่รับอีกเมื่อไม่รู้จะทำไงผมก็บอกแกไปตรง ๆ
อ่ะครับว่าผมเช็คเรียบร้อยแล้วทุกอย่างปกติแต่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเชื่อมต่อสัญญาณไม่ได้
เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เช้า IT มาจะให้รีบมาดูอาการให้ได้ไหม
ยังไมทันจะพูดจบครับแปลงร่างเลยครับทีนี้มาเต็ม เลยครับ พื้นห้องตอนนี้กลายเป็นพื้นที่การเกษตรไปหมดแล้ว
ฟักอย่างนั้น ฟักอย่างนี้ เดินไปบ่นไป ตบโต๊ะโวยวาย ทุ่มหนังสือเอามือกุมหน้าปานว่าชีวิตดับสลายไปแล้ว
ที่สำคัญเดินมาด่าผมอีก “ยูต้องทำให้ได้เพราะชั้นจำเป็นต้องทำงาน
ทำให้ได้เดี๋ยวนี้เลย” อ้าวนี่มึงไม่เข้าใจหรือนี่
กูก็เพิ่งบอกไปเมื่อกี้นี่ว่ากูทำไม่เป็นมึงจะให้กูทำอะไรอีกอ่ะให้กูยืนไว้อาลัยให้มั้ยกูทำได้นะพวงหรีดมา
หรือจะให้กูทำจนพังเลยมั้ยอ่ะพูดไม่พูดเปล่าครับเอามือพลักผมให้หันหน้าเข้าหาโน๊ตบุ๊คอีกแล้วเร่งให้ทำอยู่นั่นแหละ
ตอนนี้ผมก็เริ่มมีอารมณ์นิด ๆ
และครับเพราะมันเริ่มมีมาถูกเนื้อต้องตัวและอยากบอกว่ากูไม่ง่ายนะมึง
(แต่ได้ไม่ยาก) จำไว้เลยนะครับว่าไม่ว่าคุณจะโมโหหรือโกรธกับปัญหาความไม่สะดวกที่
ไม่ได้รับกับทางโรงแรมแค่ไหน คุณต้องเข้าใจไว้ด้วยว่าบางปัญหามันไม่ได้มาจากพนักงานหรือมาจากพนักงานคนอื่นซึ่งไม่ใช่คนที่เขากำลังมาช่วยคุณ
ส่วนใหญ่คนที่เขาไปหาคุณเนี่ยเขาขึ้นไปเพราะมีหน้าที่แก้ไขไม่ได้ไปให้คุณระบายอารมณ์
คุณจะด่าจะว่าอะไรเขาก็ได้แต่คุณไม่มีสิทธิ์แตะต้องตัวหรือทำร้ายร่างกายเขาไม่งั้นคุณก็จะโดนข้อหาทำร้ายร่างกายได้
ตอนนี้ผมยังควบคุมอารมณ์ได้อยู่อ่ะนะครับผมก็พยายามคิดถึงการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ต
ที่เคยพบเจอมาหลาย ๆ
ปัญหาเพื่อจะหาทางออกดูว่ามันจะเอามาใช้กับการแก้ไขครั้งนี้ได้ไหมซึ่งมันก็ต้องใช้สมาธิมากเหมือนกัน
แต่ในขณะคิดไปมันก็ยังเดินไปเดินมาเอะ อะ โวยวายในห้องอยู่อย่างนั้นอ่ะครับ
บ่นแม่งไปเรื่อยแถมก็ยังปลูกผักไปด้วย ฟักอย่างนั้น อย่างนี้ไปอีกเป็นไร่ (ปลูกมากไประวังราคาตกนะมึง
รัฐบาลเขาไม่รับจำนำฟักนะ)
ในขณะที่ผมคิดอยู่นั้นมันมีแว้บนึงในความคิดขึ้นมาครับเกี่ยวกับปัญหานี้ซึ่งเพื่อนผมเนี่ยเคยบอกไว้ว่า
โน๊ตบุ๊คบางตัวจะมีปุ่มกดเปิดปิดการเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่ว่าจะผ่าน Wifi
หรือ สาย Cable ให้เราหาปุ่มนั้นบน Key borad หรือข้าง ๆ
เครื่องแล้วเปิดมันซะเท่านั้น
เราก็จะสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้และเหมือนเป็นโชคดีครับ
ที่คอมพิวเตอร์หน้าผมตอนนี้แม่งเป็นยี่ห้อเดียวกันหมดเลยครับพี่น้องครับ
ผมจึงจัดการหาเลยครับว่ามันอยู่ตรงไหน บอกตามตรงว่าลุ้นให้มันมีมาก ๆ
เพราะถ้าหากไม่มีกูก็ไม่รู้จะทำยังไงและ ที่สำคัญคงโดนฟักถล่มอีกเป็นชุด ๆ
หาอยู่สักพักครับเหมือนสวรรค์มาโปรดเจอจริง ๆ ครับเป็นปุ่มเล็ก ๆ อยู่ข้าง ๆ
เครื่องและมีเครื่องหมายเสาอากาศกระจายสัญญาณกำกับอยู่ด้วยด้วยความมั่นใจครับว่ามันต้องใช่
ต้องใช่แน่ ๆ ผมเลยลองเปิดดูครับ อ้อ
ลืมบอกไปช่วงที่กำลังดำเนินการอยู่เนี่ยแม่งยังไม่เลิกบ่นเลย
นี่มึงจะบ่นเอาโล่ไงวะ จากนั้นผมก็ลองเชื่อมต่อสัญญาณใหม่และลองเข้าเว็บไซต์ดู
ปรากฏว่าเข้าได้ครับ โอ้พระเจ้ายอดมันจอร์จ มากผมรีบโชว์ผลงานให้มันทันทีครับ
(ที่ตอนนี้กำลังสวมบทชาวไร่ปลูกผักอยู่เลยครับ)
ใจเนี่ยอยากจะเดินไปจูงจมูกมาดูจริงๆ
แล้วบอกมันไปในตัวพร้อมนั่งป้อนหญ้าให้ด้วยว่า “เครื่องโน๊ตบุ๊คมึงเนี่ยมันมีปุ่มเปิดปิดสัญญาณเน็ตอยู่นะ
มึงต้องเปิดมันก่อนนะถึงจะต่อได้ไม่ได้มีตังค์ซื้ออย่างเดียวนะ ศึกษาบ้าง
ข้าวน่ะกินบ้างนะอย่ากินแต่หญ้า”
แล้วเนี่ยคอมพิวเตอร์มันเองเนี่ยทำไมไม่รู้จักสังเกตุวะหา
พอเห็นว่าใช้เน็ตได้มันดีใจใหญ่เลยครับ
รีบกระโดดกอดผมใหญ่เหมือนเด็กได้ของเล่นก็ไม่ปาน ผมก็ได้แต่ยิ้มแหย๋ๆ
พอมั่นใจว่าใช้ได้แน่นอนแล้วผมก็ขอตัวกลับไปทำงานต่อครับ
มันก็ตามมาส่งถึงหน้าห้องเลยครับ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสมากผิดกับเมื่อกี้เป็นคนละคน
เอาครับ ความสุขของแขกตบท้ายด้วย 500 บาทอภินันทนาการจากชาวไร่ฟักทองครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
บทความแนะนำ

-
เมื่อพูดถึงโรงแรม ก็จะประกอบไปด้วยหน่วยงานหลัก 2 หน่วยงานคือ ส่วนงาน Operation และส่วนงาน Back Office หรือที่คนโรงแรมชอบเรียกกันว่า...