ตอน ช้างตายทั้งตัว.....เหม็นจัง
เรื่องนี้เกิดขึ้นย่ำค่ำคืนหนึ่งขณะที่เฮียกำลังยืนเขียน Log Book อยู่ ทันใดนั้นเองปรากฏกายของแขกจากแดนไวกิ้งเดินตรงดิ่งเข้ามาหาเฮียพร้อมกับเปล่งวาจาขึ้นอย่างดังว่า “เรียงเบอร์มั้ยครับ เรียงเบอร์” เอ้ย!!! ไม่ใช่ๆ โทษทีพอดีอินกับหวยเมื่อวานไปหน่อยเอาใหม่นะ พร้อมกับเปล่งวาจาขึ้นว่า “Can I see the Manager” และด้วยประโยคนี้ไม่ต้องสันนิษฐานสิ่งที่จะตามมาเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นพอเฮียตอบกลับไปว่า “Ye I am” เท่านั้นแหละพี่แกก็เล่นใหญ่ใส่ชฏาเลยทีเดียวชนิดที่ไม่เกริ่นให้ทราบเลยว่าไปโดนตัวไหนมาหรือมีปัญหาอะไร เฮียก็ฟังแกด่า ย้ำว่าด่านะแบบรัวๆ แต่ก็ยังมีสติจับใจความได้ว่าเมื่อวานมีแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดห้องพักแล้วทีนี้ของแกหาย พอพี่แกเหนื่อยและเว้นช่องว่างหายใจเฮียก็รีบใส่กลับทันทีว่า “ยูช่วยบอกชั้นทีได้ไหมว่าของที่หายลักษณะเป็นยังไง” แกก็บอกมาว่า “มันเป็นกำไลข้อมือสีเขียว” ซึ่งความคิดเฮียเข้าใจว่าน่าจะเป็นกำไลหยกอ่ะนะ แกบอกว่า “แกวางไว้บนโต๊ะหน้าทีวีแต่พอแม่บ้านเข้าไปทำห้องและกลับออกมาปรากฏว่ามันหายไป” แกเลยโมโหและด่าโรงแรมด้วยประโยคมหาอมตะนิรันดร์กาลว่า “ฟักแม้วโฮเต็ล” อืม เฮียก็ยืนรับศีลรับพรไป คือก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่บอกรูปพรรณสัณฐานวะจะได้มาช่วยกันหาเดี๋ยวค่อยกลับมาด่าใหม่ก็ได้เพราะหาของน่าจะสำคัญกว่า
เฮียไม่รอช้ารีบตัดบททันทีว่า “ยูรอสักครู่นะชั้นจะโทรไปสอบถามกับพนักงานและจะทำเรื่องตรวจสอบให้ว่าใครเข้าไปบ้างหรือมีส่วนเกี่ยวข้องอะไร” แต่สิ่งที่เฮียได้คืออะไรรู้ป่ะ? พี่แกเอามือกดหูโทรศัพท์ที่เฮียกำลังจะโทรหาแม่บ้านลงแล้วพูดว่า “ไม่ ชั้นไม่ต้องการ ชั้นแค่อยากคอมเพลนการบริการของโรงแรมยูเท่านั้น พนักงานที่นี่ขี้ขโมย” คืออารมณ์เหมือนประมาณว่าพี่แกอยากได้กระสอบทรายไว้ระบายอารมณ์แค่นั้นแหละแทนที่จะหาของและมาสืบหาความจริงก่อนครั้นจะด่าต่อก็ไม่สาย เมื่อเป็นเช่นนั้นและ “เค้าจ้างเฮียมาโดนด่า” เฮียก็เลยยืนเมาหมัดอยู่แบบนั้นแหละพร้อมกับคอยพูด Sorry เป็นระยะๆ เวลาแกพักหายใจ
ผ่านไปจนครบยกสุดท้ายเกือบ 10 นาที ซึ่งเฮียที่เป็นฝ่ายน้ำเงินโยนผ้าขาวยอมแพ้แล้วแต่ฝ่ายแดงยังถลุงไม่เลิกแต่โชคดีที่ระฆังมาดังเอาพอดีเพราะแกเริ่มเหนื่อยและที่สำคัญเมียลงมาตาม ทันทีที่เห็นสามีกำลังยืนต่อว่าพนักงานก็รีบเข้ามาเพราะนึกว่ามีเรื่องอะไร มาถึงตัวสามีก็บอกว่า “กำไลชั้นหาย โรงแรมนี้มีขโมย ชั้นกำลังสั่งสอนพวกเค้าอยู่ว่าบริการยังไงให้ดี” (สอนไรวะ ด่ากูอย่างเดียวเลย) แต่ที่เป็นไฮไหลคืออะไรรู้ป่ะ เมียยกข้อมือขึ้นมาแล้วบอกว่า “กำไลอันนี้ใช่ไหม ชั้นเอามาใส่เล่นตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว เธอไม่ตื่นมากินอาหารเช้าชั้นลงมาคนเดียวก็เลยใส่มาด้วย”
เท่านั้นแหละความเงียบเข้าครอบงำ บรรยากาศกลายเป็น Dead air ในบัดดล เฮียผู้ที่ตอนนี้หน้าตาบวมปูดผลจากการเมาหมัดใช้จิตวิทยาในการส่งสายตาและท่าทางให้อีกฝ่ายรู้ว่า “เป็นไงล่ะมึง” โดยยืนนิ่งๆ และมองไปที่ใบหน้าตรงบริเวณสันจมูกเพื่อไม่ให้จ้องหน้าเกินไปอันจะทำให้แขกรู้สึกว่าถูกรุกราน และที่เด็ดต่อมาคือไงรู้ป่ะ พี่แกจับมือเมียแล้วเดินขึ้นห้องไปเฉยเลยไม่บอกขอโทษอะไรใดๆ ทั้งสิ้น ....เอวังด้วยประการละฉะนี้แล
ปล.ช่วงนี้สนับสนุนโดยยาแก้ของหายตราควายออกลูก ทั้งๆ ที่ทำหายเองแบบไม่ได้พันผูกแต่สุดท้ายก็มาปลุกกูไปด่าทุกที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น