วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เรื่องของแขก Walk Away



วันนี้เฮียจะมาเหลาประสบการณ์ที่เจ็บปวดสุด ๆ ในชีวิตการทำงานโรงแรมกันเลยทีเดียว
เริ่มต้นจากอธิบายความหมาก่อนนะ
คำว่า Sleep Out ในภาษาโรงแรมหมายถึง แขกมีธุระต้องไปค้างอ้างแรมที่อื่นสักคืนสองคืนแล้วจะกลับมา ซึ่งบางครั้งแขกก็จะลงมาบอกพนักงานเอง เช่น แขกมาพักพัทยา 7 คืน แต่อยากไปค้างเกาะล้านสัก 1 คืน แล้วจะกลับมาอยู่ต่อ แบบนี้บางครั้งเค้าก็จะมาบอกว่า "ชั้นจะ Sleep out ไปเกาะล้าน 1 คืนนะ" แบบนี้พนักงานก็มีข้อมูล แล้วก็จะเช็ค Deposit ค่าใช้จ่ายค่ามีอะไรที่มีแนวโน้มว่าแขกจะหนีบิลมั้ย Deposit มัน Cover ตลอด Period ที่แขกอยู่มั้ย
คำว่า Walk Away คือไปแล้ว ไปลับ ไม่กลับมาเลยพูดง่าย ๆ ว่าหนีบิลนั่นแหละ แบบนี้ก็ต้องตามกันไปว่าอยู่ที่ไหนจะตามเก็บเงินยังไงถ้ากรณีที่แขกไม่ได้จ่าย Deposit ไว้ตั้งแต่แรกหรือ Deposit ที่ให้ไว้ไม่ Cover ค่าใช้จ่าย
Front กับ แม่บ้านเค้าจะ Co กันเรื่องนี้ โดยเวลาที่แม่บ้านขึ้นปทำห้องแขก In house แล้วเห็นของใช้ในห้องแขกพวกเสื้อผ้า เครื่องสำอาง เครื่องใช้ต่าง ๆ น้อยผิดปกติ แม่บ้านก็จะแจ้ง Front มาเพื่อให้เช็คว่าแขกออกไปไหนมั้ยถ้าไปก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่ได้แจ้งไว้ก็ต้อง Keep and Eye ไว้เลยว่าอาจมีแนวโน้ม Walk Away ได้ (แต่บางครั้งก็ไม่เสมอไปนะ) แต่ก็มีบางครั้งที่ตั้งใจทิ้งไว้เต็มห้องทั้งเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ กระเป๋า แล้วก็ไปเลยแบบกะว่าบริจาคให้พนักงาน อันนี้ถ้าไม่มีค่าใช้จ่ายก็ OK สบายไปถ้ามีก็ชีวิตใครชีวิตมันนะ
มาที่เคสเฮีย ขณะดำรงค์ตำแหน่ง Duty Manager วันนั้นเฮียเข้ารอบบ่ายทำงานตั้งแต่เข้ารอบมาได้จนประมาณ 4 โมงเย็น มี Super แม่บ้านโทรขึ้นมาหา "เฮีย แขกห้อง 124 แจ้งออกไปไหนหรือเปล่าเฮีย ในห้องมีชุดแขกอยู่สองชุดกับรองเท้าแตะคู่เดียวเองเฮีย" แว้บแรกที่ได้ยินโอ้แม่เจ้าใจหายแว้บไปอยู่ตาตุ่ม เพราะห้องนี้มันอยู่มานานมากประมาณ 2 อาทิตย์แล้วมี C/O ในวันพรุ่งนี้ ทีนี้ผมก็บอกแม่บ้านไปว่า "เดี๋ยวเฮียขึ้นไปดู" จากนั้นก็มาดู Deposit ในระบบว่ามัน Cover มั้ยมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่เฮียก็ได้ใจความว่าค่าห้องจ่ายหมดเรียบร้อยแล้วและไม่มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เหลือแต่ค่าใช้จ่ายที่เป็นค่า Extend Stay ของคืนวันนี้อีก 1 คืนซึ่งใน Note เขียนไว้ว่าแขกจะมาจ่ายประมาณสาย ๆ แต่นี่บ่ายสี่โมงเย็นแล้วยังไม่มาแต่ในระบบมีหมายเลขบัตรเครดิตอยู่ หลังจากนั้นเฮียก็ขึ้นไปดูบนห้องกับแม่บ้านปรากฏว่า ไม่มีอะไรเลยนอกจากกางเกงฟุตบอลกับเสื้อยืดและรองเท้าแตะคู่เดียว คือคิดเป็นอื่นเลยไม่ได้ว่า "เอาแล้วกูโดนแน่ ๆ " ว่าแล้วก็รีบลงมาแล้วก็จัดการทำ Card Ver- สำหรับค่าห้องคืนนี้ไว่ก่อนใจก็ลุ้นว่าตอนทำวงเงินมันจะผ่านมั้ย สรุปว่าโชคดีที่มันผ่าน จากนั้นเฮียก็ส่ง Message ขึ้นห้องแขกแจ้งการทำรายการดังกล่าวเอาไว้ก่อนเพื่อป้องกันในกรณีที่แขกไม่กลับมา แล้วก็มานั่งลุ้นว่าจะมามั้ยเนี่ย ผ่านไปจนกระทั่งเที่ยงคืนก่อนเฮียจะออกรอบแขกก็ยังไม่มา เฮียก๋ต่อรอบไว้กับ Night Manager ให้ดูแขกห้องนี้ไว้เพราะมีเคสนี้เกิดขึ้น แล้วเวลาก็ผ่านไปจนกระทั่งเฮียมาเข้ารอบบ่ายตอนบ่าย 2 โมงของอีกวัน มาถึงก็อ่าน Log book ว่ามี Action อะไรบ้าง ก็สรุปได้ว่าแขกกลับมาตอนหกโมงเช้า และบอกว่าไปนอนเกาะล้านมาคืนนึงแต่ไม่ได้บอกทางโรงแรมไว้ซึงทาง Night Manager ก็ได้แจ้งการทำรายการ Card Ver- ให้แขกรับทราบซึ่งโชคดีที่แขกเข้าใจและ C/O ออกไปตอนเที่ยงอย่างเรียบร้อย
คิดกลับกันถ้าเจอแขกงี่เง่ารับรองได้ว่าจะโดนแน่ ๆ ว่า "ทำไมเธอมา Ver- Card ชั้นโดยไม่ได้รับอนุญาติ กลัวชั้นไม่จ่ายเหรอ บลา บลา บลา แต่ถ้าเราวัดใจไม่ Ver- Card ไว้แล้วเกิดโดน Walk Away ค่าห้องคืนละ 4,500 บาทนี่กูไม่มีปัญญาจ่ายแน่ ๆ ก็เป็นเรื่องที่ลำบากใจอีกอย่างนึง และก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ Front กับ Housekeeping ต้องทำหน้าที่เป็นนักสืบหรือผู้วิเคราะห์หลักฐานแบบว่าจบแล้วไปอยู่กับคุณหมดพรติ๊บได้เลยอ่ะ บอกแล้วงานโรงแรมได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด




ไม่มีความคิดเห็น:

บทความแนะนำ