วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันใหล มหาภัย



19 เมษายน 2553
วันนี้ที่พัทยาเป็นวันใหลครับ ก็คล้าย ๆ กับวันสงกรานต์แหละครับแต่พอดีว่าเล่นกันแต่ที่เมืองพัทยาครับ เอกลักษณ์ของวันนี้ก็คือท่านจะได้พบกับ บรรดาผู้มากคนมากหน้าหลายตาร้อยพ่อพันแม่จากทุกทั่วสารทิศ ซึ่งบอกตรง ๆ ว่า โคตรเยอะ เยอะมาก ถึงมากที่สุด ซึ่งหลังจากนั้นก็จะเป็นเหตุนำมาซึ่งรถติด ติ๊ด ติด ติดกันเข้าไป ติดแม่งจนวิ่งไม่ได้ ติดจนไม่รู้ว่ามึงติดแก้บนหรือไง เพราะกูจะไปทำงานไม่ทันโว้ย โอ้โหย อยากให้มาเห็นภาพน๊ะครับ ถ้านึกไม่ออกนึกถึงตอนที่คุณกำลังอยู่กรุงเทพ ช่วงเวลาหลังฝนตกเสร็จใหม่ ๆ ประมาณ 5 โมงเย็น มันไปไหนไม่ได้เลยจริง ๆ น๊ะครับ ติดแม่มอยู๋นั่นแหละกับ ติดกันให้ตายไปข้างนึง แถมยังต้องทนดูโชว์จากพวกวัยรุ่นที่เล่นสงกรานต์กันตามข้างถนนแล้วชอบเต้น ๆๆ กันจนกินเลนส์ถนนออกมาแล้ว อยากรู้เหมือนกันว่าถ้ากูเหยียบมึงเละจนขี้แตกนี่มึงยังจะแดนซ์อยู่มั้ย หรือมึงจะลงไปนอนสแคลชขี้โชว์ก็ดีน๊ะ สักพักผมมาถึงที่โรงแรม ตกใจครับ ใจหล่นไปถึงตาตุ่ม อะไรกันนี่ นี่กรูอยู่ในโรงแรมหรือว่าป่าช้าวะเนี่ย เงียบมากครับ เงียบจริง ๆ ไม่มีแขกมา check in หรือ check out เลยให้ตายซิโรบิน เงียบขนาดหมาหายใจยังได้ยินเลยครับ ผมยืนทำหน้าเป็นปลาดุกชนเขื่อนอยู่สักพัก โอ้โห วันใหลพัทยานี่ไม่ได้ช่วยให้โรงแรมกรูมีแขกเยอะขึ้นมาเลย แต่ในขณะที่กำลังตกตะลึงกับสภาวะป่าช้าในโรงแรมอยู่นั้น มีกลิ่นแปลก ๆ คล้ายกลิ่นเต่าของมนุษย์ลอยผ่านมาแตะจมูกผมครับ เป็นกลิ่นที่ทำให้ผมมึนงง มึนหัว จนอยากจะอาเจียน สักพักตั้งสติได้กลั้นหายใจพยายามมองหาต้นตอที่มาของกลิ่น สายตาเหลือบไปเห็นร่างเงาของชายผู้หนึ่งเป็นชาวยุโรปตะวันออก แถว ๆ ตุรกี อะไรเงี๊ยะครับ (ที่รู้เพราะจำได้เป็นคน check in มันกับมือ แต่ตอนเช็คอินมันยังไม่เหม็นขนาดนี้น๊ะครับ หรือว่ายังสดใหม่อยู่เลยไม่มีกลิ่นก็ไม่รู้) ใจนี่อยากจะเดินเอาลูกกลิ้งไปป้ายจั๊กกะแร้มันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่อีกใจก็คิดว่ากว่าจะไปถึงจั๊กกะแร้มันกูจะตายก่อนมั้ยเนี่ย แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น โอ้ แม่เจ้า ไม่น๊ะ ไม่ ผมอยากจะเอาหัวมุดลงไปใน counter front มันเดินมาหาผมคับ ทำไงดีหว่า ในใจก็นึก กูจะทำยังไง ถ้ากูเดินหลบไปข้างในห้องมันจะโกรธกูมั้ย หรือกูแกล้งตายดี เอ๊ะ จะแกล้งทำไม ไม่ได้เจอหมีนี่หว่า หรือกูจะบอกมันไปเลยว่ากรูเหม็นกลิ่นเต่ามึงโว้ย แต่มันพูดอังกฤษไม่ได้ แล้วมันจะฟังกรูรู้เรื่องมั้ยเนี่ย ทำไงดี ทำไงดี สักพัก .......... ไม่ทันแล้วครับ มันมายืนอยู่ข้างหน้าผมเรียบร้อย จบครับ ชีวิต จบเลยครับ จะไปไหนก็ไม่ได้แล้ว “I…want ..stay…more..1….night” ประมาณว่ามันจะมาขอติดต่ออยู่ต่ออีก 1 คืนและจะมาขอจ่ายตัง อ่ะ โอเคได้ ผมรีบเตรียมบิลค่าใช้จ่ายให้มันอย่างรวดเร็ว (อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปกติจะเป็นผู้ชายหลั่นล้า) “OK Sir for 1 night 1,930 baht. “ Do you want to pay by cash or credit card? ผมถามกลับไปว่าคุณจะจ่ายเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตดีครับ ตอนแรกมันกำเงินมาครับแต่เจอประโยคนี้ของผมเข้าไป มันเก็บเงินกลับเข้ากระเป๋าเลยครับ พร้อมกับก้มหาอะไรบางอย่าง สาบานได้ ถ้ามันหาลูกกลิ้ง ผมจะรีบไปช่วยมันเลย เปล่าครับ มันหาเครดิตการ์ด ประมาณว่าการสือสารที่ไม่เข้าใจ ทำให้มันจับใจความได้ว่าผมต้องการให้มันจ่ายเป็นเครดิตการ์ดครับ งานเข้าครับทีนี้ มันยืนหาอยู่นานมากครับหน้าล็อบบี้ ล้วงกระเป๋าโน้น ควักกระเป๋านี้ แหกกระเป๋าเสื้อ ปลิ้นกระเป๋ากางเกง ก็ยังไม่เจอ แล้วรู้มั้ยครับว่าการหาบัตรเครดิตของมันทำให้ผมขาดอากาศหายใจไปประมาณ 5 นาทีแล้ว นี่ถ้าต้องทนต่อไปอีกเนี่ยสงสัยผมได้เป็นเจ้าชายนิทราแน่ แต่ผมก็ไม่ใช่มนุษย์กบที่จะกลั้นหายใจได้เป็นสิบ ๆ นาที ผมเริ่มไม่ไหว ผมจึงต้องสูด ย้ำครับว่าสูด ซึ่งไม่ได้หมายถึงหายใจปกติเป็นแน่ เฮือก ใหญ่เข้าไปเต็มปอดครับ อื้อ หือ กลิ่นเต่าของแขกผู้นี้ได้เข้าไปทุกรูขุมขนของผม ทะลวงตับออกม้าม ลอดลำใส้ แยงเข้าไปถึงหัวใจครับ ทรมานมาก จนแล้วจนรอดมันก็ยังหาบัตรไม่เจอ สักพักผมเริ่มไม่ไหว จับมือมันขึ้นมาแล้วชี้ไปที่เงินที่มันกำอยู่ “ You can pay by cash” ประมาณว่า มึงจ่ายเงินสดเถอะกูขอร้อง กูไหว้แหละ มึงจะเอาน้ำแดงด้วยก็ได้ มันก็ยิ้ม ๆ (มึงจะยิ้มหาป้ามึงหรือไงเนี่ย กูเหม็นโว้ย) ครับ แล้วก็จ่ายผมมาเป็นเงินสด หลังรับเงินมาผมรีบออกใบเสร็จอย่างรวดเร็ว แบบไม่เคยเป็นมาก่อน พอเสร็จเรื่องยังไม่จบครับคราวนี้ มันเอาแผนที่เมืองพัทยาขึ้นมาอีกครับ แล้วก็พูดอังกฤษไม่รู้เรื่อง ได้แต่ทำมือชี้โบ้ชี้เบ้ แต่จับใจความได้ว่าจะไปเที่ยวสวนนงนุช เอาละครับที่นี้ จบครับ จบเลย อุตส่าห์จบเวลาปกติแล้ว ยังอุตส่าห์มีทดเวลาบาดเจ็บให้กูอีก เอ้าได้ มา มาดูกันไหน ๆ ก็เน่าและก็เน่าแม่งทั้งสองคนนี่แหละ ผมหยิบแผนที่มากางพร้อมอธิบายเส้นทางให้มันเสร็จสรรพ ประมาณ 10 นาที จึงเสร็จเคสนี้แล้วลาจากไป เชื่อมั้ยครับว่า แม้แต่แกขึ้น lift ไปแล้ว กลิ่นแกยังโชยอยู่ในรูจมูกของผมอยู่เลย เฮ้อ แต่ก็ต้องอดทนครับ แต่บอกคำเดียว เหม็นได้โล่

4 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ป่วยกะแขกคนไทยอีกวัน เราพึ่งC/O จากโรงแรมคุณอ่ะค่ะ หาทางกลับ กทม.ไม่ได้เลย ช่วยมาจัดการได้ไหมค่ะ คุณต้องออกมาจัดการให้เรานะค่ะ
อะไรเนี่ย คนเต็มถนนเลย

เจ้ โรงแรมหนู 555 ห้อง แขกเขา ออก เป็นพัน จะให้ไปโบกรถ ไล่คนให้เจ้
เอาเซเรบรัม ส่วนไหนคิด (แถวบ้านเรียกโง่)

แนะนำเจ้ ว่า สงกรานต์ปีหน้า กรุณานอนแล้วทำตัวเน่าๆ อยู่ กทม.

Hotel Man กล่าวว่า...

แขกงี่เง่า,ก็แบบนี้แหละครับ คิดว่าโรงแรมต้องตามใจทุกอย่าง ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่ปัญหาของเราเล้ย กลับต้องมารับผิดชอบ อยากรู้ว่าถ้ามันไปพูดกับคนอื่นเค้าจะฟังมันมั้ย รถติดเนี่ยโรงแรมผิดเหรอ ฟายยยยย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เคยโดน complain ช่วงที่น้ำท่วมสมุยแล้วสายการบินเค้างดบริการ

โอ้โห มาตะโกนใส่หน้า บลาๆๆๆ ไม่บริการอย่างโน้น ไม่เปลี่ยนตั๋วให้ ไม่ดูแลอย่างนี้ ขอโทษถนนหน้าบ้านกรูน้ำถึงคอ กรูยังต้องดำน้ำมาทำงาน นี่ถ้ากรูขับเครื่องบินเป็นนะกรูขับไปส่งแล้ว

Hotel Man กล่าวว่า...

สู้ๆ นะครับผม เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป

บทความแนะนำ