วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ใคร

 เรื่องหลอนก่อนนอน ตอน ใคร? จบบริบูรณ์


ผมและไอ้ชินพยายามหาคำตอบหลายๆ อย่างเกี่ยวกับสิ่งแปลกๆ ที่เกิดขึ้นกับพวกเราตั้งแต่มาที่นี่ทั้งคำพูดของพี่ รปภ.ฝั่งโรงแรม และ พี่พนักงาน ที่ดูเหมือนกับว่าที่นี่จะไม่เคยมีนักศึกษาฝึกงานมานานแล้ว? หรือแม้แต่เหตุการณ์ประหลาดทั้งเสียคนร้องให้ช่วยหลังหอ เสียงผู้หญิงที่รับโทรศัพท์ของเอส และที่สำคัญเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องน้ำระหว่างที่ไอ้ชินมันไม่อยู่ เราสองคนพยายามคิดทบทวนกันว่าหรือนี่จะเป็นสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นกับพวกเรา แต่ยังไม่ได้คำตอบด้วยความที่เราสองคนเหนื่อยมากก็เลยเผลอหลับไป

เสียงโทรศัพท์ของไอ้ชินดังขึ้นมันลุกมารับสายซึ่งเป็นสายของเอสที่บอกว่ามาถึงบ้านแล้วเดี๋ยวขอเก็บของก่อนแล้วจะออกไปหาที่หอพัก พอไอชินวางสายเสร็จแล้วก็ปลุกผมว่า “เฮ้ยไอ้ลม เอสมาถึงแล้วเดี๋ยวน่าจะเข้ามาสักพัก ไปล้างหน้าล้างตากันหว่ะ กูยังไม่อาบน้ำนะรอกินข้าวกลับมาแล้วเดี๋ยวอาบทีเดียว” ผมก็สะลึมสะลือตื่นขึ้นและเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างหน้าโดยลืมเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อตอนเย็นไปสนิท ก่อนไปก็เหลือบมองนาฬิกาเป็นเวลาประมาณสี่ทุ่มครึ่งเข้าไปแล้วนี่ถ้าไม่ติดว่านัดเอสไว้ก่อนหน้านั้นผมคงปฎิเสธไปแล้ว

เราสองคนล้างหน้าล้างตาเสร็จก็ลงมารอด้านล่างพอมาถึงก็เจอพี่ รปภ.กำลังนั่งดู youtube อยู่เราก็ทักทายแก “สวัสดีครับพี่ ผมมาฝึกงานที่นี่ครับเพิ่งมาวันแรกฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะพี่” ก็กะว่าจะชวนแกคุยเล่นแต่พอได้ยินคำว่าฝึกงานแกรีบหันมาแล้บอกกับผมว่า “เฮ้ย...มาฝึกงานจริงเหรอวะ? ที่นี่ไม่มีใครเค้ามาฝึกงานกันนานแล้ว?” ผมกับไอ้ชินมองหน้ากันแล้วก็เริ่มเอะใจเพราะพี่เค้าน่าจะเป็นคนที่สามแล้วที่เราได้ยินคำทักแบบนี้ ด้วยความสงสัยและเริ่มอยากรู้จริงๆ แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นผมกะว่าจะถามพี่เค้าตรงๆ ให้รู้ดำรู้แดงไปเลยว่าแล้วก็เลยตัดสินใจกำลังจะอ้าปากถามพี่แกแต่ก็ต้องหยุดแทบไม่ทันเพราะมีเสียงเรียกมาจากด้านหลัง “ชิน ลม กูมาแล้ว” ผมกับไอ้ชินหันหลับกลับไปมองปรากฎว่าเป็นเอสที่มาถึงเรียบร้อยแล้วยืนอยู่ด้านหลังห่างจากที่เราอยู่ประมาณ 3-4 เมตร เราเลยไม่ได้ถามแล้วกำลังจะหันหลังกลับเพื่อเดินไปหาเอส พี่ รปภ. แกก็เหมือนกำลังตั้งใจจะฟังอยู่ว่าเราจะถามอะไรเหมือนแกก็อยากให้ถามนั่นแหละครับแต่พอเราไม่ถามแกก็เลยไม่บอกอะไร

ผมกับไอ้ชินเดินมาหาเอสที่ยืนรออยู่พวกเราทักทายกันแล้วไอ้ชินก็ถามเอสไปว่า “จะพากูไปกินอะไรวะเอสดึกแล้วนะนี่ตอนนี้” เอสตอบกลับมาว่า “กูซื้อของกินมาแล้วเดี๋ยวนั่งกินที่นี่แหละขี้เกียจออกไปแล้วหว่ะเพราะร้านประจำกูวันนี้ปิด” แล้วพวกเราสามคนก็พากันไปเอาของที่รถของเอสแล้วก็ไปนั่งกินกันที่โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งถัดไปจากเรามีพี่พนักงานผู้ชายกำลังนั่งคุยกันอยู่เหมือนกัน พวกเราก็ยิ้มทักทายให้พวกพี่ๆ เค้า พี่เค้าก็ยิ้มกลับมาแบบ งงๆ

พอเรานั่งลเอสก็จัดแจงแกะอาหารที่มันซื้อมาใส่จานกระดาษเรียบร้อยแล้วเอสก็เริ่มกินอาหารส่วนผมกับไอ้ชินเรายังไม่ได้เริ่มกินเพราะตอนนี้ในใจมีเรื่องที่อยากรู้และสนใจมากกว่าอาหารตรงหน้าและด้วยความสงสัยผมก็ถามเอสขึ้นมาว่า “เอส กูถามอะไรมึงหน่อยได้มั้ยวะ” เอส ที่กำลังกินข้าวอยู่ก็ตอบกลับมา “เออ ว่า” ผมมองหน้าไอ้ชินที่ตอนนี้เหมือนพยายามจะห้ามผมไม่ให้ถามอาจด้วยเพราะเกรงใจเพื่อนหรือยังไงนี่แหละแต่ผมก็อดไม่ไหวเพราะมันเจอมาเยอะเกินวันนี้

วันนี้ตอนกูมาถึงกูเจอแต่เรื่องแปลกๆ ที่นี่หว่ะ พอพูดจบเอสมันวางช้อนแล้วเงยหน้าขึ้นมองผมกับไอ้ชินทันที “มึงเจออะไรบอกกูมา” หน้าตามันดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันที ผมกับไอ้ชินมองหน้ากันแล้วตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้เอสฟัง

“เอส ตอนกูมาถึงกูเผลอหลับไป พอตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงไอ้ชินร้องให้ช่วยมาจากในห้องน้ำ กูสาบานเลยนะเว้ยว่ากูได้ยินเสียงมันจริงๆ กูพยายามเปิดประตูก็เปิดไม่ออกเลยจะวิ่งไปตามพี่ รปภ.มาช่วย แต่พอกูเปิดประตูไอ้ชินมันกลับมาพอดีแล้วคนในห้องน้ำนี่ใครวะ?” เอสเริ่มนั่งหลังตรงและเพิ่มความสนใจมากขึ้น คิ้วเริ่มขมวดติดกันผมเลยเล่าเรื่องต่อ “อีกเรื่องนะเว้ยเอส ตอนกูกับไอ้ชินลงมานั่งที่ใต้ต้นไม้ตรงนั้น (ชี้ให้เอสดู) กูสองคนได้ยินเสียงตอนแรกเป็นเสียงผู้ชายร้องให้ช่วยสักพักเป็นเสียงผู้หญิง” กูเดินไปบอกพี่ รปภ.ให้ไปดูแต่เหมือนเค้าไม่ได้สนใจหว่ะ ตกลงที่นี่มีอะไรวะ?”

เอสมันเริ่มเครียดเลยตอนนี้แล้วหยุดนิ่งไปพักนึงก่อนมองหน้าผมสองคนแล้วตอบว่า “กูจะเล่าให้มึงฟังถ้าพวกมึงอยู่ไม่ได้คืนนี้เดี๋ยวมึงไปนอนบ้านกูก่อนก็ได้” ผมกับไอ้ชินเริ่มใจไม่ค่อยดีเพราะขึ้นต้นมาแบบนี้แสดงว่ามีอะไรไม่ธรรมดาแน่นอน

เรื่องห้องน้ำนี่กูไม่รู้หรอกแต่เรื่องห้องด้านหลังเนี่ย มีอยู่ปีนึงมีนักศึกษาฝึกงานผู้ญิงมาฝึกงานแล้วไปชอบกับพนักงานของกูคนหนึ่งก็คบกัน ผ่านไปประมาณ 2 เดือนเหมือนผู้ชายมีเมียอยู่แล้วทีนี้เมียเค้าจับได้ก็เลยให้เลือกว่าจะเอาน้องผู้หญิงคนนี้หรือจะเลือกเมียกับลูกฝ่ายผู้ชายเค้าก็เลือกเมียกับลูกก็เลยกะว่าจะนัดมาเคลียร์กันแต่พอมาจริงๆ น้องเด็กฝึกงานผู้หญิงดันท้องแล้วไม่ยอมเลิก น้องเค้าขู่ผู้ชายว่าถ้าเลิกจะไปแจ้งฝ่ายบุคคลและประจานทีนี้ก็เถียงกันผู้ชายน่าจะมีลงไม้ลงมือกับผู้หญิงด้วยสักพักเหมือนผู้หญิงเลือดขึ้นหน้าโมโหขาดสติก็เลยไปคว้ามีดที่คนสวนลืมเก็บไปตอนไปตัดต้นไม้ตรงนั้นฟันเข้าไปที่ผู้ชายน่าจะโดนเส้นเลือดใหญ่แถวๆ ข้างต้นคอทำให้เสียเลือดมากซึ่งผู้ชายก็ร้องให้คนช่วยสักพักก็เงียบไป พอจังหวะที่ รปภ.วิ่งไปปรากฎว่าผู้หญิงเอามีดปาดคอตายตามไป หลังเหตุการณ์นั้นกูก็ทำบุญใหญ่เลยที่หอพักแต่ก็ยังมีคนได้ยินเสียงบ้างเป็นบางครั้ง เอาจริงๆ กูคิดว่าเค้าไปเกิดแล้วนะเพราะหลังๆ ไม่ค่อยมีคนได้ยินแล้วจะมีก็แต่มึงนี่แหละ

ผมกับไอ้ชินถึงบางอ้อก็เลยถามเอสไปอีกเรื่องนึงว่า “เฮ้ย เอส กูถามอีกอย่าง” เอส ทำหน้าตกใจตอบกลับมาว่า “นี่มึงยังไม่หมดอีกเหรอ?” ผมเลยเล่าว่า “ตอนกูมาถึงกูเดินไปที่ HR กูเห็นกล่องข้าวกับธูปและตุ๊กตาตั้งอยู่ตรงข้างทางเดินแต่พอกูหันไปจะเรียกไอ้ชินให้หันมาดูปรากฎว่าของทั้งหมดหายไปแล้ว อันนี้คืออะไรวะ?” เอส ตกใจมากแล้วรีบเอื้อมมือมาจับแขนผมเขย่าแล้วถามว่า “แล้วมึงได้เข้าไปหยิบอะไรมาหรือเปล่า? มึงไปหยิบมามั้ย?” ผมเริ่มตกใจเพราะเอสดูจริงจังมาก “เฮ้ย พอก่อนๆ กูไม่ได้หยิบอะไรมา ก็กูบอกอยู่ไงว่าอยู่ๆ มันก็หายไป” พอพูดจบเอสก็ถอนหายใจแล้วก็เล่าให้ฟังว่า “มีอยู่ครั้งนึงโรงแรมกูเหมือนซวยหว่ะ หลังจากเคสน้องฝึกงานกับพนักงานจบไปปีต่อมา มีอีกเคสหนึ่งคือน้องฝึกงานผู้หญิงเค้ามีแฟนแล้วและเป็นเหมือนนักเลงหน่อย ทีนี้น้องมันดันไปคบกับพนักงานผู้ชายของโรงแรมกูคือก็ชอบๆ กันแหละเพราะน้องมันก็เหมือนเบื่อแฟนมันที่อารมณ์ร้าย ทีนี้แฟนมันรู้เลยมาดักรอหน้าโรงแรมทำทีว่าเป็นแขกแล้วเดินมาตรงทางเข้า-ออกพนักงาน พอสองคนนี้เดินออกมา แฟนน้องมันเห็นแล้วบันดาลโทสะเอาปืนที่พกมายิงน้องสองคนนี้ตายตรงนั้นแหละแล้วหนีไปแต่สุดท้ายตำรวจจับได้ตอนนี้อยู่ในคุก

ผมและไอ้ชินได้ฟังนี่พูดไม่ออกเลย พลันคิดไปว่า “หรือนี่จะเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ที่นี่ไม่มีนักศึกษาฝึกงานมานานแล้วอาจจะด้วยกลัวอาถรรพ์ของ ตัวตายตัวแทน หรือเปล่า?”

เอสเห็นผมกับไอ้ชินเหมือนจะช๊อคกับเรื่องที่ได้กินซึ่งตอนนี้ข้าว ปลา อาหารต่างๆ ที่เอสเอามาให้ผมสองคนเหมือนกินกันไม่ลงแล้วครับและที่สำคัญเราเริ่มไม่อยากนอนที่หอพักพนักงานห้องนั้นแล้วก็เลยคุยกันสามคนว่าจะไปนอนบ้านเอสแล้วผมกับไอ้ชินก็บอกเอสว่า “เดี๋ยวขอไปเก็บของแป๊บนะ” เอสเลยบอกว่าเดี๋ยวมันจะไปรอที่รถ แล้วผมสองคนก็รีบลุกออกมาแล้วเดินไปที่ทางขึ้นห้อง

พอเดินมาถึงบันไดกำลังจะเดินขึ้นห้องพี่ รปภ. เหมือนจะเป็นคนละคนกับที่เจอตอนแรกหรือเปล่าไม่แน่ใจเพราะผมสองคนก็ไม่ค่อยได้สังเกตหน้าตาว่าคล้ายกันไหม? แต่รู้สึกไม่เหมือนกันซึ่งก็อาจเป็นไปได้ว่ามีจุดอื่นมาเปลี่ยนให้จุดนี้ไปเข้าห้องน้ำทำธุระแกก็เดินตรงดิ่งเข้ามาถามด้วยหน้าตาสงสัยว่า “จะไปไหนกันเหรอน้อง” ไอ้ชินก็ตอบแกไปว่า “เดี๋ยวผมว่าจะไปนอนบ้างเพื่อนหน่อยพี่คนที่มากินข้าวด้วยกันกับผมน่ะครับ” พี่ รปภ. ทำหน้า งง แล้วถามว่า “เฮ้ย พี่เห็นเอ็งนั่งกันอยู่สองคนเองนะ” ผมและไอ้ชินขณะที่กำลังจะก้าวขาขึ้นบันไดนี่ก้าวขาค้างเลยครับก่อนหันมามองหน้าพี่ รปภ. แล้วไอ้ชินก็พูดเสียงแข็งกลับไปว่า “พี่...เพื่อนผมนั่งกินอยู่กับผมนั่นน่ะพี่ไม่เห็นเหรอ ผมคุยกันตั้งนาน” พี่ รปภ.ก็ งง สักพักแล้วพึมพำขึ้นมาว่า “เอาอีกแล้ว” ผมและไอ้ชินสงสัยก็เลยถามแกกลับไป “เอาอีกแล้วอะไรครับพี่?”

พี่ รปภ.ถามกลับมาว่า “เพื่อนเอ็งชื่ออะไรเหรอ” ไอ้ชินเริ่มหัวเสียนิดๆ ประมาณว่า “เพื่อนผมเป็นเจ้าของโรงแรมพี่ไม่รู้เลยเหรอ” พี่ รปภ. ตอนนี้แกถึงบางอ้อก็เลยเรียกผมกับไอ้ชินให้หยุดก่อนแล้วบอกว่า “น้อง...พี่จะเล่าอะไรให้ฟังเชื่อไม่เชื่อแล้วแต่นะ?” ผมกับไอ้ชิน นาทีนี้ เต็มไปด้วยความสงสัยยังไงก็ต้องฟังแล้วครับเราสองคนเลยหันกลับมายืนฟังพี่ รปภ.

“คุณเอส ลูกชายเจ้าของโรงแรมนี้แกเสียไปตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วนะน้อง รถแกเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำตอนแกพาแฟนไปเที่ยวเสียชีวิตทั้งคู่ ถ้าน้องไม่เชื่อพี่ตอนนี้น้องลองหันกลับไปดูดิว่าคุณเอสอยู่ตรงนั้นไหม?”ผมกับไอ้ชินตอนนั้นอาการคือเข่าอ่อน ปากคอสั่น น้ำตาคลอเบ้าหลายความรู้สึกมันปะปนกันครับ ทั้งกลัว ทั้งเสียใจ ทั้งสับสน อาการเข่าทรุดมันเป็นแบบนี้นี่เอง

ผมกับไอ้ชินหันมองหน้ากันแล้วตัดสินใจว่า “จะลองหันมองกลับไปดูเพราะตอนเราลุกมาเอสยังนั่งอยู่ยังไม่ได้เดินไปที่รถ” ผมกะว่ายังไงถ้าหันไปอย่างช้าน่าจะเห็นเอสค่อยๆ เดินไปที่รถเพราะช่วงเวลาที่ผมลุกและเดินมาที่บันไดทางขึ้นหอกับระยะทางของรถที่จอดไว้กับที่นั่งของพวกเรายังไงเอสเดินไปไม่ถึงแน่นอน

ผมกับไอ้ชินค่อยๆ หันหน้าไป ปรากฎว่าสิ่งที่เราเห็นคือ “โต๊ะที่ว่างเปล่าไม่มีแม้แต่อาหารเลยแม้แต่นิดเดียว ผมกับไอ้ชินทรุดตัวนั่งลงกับพื้นเลยพี่ รปภ.ต้องรีบเข้ามาพยุงแล้วพาผมไปนั่งที่เก้าอี้แล้วค่อยๆ ปลอบพวกเราสองคน “เฮ้ยน้องใจเย็นๆ นะ ใจเย็นๆ หายใจเข้าลึกๆ” ผมกับไอ้ชินนั่งอยู่สักพักจนเริ่มตั้งสติได้โดยมีพี่ รปภ. คอยปลอบใจ พอเราสองคนเริ่มมีสติกลับมาแล้วผมหันไปถามไอ้ชินว่า “กูจะถามเรื่องห้องน้ำในห้องเรากับพี่เค้านะมึงว่าไง? ตอนนี้กูไม่มีอะไรจะเสียและไหนๆ ก็รู้ให้แม่งหมดเลยดีกว่า” ไอ้ชินตอนนี้ที่ยัง งงๆ อยู่แต่ก็ตอบกลับมา “แล้วแต่มึงเลย” จากนั้นผมจึงหันไปหาพี่ รปภ.และเล่าเรื่องที่ผมเจอเกี่ยวกับห้องน้ำในห้องพักของผมสองคนให้แกฟัง

พี่แกฟังจบก็ถอนหายใจ น้ำเสียงอ่อยลงและค่อยๆ เล่าว่า “คุณเอสแกน่าสงสารคบแฟนทีไรมีเหตุทุกที ห้องที่พวกน้องสองคนอยู่น่ะเมื่อปีก่อนโน้นเป็นของน้องฝึกงานคนหนึ่งที่คุณเอสแกคบอยู่ น้องฝึกงานคนนี้อยู่แผนกครัวทำอาหารเก่ง คุณเอสแกรักมากพาเข้าบ้านกะว่าจะแต่งงานเลยแหละเลยสั่งปรับปรุงห้องพักนี้ให้พิเศษกว่าห้องอื่นเพราะบางทีแกก็มาอยู่ด้วย คุณนี ฝ่ายบุคคลนี่แหละเป็นคนดูแลเรื่องนี้ อยู่มาวันหนึ่งน้องคนนี้แกเป็นลมล้มหัวฟาด Counter ในห้องน้ำสลบไปกว่าคนจะไปเจอก็ตอนคุณเอสโทรไปหาแล้วไม่รับหลายสายจนผิดสังเกต ไปถึงก็รีบนำส่ง รพ. แต่หมอช่วยไว้ไม่ทัน”

พอได้ฟังเรื่องทั้งหมดนี้ผมกับไอ้ชินก็ถึงบางอ้อแล้วก็ตัดสินใจว่าวันนี้เราจะนอนอยู่ด้านล่างที่เป็นส่วนนั่งเล่นของพนักงานที่หอนี่แหละแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะรีบขึ้นไปเก็บของแล้วออกไปเช่าห้องอยู่ที่อื่นหรือจะลองโทรหาอาจารย์ว่าเปลี่ยนที่ฝึกงานได้ไหม ผมและไอ้ชินเลยบอกพี่ รปภ. ไปว่าจะนอนตรงนั้น แกก็ไม่ได้ว่าอะไร เราสองคนไปนั่งทบทวนเหตุการณ์อยู่สักพักก็ ง่วง จนหลับไป

ตื่นมาอีกทีก็เป็นเวลาเกือบ 8 โมงแล้วผมกับไอ้ชินกะว่าจะรีบขึ้นห้องไปอาบน้ำและเก็บของก็เลยมองหาพี่ รปภ.ว่าจะขอบคุณแกแต่ก็ไม่เห็น กลายเป็นพี่ รปภ. คนใหม่ คาดว่าแกน่าจะเปลี่ยนกะออกไปแล้วแต่ไม่ได้บอกผมเพราะไม่อยากกวนพวกเรา แต่เพื่อความแน่ใจเผื่อแกจะยังไม่ได้กลับบ้านและอยู่แถวๆ นี้ผมเลยกะว่าจะไปขอบคุณแกเลยไปถาม พี่ รปภ. คนนั้น “พี่ครับ ... พี่ รปภ. กะกลางคืนกลับแล้วเหรอครับ” พี่มองดูผมกับไอ้ชินแล้วส่ายหัวก่อนทำหน้า งง แล้วถามกลับมาแบบมีเลศนัย “น้องหมายถึง รปภ. ผอมๆ สูงๆ ผมสั้น ตัวคล้ำๆ ใช่มั้ย?” ผมตอบว่า “ใช่ครับ” พี่เค้าก็พูดโพล่งออกมาเลย “น้อง... พี่คนนั้นน่ะเป็น รปภ. เก่า แกหลับยามแล้วไหลตายไปตั้งนานแล้วนะน้อง นี่เจออีกแล้วเหรอเนี่ย” ผมกับไอ้ชินนี่ตกใจและหลอนกันอีกครั้งครับก่อนถามย้ำ “พี่.. เมื่อคืนผมยังคุยกับแกอยู่เลย แกอยู่กะกลางคืนเมื่อคืนนะพี่” พี่ รปภ. แกตอบกลับมา “น้อง...พี่อยู่กลางคืนคนเดียวตั้งแต่เมื่อคืนมาตลอด ไม่มีใคร ตอนเย็นพี่มาต่อรอบพี่ยังเห็นน้องสองคนอยู่เลย น้องจำพี่ไม่ได้เหรอ? เมื่อคืนพี่ไปเข้าห้องน้ำกลับมาเห็นเอ็งสองคนหลับอยู่เลยไม่อยากปลุกนึกว่าเมาเข้ามาจากข้างนอก”

เป็นอีกครั้งที่ผมกับไอ้ชินเข่าทรุดลงกองกับพื้นทั้งคู่แล้วมีคำถามตัวโตๆ ในใจพร้อมความสงสัยว่า “ถ้าพี่เค้าอยู่กะกลางคืนแล้วคนที่ผมคุยด้วยเมื่อคืนเป็นวรรคเป็นเวรนั้นคือ....ใคร??????”

ปล. ทั้งหมดนี้มันคือนิยายนะครับไม่ใช่เรื่องจริงๆ อ่านเล่นๆ เพลินๆ นะทุกคน ฝันดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

บทความแนะนำ