วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ตอน "กรุณาเติมเงินด้วยค่ะ"

เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนเฮียกำลัง C/O แขกจากแดนสยามอยู่คนหนึ่งเหตุการณ์ก็ผ่านไปปกติเฮียก็ Print Guest Folio ให้แขก Check พี่แกก็เช็คทุกอย่างเรียบร้อยนะแล้วก็ยังถามสารทุกข์สุกดิบกันระหว่างเข้าพักว่า Ok ไหมพี่แกก็บอกว่า "OK บรรยากาศดี พนักงานบริการดีมาก แกชอบและจะกลับมาพักใหม่" แล้วเฮียก็แจ้งพี่แกกลับไปว่า "รอ Check Mini Bar สักครู่นะครับ" พี่เค้าก็ตอบกลับมาว่า "ไม่เป็นไรน้อง พี่ไม่รีบ แต่พี่ไม่ได้กินอะไรนะ" แล้วแกก็หันไปคุยกับลูก

สักพักนึงแม่บ้านก็โทรมาว่า "No Bar ค่ะเฮีย" อ่ะ เฮียก็จัดการถามแกเลย "ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงจะจ่ายเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตดีครับ" พี่แกก็ตอบมาว่า "จ่ายบัตรเครดิตจ๊ะ" แล้วก็ควักบัตรมาให้เฮีย สมัยนั้นบัตร Dabit Card เพิ่งออกใหม่ๆ ซึ่งเงื่อนไขการตัดเงินมันจะตัดตรงกับบัญชีที่ผูกบัตรไม่เหมือนบัตรเครดิตที่ตัดตรงกับยอดวงเงินสินเชื่อของเรา ตรงนี้เฮียก็ต้องดูให้แน่ใจก่อนว่ามันเป็นบัตร Dabit Card หรือ Credit Card เพื่อความแน่ใจในการจ่ายเงินเดี๋ยวเกิดเค้าไม่อยากให้ไปตัดเงินจากบัญชีเงินฝากเขาแล้วเราจะยุ่ง อีกเคสที่สมัยก่อนที่บัตร Dabit กำลังมาคือการทำ Card Ver ที่ต้องดูให้แน่ใจก่อนเลยแบบชัวร์ๆ ว่ามันเป็น Debit หรือ Credit Card เพราะถ้าเป็น Debit Card มันจะทำ Card Ver ไม่ได้ รูดปุ๊บ ตัดเงินปั๊บเลย อันนี้เฮียเคยเจอปัญหามาแล้วซึ่งมันวุ่นวายมากในขั้นตอนการทำเงินคืนในสมัยนั้น (เมื่อน่าจะประมาณปี 2553 นะเท่าที่จำได้) และร้อยทั้งร้อยจะโดนแขกด่าเละเลยถ้าใครเผลอไปทำ Card Ver บัตร Debit (แต่สมัยนี้คงเปลี่ยนแปลงไปแล้วตามการพัฒนาของเทคโนโลยีอ่ะนะ)

ตัดมาที่เคสนี้ต่อเฮียก็รับบัตรมาแล้วก็เช็คดูปรากกว่าเป็น Credit Card จริงๆ เฮียก็เลยจัดการรูดก่อนเลย ปรึ๊ดดดดด ปรากฏว่า EDC มันโชว์ว่า "ไม่อนุมัติและแสดงเป็น Code วงเงินในบัตรไม่พอ" อ่ะไม่เป็นไรเดี๋ยวลองอีกครั้งเฮียก็รูดใหม่ปรากฏว่า "วงเงินไม่พออีก" คราวนี้เฮียก็แจ้งแขกเลยว่า "ขอโทษนะครับคุณผู้หญิงไม่ทราบว่ามีบัตรใบอื่นไหมครับ" เป็นประโยคที่ให้เกียรติและทำให้แขกไม่ขายหน้ามากที่สุดเพราะถ้าเราลองขอแบบนี้แขกส่วนใหญ่จะรู้เลยโดยอัตโนมัติว่าเงินไม่พอ (แต่ก็แล้วแต่แขกแล้วแต่คนนะ)

พี่แกก็หงุดหงิดเลยทีนี้สาดมาเลยดอกแรก "จะรูดไม่ผ่านได้ไง ชั้นยังใช้ซื้อของอยู่เลยเมื่อเช้า (เฮียคิดในใจ เอิ่ม วงเงินพี่น่าจะหมดตั้งแต่ตอนนั้นแล้วหรือเปล่าฮะ)" เฮียก็คิดว่า อ่ะ ไม่เป็นไรเดี๋ยวรูดให้ดูอีกที เฮียก็เอาบัตรมารูดอีกครั้งปรากฏว่า "เหมือนเดิมคือไม่ผ่าน" ซึ่งแขกก็เห็นด้วยว่ามันไม่อนุมัติ คราวนี้โมโหเข้าไปใหญพาลมาด่าว่า "เครื่องเธอห่วยแตกหรือเปล่า มันเสียหรือเปล่าถึงรูดไม่ได้" เฮียก็ อ่ะ ไม่เป็นไรเดี๋ยวเปลี่ยนเครื่องให้ดู แล้วเฮียก็เดินไปรูดอีกเครื่องนึง ปรึ๊ดดดดด ปรากฏว่า "เหมือนเดิมคือเงินไม่พอ" คราวนี้เม้งแตกเลย โวยวาย เสียงดัง ด่าโรงแรม "ระบบห่วยแตก ชั้นไปรูดที่อื่นมารูดได้หมด มารูดไม่ได้ที่นี่แหละที่เดียว ปัญหาเยอะจริงๆ" เฮียก็ขอโทษและแจ้งแขกไปว่าเดี๋ยวผมลองระบบ "Key In ดูก่อนนะครับเผื่อจะได้ แต่ถ้าไม่ได้ยังไงรบกวนขอบัตรใบใหม่หรือรบกวนติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรด้วยนะครับ" แขกก็ตอบกลับมาแบบโมโหสุดเหวี่ยงว่า "เชิญเถอะ จะทำอะไรก็ทำ เร็วๆ ด้วยชั้นรีบ ปัญหาเยอะจริงโรงแรมเธอเนี่ย คราวหลังชั้นจะไม่มาและ วุ่นวาย"

เฮียก็จัดการ Key In เข้าไปปรากฏว่าก็เหมือนเดิมคือ "รูดไม่ผ่าน" แต่ในระหว่างที่กำลัง Key In แขกก็โทรติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรด้วยเช่นกันซึ่งพอเฮียคีย์แล้วไม่ผ่านเสร็จและรอสักพักจนเจ้แกคุยโทรศัพท์จนเสร็จปรากฏว่า เจ้คนนี้แกควักเงินสดออกมาจ่ายบิลครบทุกบาททุกสตางค์ก่อนขอบัตรคืนไปแล้วไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้น เฮียก็ทวนอีกทีเพราะรู้แล้วว่านี่คือ "เงินในบัตรไม่พอจริงๆ นั่นแหละ" ว่า "ชำระเป็นเงินสดนะครับ" แขกก็พยักหน้าแบบตึงๆ เหมือนกลบเกลื่อนความผิดน่ะ พอได้ใบเสร็จแล้วก็รีบพาลูกเดินออกนอกโรงแรมทันที

สรุปแว่... เงินในบัตรไม่พอจริงๆ แหละเลยรูดไมผ่านไม่ได้เกี่ยวกับ EDC เล้ย แต่สุดท้ายกูโดนด่าซะนี่

...ปล. แล้วพวกเอ็งเคยโดนแขกที่วงเงินเต็มด่าตอนรูดบัตรไม่ผ่านกันบ้างป่ะ???..


ไม่มีความคิดเห็น:

บทความแนะนำ