วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Cancel Day Off


Where Where is Where Wher แปลเป็นไทยว่า “ไหนๆ ก็ ไหนๆ และ” ว่ากันเรื่องโดน Cancel Day Off ไปแล้ว วันนี้เฮียมีประสบการณ์เรื่องการเปลี่ยน Shift มาเล่าให้ฟัง

อันนี้จากประสบการณ์เฮียที่ครั้งหนึ่งเฮียเคยทำงานในโรงแรมที่เขามีปัญหา Manpower ไม่พอ แต่ก็ไม่คิดจะเติมให้มันพออ่ะนะ อาจจะด้วยเหตุผลกลัวว่า Operation Cost มันจะเพิ่มหรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้ ตอนนั้นเฮียเป็น Duty Manager ทีนี้มันเป็นช่วงที่คนไม่พอทั้งแผนก Front Office เลย ชีวิตการทำงานของเฮียมันเลยออกมาแบบว่าอาทิตย์นี้เช้า Afternoon Shit เอ้ย!!!! Shift เฮียก็เข้ารอบบ่ายทำงานรอบบ่ายไปเรื่อยๆ จนมาถึงวันพุธเฮียต้องเปลี่ยนมาเข้ารอบดึกเพราะ Night Manager เขาลาหยุดยาว อ่ะ..ทีนี้เฮียก็มาเริ่มชีวิตกลางคืนเป็นเวลา 4 คืนตามที่ Night Manager เขาหยุด พอเข้างานรอบดึกเสร็จวันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุดเฮีย แต่ขอโทษรอบดึกของเมื่อวานที่เป็นวันทำงานแม่งกว่าจะ Clear งานส่งต่อรอบเช้าปาเข้าไป 9 โมงกลับบ้านอาบน้ำแต่งตัวซึ่งมันก็สดชื่นดิ ทีนี้ใครแม่งจะนอนหลับในทันทีวะ ว่าแล้วก็นั่งดูหนังทำนู้นทำนี่ไปคุยกับแม่บ้างเล่นกับหมาบ้างกว่าจะง่วงแม่งก็ปาเข้าไปเที่ยงวัน ถึงตรงนี้หมดและวันหยุดกูครึ่งวันหายไปเรียบร้อยแล้ว พอวันรุ่งขึ้นแม่งมาเข้างานบ่ายกลายเป็นมนุษย์กลางวันอีกปรับเวลากันอย่างกับกิ้งก่าอีกัวน่าแทบไม่ทัน วันดีคืนดีน้อง G.S.A รอบเช้าป่วยมาไม่ได้แล้วไม่มีคนแทน เฮียแม่งก็ต้องแปลงร่างเป็นมนุษย์ Morning Shit เอ้ย!! Shift อีก อาการแม่งเลย งงๆ มึนๆ ตึงๆ ต้องปรับตัวกันอีกแทบไม่ทัน

และที่เด็ดสุดเว้ย ตอนนั้นเฮียเข้ารอบบ่ายเลิกงาน 5 ทุ่ม แต่กว่าจะเคลียร์อะไรเสร็จแม่งก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่าๆ และ ทีนี้เที่ยงคืนก็แล้ว ตีหนึ่งก็แล้ว ตีหนึ่งครึ่งก็แล้ว Night Manager ก็ยังไม่มาซะที ที่โรงแรมโทรตามตั้งแต่เที่ยงคืนครึ่งก็ไม่ติดไม่รับ โทรไปที่หอเขาก็บอกว่าพี่ Night Manager เขาไม่อยู่หอติดต่อไม่ได้ อย่ากระนั้นเลยไอ้ครั้นจะปล่อยให้น้องรอบดึกกับ Night Audit อยู่ทำงานโดยไม่มี Manager เดี๋ยวมันเกิดมีเหตุการณ์ฉุกเฉินอะไรมามันจะพายุ่งกันไปใหญ่ ว่าแล้วก็ “ควงกะซิมึง” นี่ถ้าเป็น รปภ.กูรับสองแรงรวยแล้วเนี่ย กะบ่ายควบดึก ทำงานข้ามวันฉายวนอย่างกับโรงหนังพระโขนงราม่าลากกันไปตั้งแต่บ่ายสองยันแปดโมงเช้าของอีกวัน และที่เด็ดกว่านั้นเนื่องจากคนมันไม่มีและไม่ลงตัวจริงๆ เว้ย พอออกกะตอน 8 โมงกลับถึงบ้านอาบน้ำนอนก็ประมาณ 10 โมง พอบ่ายสามโมงเฮียแม่งต้องตื่นมาทำงานเข้ารอบบ่ายต่ออีก โอ้แย้!!!! “ที่สุดของแจ้” กันเลยทีเดียว

หลังๆ แม่เฮียเริ่ม งงๆ กับลูกตัวเองเห็นมันทำงานบ่ายบ้างเช้าบ้างดึกบ้าง สภาพเริ่มโทรมหน้าตาสิวเริ่มถามหาเพราะพักผ่อนไม่พอที่สำคัญไม่ได้เจอหน้าแม่ที่พลัดพรากจากกันนานกว่า 1 เดือนเลย (ออกแนวดราม่า) แม่เฮียแกเลยถาม “ตกลงมึงทำงานเวลาไหนเนี่ย กู งง กับมึงเหลือเกินจะชวนไปไหนบ้างก็ไม่ได้เดาเวลาทำงานมึงไม่ถูก” เฮียเลยบอกแม่กลับไปว่า “ผมมันอินดี้ แม่ไม่เข้าใจผมหรอก มันเป็นอารมณ์ศิลปินแม่” แกเลยตอบกลับมาสั้นๆ แต่ได้ใจความว่า “เรื่องของมึง”.... ว่าแล้วเฮียก็สรรหา แบนเนอร์โปรตีน วิตตามินซี น้ำมันปลาโอเมก้า3 มากิน กินแม่งอย่างกับเป็นขนมเลยอย่างน้อยๆ ก็ดีกว่าไม่ได้บำรุงอะไรเลยแหละวะ

จริงๆ ถ้าจำเป็นจริงๆ เวลาเฮียจัดตารางนะ ถ้าใครเข้ารอบเช้าเฮียจะให้มาแทนรอบบ่ายที่หยุดได้ไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าจะให้รอบบ่ายมาแทนรอบเช้าต้องจำเป็นจริงๆ ถึงจะให้มา (ซึ่งแม่งก็จำเป็นทุกครั้งแหละ) ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนกันตอนที่รอบบ่ายมันหยุดมาแล้วมากกว่า เพราะถ้าวันนี้รอบบ่ายเลิกงานเบ็ดเสร็จเที่ยงคืนกลับบ้านอาบน้ำนอนตีไปซะประมาณตี 1 แล้วต้องแหกรูม่านตามาเข้างานรอบเช้าอีกตอน 6 โมงเช้าในวันรุ่งขึ้นซึ่งมันต้องตื่นก่อนอยู่แล้วประมาณตี 4 ตี 5 ร่างกายมันอาจจะปรับตัวไม่ทันและพาลง่วงไปซะ ถ้าจะให้เปลี่ยนโดยรอบบ่ายไม่ได้หยุดมาก่อนแล้วจะให้มาเช้าเลยต้องถามกันก่อนถ้าจะให้ดีว่าไหวมั้ย (ส่วนใหญ่ก็ออกแนวจะบังคับให้มันไหวนั่นแหละ) ส่วนรอบบ่ายสามารถแทนรอบดึกในวันที่รอบดึกหยุดได้ไม่ค่อยมีปัญหานะแต่วันรุ่งขึ้นถ้ารอบบ่ายเข้างานแทนรอบดึกมันควรจะเป็นวันหยุดของคนที่เข้ารอบบ่ายจะได้พักผ่อนให้เพียงพอต่อไปเลย

Cr. เฮียไงจะใครล่ะ



ไม่มีความคิดเห็น:

บทความแนะนำ