วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558

เรื่องนี้พี่จะไม่ยุ่งงงงงงง



เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ได้รับ Request จากน้องรักท่านนึงที่ตอนนี้ได้ดิบได้ดีไปสิงอยู่ที่โรงแรมระดับ Luxury และก็ดีใจกะมันด้วย อยู่ดี ๆ ก็ไลน์มาบอก "เฮียมีคน Request เรื่องผีอ่ะ เฮียเล่าให้ฟังบ้างดิ" อ่ะเมื่อน้องขอมาเฮียจัดให้
ก่อนที่จะฟังเรื่องนี้เนี่ยทั้งแขกงี่เง่าที่ชมเพจนี้อยู่และพนักงานโรงแรมทุกชั้น วรรณะเพื่อเพิ่มบรรยากาศกรุณาปิดไฟทั้งบ้านเลยนะ แล้วเปิดเพลงแนวอึม ๆ ทึม ๆ เย็นยะเยือกขับกล่อมไปด้วยก็ดีนะเพื่อสร้างบรรยากาศ ส่วนถ้าแม่มาเจอแล้วถามว่า "มึงเป็นห่าอะไรปิดไฟทั้งบ้านเนี่ยก็บอกแม่ไปว่า ผมมันอินดี้แม่ไม่เข้าใจหรอก" หลังจากนั้นถ้ามีอะไรมากระทบหัวก็ตัวใครตัวมันนะถือว่าแม่ให้พร
เรื่องนี้เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่มตอนนั้นเฮียกินตำแหน่ง Night Manager อยู่เข้างานรอบดึกก็กำลังเข้ามาต่อรอบพอดี เฮียรับเช็คอินท์แขกคนหนึ่งที่มาเช็คอินท์ด้วยท่าทางอิดโรยเพื่อไฟลท์ดีเลยมา แม่งดีเลย์เป็นชั่วโมงแถมยังต้องนั่งรถจากสุวรรณภูมิมาพัทยาอีกสงส๊าน สงสารแกมาก มาถึงเฮียก็รีบทำทุกอย่างๆ เร็วที่สุดแล้วทีนี้ด้วยครั้งแรกเนี่ยตอนก่อนที่แขกจะมาเนี่ยเฮียเห็น booking ในระบบ Epi มันเหลือ Expect Arrival อยู่ 1 ห้องก็เลยขึ้นไปตรวจห้องก่อนที่แขกจะมาเช็คอินท์ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติของรอบดึกที่ต้องคอยสังเกตุพวกนี้ พอทำคีย์การ์ดขึ้นไปเสร็จพลันที่ลิฟท์เปิดประตูออกเนี่ยต้องบอกก่อนเลยว่าโรงแรมที่ทำงานอยู่นั้นเขาจะเข้าโหมด Energy Savine หลัง 3 ทุ่มเนี่ยเค้าจะหรี่ไฟเพื่อประหยัดพลักงานและปิดเพลงที่เปิดบนฟลอร์ เฮียเดินออกมาจากลิฟท์บรรยากาศเนี่ยรู้สึกว่ามันเงียบๆ มีแสงสลัว ๆ ออกแนวถ่ายหนังเรื่องพี่มาร์คพระประแดงได้เลย ก้าวย่างที่ค่อย ๆ เดินไปถึงห้องเนี่ยนึกสภาพว่าด้วยความที่มันเงียบแสงไฟริบหรี่สลัวๆ ไม่มีแม้แต่เสียงแขกที่คุยกันในห้องเล็ดลอดออกมาเหมือนช่วงวันหยุด Long weekend ที่แขกเยอะ ความรู้สึกมันเหมือนเฮียเดินอยู่ในโรงแรมคนเดียวแต่เหมือนมีคนมองอยู่จากด้านหลังจริงๆ นะ จนกระทั่งมาหยุดที่หน้าห้องก็เอาคีย์การ์เปิดเข้าไป พอเปิดห้องไปปุ๊บซีนแรกเจอเลยครับประตูระเบียงมันเปิดค้างอยู่แถมมีลมทะเลพัดเข้ามาเอื่อย ๆ กระทบผิวจนเย็นยะเยือกแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ใจก็ยังแอบโมโหแม่บ้านนิดนึงว่าทำไมทำห้องแล้วไม่ปิดประตู แล้วก็โทรศัพท์ลงไปที่ห้องแม่บ้าน "น้อง ทำห้องเตรียมอินท์ลืมปิดประตูระเบียบหรือเปล่าเนี่ยเฮียขึ้นมา Inspection ประตูยังเปิดอยู่เลย" ปลายสายมันตอบมาว่าไงรู้มั้ยครับ "เฮีย ผมปิดเรียบร้อยแล้วนะครับหมดทุกอันเลยผมเนี่ยแหละปิดกับมือเลยเฮีย แล้วมันจะเปิดได้ไงเฮีย ช่างเค้าเข้าไปซ่อมอะไรหรือเปล่าเฮียลองถามเค้าก่อนมั้ย แต่ Record ขึ้นไปซ่อมห้องของผมไม่มีนะเฮีย" จริง ๆ ตอนนั้นก็ยังเออ ออ กับมันนะว่าช่างอาจเข้ามาซ่อมอะไรวะเพราะห้องมันก็ไม่ได้มีแจ้งเสียอะไรถ้าเสียเค้าก็คง Assign ห้องอื่นตั้งแต่แรกแล้วเพื่อความแน่ใจก็เช็คไปที่ ช่าง ว่ามี Daily Log แจ้งซ่อมอะไรห้องนี้มั้ยเพราะปกติถ้าช่างจะซ่อมต้องแจ้งเอากุญแจที่ Front อยู่แล้วถ้าไม่ไปพร้อมแม่บ้าน พอเช็คไปก็ได้คำตอบเหมือนแม่บ้าน "ไม่มีนะเฮีย ผมไม่มีขึ้นซ่อนอะไรเลยนะห้องมันปกตินะเฮีย" ฝั่งช่างก็ไม่มีแจ้งอะไรเลย ความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้กลัวอะไรแต่สงสัยมากกว่าเพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้แล้วอีกอย่างการปิดประตูระเบียงเนี่ยให้รีบเร่งแค่ไหนหรือแม่บ้านมือใหม่แค่ไหนมันไม่ใช่อะไรที่น่าจะพลาดกันได้ แต่เฮียก็ยังไม่ได้สนใจอะไรนะ จนกระทั่ง Inspection เสร็จแล้วและกำลังเดินออกมาจะปิดประตูห้องยังไม่ทันจะหยิบคีย์การ์ดออกไฟในห้อง แอร์ ทีวี ดับพรึบพร้อมกันหมด เออ เยี่ยมคือด้วยความที่เฮียเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้เท่าไหร่ก็เลยนึกหงุดหงิดว่า "ห้องแม่งมีปัญหาอีกแล้วแขกจะมาแล้วเนี่ย" แต่เพื่อความมั่นใจก็เช็คอีกครั้งโดยการเอาคีย์ออกตอนที่มันยังมืด ๆ อยู่เนี่ยแหละแล้วก็เสียบใหม่...พรึบ!!! ไฟติดปกติ ทีวี แอร์ทำงาน ประมาณ 10 นาทีก็ลองเอาคีย์การ์ดออกไฟก็ดับปกติ ทำอยู่ประมาณสองรอบเพื่อให้แน่ใจว่าระบบไฟปกติดีจากนั้นก็กลับไป
ตัดกลับมาที่แขกที่เช็คอินท์เสร็จแล้วแกก็ขึ้นห้องไปพร้อมกับเบลที่เอากระเป๋าไปส่งให้แก แล้วเฮียก็ทำงานปกติไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเวลา 24.00 น.หรือเที่ยงคืน แขกคนเดิมเดินลงมาด้วยสภาพกางเกง Boxer เสื้อไม่ใส่และกระเป๋าเดินทางพร้อมสีหน้าที่ตกใจมากมาถึงก็ถามหา Manager เสียงดังลั่นเฮียก็รีบออกหน้ามารับทันที แกก็คุยกับผมแบบตกใจมากว่า "You หาห้องใหม่ให้ฉันหน่อยได้มั้ย ฉันขอร้อง ฉันนอนไม่ได้เลย ทำไม you ให้ห้องนี้กับฉัน (จริง ๆ ห้องนี้เป็นห้องที่ดีที่สุดที่มีตอนนั้นแถมเป็น FOC Upgarde ให้แกด้วยนะ" ผมก็บอกแกให้ใจเย็น ๆ มีปัญหาอะไรในห้องหรือเปล่าให้ช่างขึ้นไปดูไปแก้ไขให้มั้ย แกส่ายหน้าโบกมือไม่ ๆ ตลอดเวลา แกพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ ครับเหมือนตกใจว่า "ตอนแรกชั้นขึ้นไป ชั้นอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็นอนสักพัก ฝักบัวในห้องน้ำมันก็เปิดไหลเอง ชั้นนึกว่าชั้นลืมปิดชั้นเลยลุกขึ้นไปในห้องในแต่ในขณะที่ชั้นกำลังเดินเข้าไปในห้องน้ำฝักบัวมันก็หยุดใหล ชั้นนึกว่ามันเป็นปัญหาเรื่องท่อน้ำเลยไม่ได้เอะใจอะไรก็มานอน" เล่าถึงตอนนี้เหมือนแกยังตกใจอยู่แต่ไม่เท่าตอนแรกผมก็ชวนแกไปนั่งคุยที่โซฟาหน้า Lobby เพื่อให้แกผ่อนคลายจากนั้นแกก็เล่าต่อว่าแกนอนไปได้สัก 10 นาที คราวนี้ทีวีเปิดเอง แกก็งัวเงีย ๆ ว่าแกนอนทับรีโมทหรือเปล่าแต่พอหาไปหามามันไม่ใช่เพราะรีโมท์อยู่โต๊ะหน้าทีวีไม่ได้อยู่ที่เตียงคราวนี้แกเริ่มรู้สึกกลัวเลยเก็บของลงมาขอย้ายห้อง"
ผมไม่รอช้าเลยครับหาห้องใหม่ให้แขกโดยด่วนและเลือกห้องที่อยู่คนละตึกคนละโซนกับห้องเมื่อกี้เพื่อให้แกสบายใจพร้อมบอกแกว่าถ้ามีอะไร You โทรลงมาหาชั้นได้ตลอดเวลานะ พอเสร็จผมก็ให้ Bell เอาของแกขึ้นไปเก็บที่ห้องใหม่ก่อนแล้วก็แจ้งแม่บ้านไปเช็คห้องเก่าว่ามีอะไรหลงเหลืออยู่ไม่แล้วให้ Touch up ห้องกลับสูง OC เหมือนเดิม ก่อนแกขึ้นไปผมก็ชวนแกคุยหน้าล็อบบี้ก่อนประมาณ 15 นาทีให้แกผ่อนคลายจนแกขึ้นไปนอนบนห้องและก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก ส่วนห้องนั้นก็รู้กันในหมู่รอบดึกวันนั้นและพนักงานว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งผมก็ได้แจ้งฝ่ายบริหารไปให้ทำตามขั้นตอนต่อไป
....................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

บทความแนะนำ