วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ตอน สายชำระ
สมัยเฮียเป็น DM (Duty Manager) ในกรุงเทพโรงแรมที่เฮียทำงานเป็นอาคารที่ก่อสร้างมานานนับ 10 ปีแล้วซึ่งตัวโครงสร้างเค้าไม่ได้ทำระบบสายชำระในห้องน้ำมาคือเค้าใช้กระดาษทิชชู่เช็ด เอาเข้าจริงๆ แขกบางคนก็ OK ในเหตุผลของการประหยัดน้ำ (แต่เปลืองกระดาษซึ่งก็ไม่รู้ว่าระหว่างน้ำกับกระดาษอะไรมันควรจะประหยัดมากกว่ากันและก็ไม่เคยมีหน่วยงานไหนในชีวิตที่เฮียรู้ทำ Infographic มาเทียบให้ดูเลยว่า “น้ำ” กับ “กระดาษทิชชู่” ใช้อันไหนแล้วส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมกว่ากัน) แต่แขกบางคนโดยเฉพาะแถวตะวันออกกลางเค้าไม่ OK เพราะการใช้กระดาษเช็ดอย่างเดียวมันไม่สะอาดสำหรับเค้าเพราะซึ่งก็ไม่ผิดแต่กรณีของเฮียนี้โรงแรมรู้อยู่แล้วว่าต้องเจอปัญหาแบบนี้เราก็ได้แจ้งรายละเอียดนี้ไว้ในส่วนของรายละเอียดองพักในหน้าเว็บของโรงแรมและ OTAs เรียบร้อยแล้ว (สมัยนั้น FB ยังไม่เรืองอำนาจเท่าไหร่เลย Focus ที่ Direct Booking กับ OTAs เป็นหลัก)

ทีนี้วันนึงมีแขกเดินตรงดิ่งเข้ามาหาเฮียเลยแล้วก็ใส่เต็มๆ แบบโมโหมากว่า “ชั้นขอพบผู้จัดการหน่อย?” เฮียก็แสดงตัว “ชั้นเป็นผู้จัดการมีอะไรให้ช่วยเหลือครับ” แขกก็มาเต็มเลยว่า “เธอต้องหาห้องใหม่ให้ชั้นเดียวนี้เลยเพราะมั้นไม่มีสายชำระ ชั้นไม่สามารถใช้ห้องน้ำแบบนี้ได้เพราะมันไม่สะอาดสำหรับชั้น ชั้นต้องการห้องที่มีสายชำระในห้องน้ำเดี๋ยวนี้” เฮียก็ขอเบอร์ห้องแขกมาแล้วเปิดดูในระบบ PMS เพื่อดูข้อมูลการจองก่อนว่ามาจากช่องทางใด สำหรับ Case นี้เป็น Direct Booking จองตรงมาเองผ่านหน้าเว็บโรงแรมซึ่งถ้าเค้าอ่านสักนิดก็จะเห็นว่าเราไม่มีสายชำระอยู่แล้วในห้องน้ำ แต่ก็ที่รู้กันว่ากฏของแขกข้อแรกคือ “แขกถูกเสมอ” และถ้าแขกผิดก็ให้ย้อนไปดูข้อแรก เฮียก็เลยอธิบายก่อนว่า “ชั้นต้องขอโทษจริงๆ แต่โรงแรมเราทุกห้องเป็นกระดาษชำระหมดไม่มีสายชำระเลย” แขกก็โมโหแล้วก็บอกว่า “ยูไม่เข้าใจใช่ไหมว่าชั้นใช้กระดาษไม่ได้เพราะมันไม่สะอาด ยูไปหาห้องที่มีสายชำระมาให้ชั้นเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นชั้นจะ C/O ตอนนี้เลย”

คือพูดมาแบบนี้จากประสบการณ์ที่เคยเจอแน่นอนว่า “เค้าไม่ได้อ่าน Detail ของห้องพักที่เค้าจองแน่นอน” ว่าแล้วเฮียก็จัดการอธิบายไปเต็มๆ ว่า “โรงแรมของเราเป็นระบบนี้มา 10 ปีแล้ว เราไม่มีสายชำระในห้องน้ำ เราใช้กระดาษชำระซึ่งเราได้อธิบายไว้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ขั้นตอนการให้รายละเอียดห้องพักในหน้าเว็บไซต์ของเราที่ยูได้จองมา” เว้นวรรคแป๊บนึงเฮียต่อก๊อกสองว่า “ชั้นช่วยยูแบบนี้ได้ไหม เดี๋ยวชั้นจะให้ทางแม่บ้านนำถังน้ำพร้อมอุปกรณ์สำหรับตักน้ำไปวางไว้ข้างๆ แยกเป็นสัดส่วนให้ยูทำความสะอาด เพราะชั้นไม่สามารถที่จะติดสายชำระให้ได้จริงๆ (คือถ้าให้ทุบผนังแล้วเดินท่อน้ำเพื่อต่อสายชำระใหม่นี่ ท่าทางน่าจะต้องทำทั้งโรงแรมแหละนะคงปิด OOO เป็นปีแหละแบบนั้น) ได้ไหม?”

ตัวพี่แกก็ยังโมโหอยู่เพราะไม่พยายามจะเข้าใจอะไรเลย แต่ตัวเพื่อนที่มาด้วยกันตอนนี้เข้าใจแล้วว่ามันติดสายชำระไม่ได้และโรงแรมทำอะไรไม่ได้ก็เริ่มเข้ามากอดคอเพื่อนที่กำลังโมโหและด่าโรงแรมอย่างเมามันด้วยคำพูดเดิมๆ คือ “ทำไมติดสายชำระให้ชั้นไม่ได้ ชั้นจ่ายเงินมาพัก มันต้องติดได้ซิ ทำไม ทำไม ทำไม และทำไม” คือมีแต่ Why เต็มหน้า Counter เลยตอนนี้ทั้งไวน์แดง ไวน์ขาว โรเซ่ เต็มไปหมด จนเพื่อนเริ่มไม่ไหวและบอกกับเฮียว่า “Ok ไม่เป็นไรเดี๋ยวชั้นเคลียร์เอง” แล้วก็ลากเพื่อนที่ตอนนี้อารมณ์ยังเดือดอยู่ตามประสาคนรวยมาก โคตรรวย รวยไม่บันยะบันยัง รวยจนเขินของคนแถบๆ นี้ซึ่งพวกเอ็งน่าจะเคยเจออิทธิฤทธิ์กันมาบ้างแล้วเวลาที่เค้าไม่ได้ดั่งใจและไม่ต้องการเหตุผล

สรุปสุดท้ายเฮียก็ถามเพื่อนเค้าอีกครั้งว่า “จะเอาถังน้ำแยกไว้ไหม? จะได้ให้แม่บ้านไป Set up ให้เพราะมันติดสายชำระไม่ได้เนื่องจากปัญหาทางโครงสร้าง” เพื่อนพี่แกก็บอกว่าไม่เอาไม่เป็นไร ที่ตลกคืออะไรรู้ป่ะ? หลังจากนั้น 2 วัน พี่คนนี้คนเดิมที่เสิรฟ์ไวน์ให้เฮียนี่แหละลงมา Extend Stay ต่ออีกคืนนึงพร้อมสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส .........เออ งง เดาอารมณ์ไม่ถูกเลยกู

เฮียว่าโรงแรมไหนที่เป็นร
ะบบกระดาษชำระแทนสายชำระน่าจะเคยเจอกับปัญหานี้มาบ้างนะ ซึ่งเราก็ต้องเข้าใจแขกที่เค้าไม่ชอบใช้กระดาษเพราะมันรู้สึกไม่สะอาดจริงๆ แหละ แต่บางคนก็เฉยๆ และ OK ไม่มีปัญหา


ไม่มีความคิดเห็น:

บทความแนะนำ